Home »
Uncategories »
เผยศีล 1 ข้อ ของผู้ประเสริฐ
เผยศีล 1 ข้อ ของผู้ประเสริฐ
ใ น ศี ล ห้า เป็นศีลของ มนุษย์ผู้ที่เกิดมาเป็นมนุษย์จะต้อง มีศีลห้าบริบูรณ์ ศีลห้าจึงเป็นศีล ของมนุษย์
มีคำถ า ม ถามว่า “มีใครรักษาศีลห้าได้ครบถ้วนตลอดชีวิตบ้าง” โปรดยกมือขึ้น จะเห็นได้ว่าไม่มี คนยกมื อ
นี่ก็แสดงว่า ลำพังแต่ศีล เพียงห้าข้อก็รักษากันไว้ ไม่ได้เสี ยแล้ว
พ
ระพุทธองค์ทรง แสดงไว้ว่ า “ให้รักษาใจ ตัวเดียว” ดังในสมัยพุทธกาล
ภิกษุรูปหนึ่งในจำนวน ๕๐๐รูปผู้บวชใหม่
เมื่อบวชแล้วได้ไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค
เ พื่ อขอลาสิกขา โดยกล่าวว่ า
ศีลของภิกษุมาก เหลือเกิน ปฏิบัติไม่ไหว จึงขอลาสิกขา
พระพุทธองค์จึงให้ภิกษุรูปนั้น รักษาศีลเพียงข้อเดียว คือให้รักษาใจ
พ ระภิกษุรูปนั้น จึงรับถือศีลข้อเดียว จนได้สำเร็จอริยบุคคล
ห
ลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ตอบคำถามที่ว่า “ทราบว่าท่านรักษาศีล เพียงข้อเดียว
มิได้รักษาทั้ง ๒๒๗ข้อ เหมือนพระทั้งหลายที่รักษากันใช่ไหม”
ห
ลวงปู่ฯ ตอบว่ า “ใช่ อาตมารักษา เพียงอันเดียว คือใจ อาตมารักษาใจ
ไม่ให้คิดพูดทำ ในทางผิ ด อันเป็นการล่วงเกินข้อห้าม
ที่ทรงบัญญัติไว้จะเป็น๒๒๗ ข้อ
หรือมากกว่านั้น ก็ตาม
บรรดาที่เป็นข้อทรงบัญญัติ ห้า ม อาตมาก็ใจเย็นว่าตนมิได้ทำผิ ด
ต่อพุทธบัญญัติ ส่วนท่านผู้ใดจะว่าอาตมารักษาศีล ๒๒๗หรือไม่นั้น
สุ
ดแต่ผู้นั้นจะคิด จะพูดเอาตามความคิดของตน เฉพาะอาตมาได้รักษาใจ
อันเป็นประธานของกาย วาจา อย่างเข้มงวดกวดขันมาตลอด นับแต่เริ่มอุปสมบท
ฯลฯ”
ใ จ เป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกอย่างใจ ถึงก่อน ทุกอย่างสำเร็จด้วยใจ
-ใ จดี ทุกอย่างดีตามไปทั้งหมด
-ใ จชั่ ว ทุกอย่างชั่ วตามไปหมด เหมือนกัน
ทุ กอย่างอยู่ที่ตัวเรา เป็นผู้กำหนดในปัจจุบัน อดีต อนาคตไม่ต้องสนใจ เพราะอะไ ร
เ พราะอดีต และอนาคต ก็คือ ผลจากปัจจุบัน นั่นเอง
ก ลิ่ นศีลหอมทวนลม หอมกลิ่นดอกไม้ ที่นับถือ
ห อมแต่ตามลมลือ กลับย้อนหอมแห่งกลิ่นกล่าวคือ ศีลสัตย์ นี้นา
ห อมสุดหอมสะท้อน ทั่วใกล้ไกลถึง
ทำอย่างไรจึง จะรักษาศีล ๕ ตลอดชีวิตได้
การรักษาศีล
คือ การมีเจตนางดเว้นจากการทำความชั่ ว ดังคำพุทธพจน์รับรองว่า “เจตนาหัง
ภิกขะเว สีลัง วะทามิ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่าเจตนาเป็น
เครื่องงดเว้น นั่นแหละคือ ศีล”
การง ดเว้น มีอยู่ ๓ ประการ คื อ
๑. ส ม าทานวิรัติ คือ การงดเว้นด้วยการสมาทาน เช่น สมาทานศีลกับพระ
๒.
สั ม ปัตตวิรัติ คือ การง ดเว้นเมื่อมีเหตุบังเกิดขึ้น
เฉพาะหน้าแม้ไม่สมาทาน แต่เมื่อมีเหตุการณ์อันใดอันหนึ่งที่จะผิ ดศีล
และตั้งใจงดเว้นขึ้นในขณะนั้น
ถือว่าเป็นศีลเพราะตั้งใจงดเว้นเอาเอง
๓.
ส มุ จ เฉทวิรัติ คือ การงดเว้นโดยเ ด็ ดข าด
นั่นคือศีลของพระอริยะบุคคลซึ่ง เป็นโลกุตตระศีล เป็นศีลขั้นสูง เช่น
พระโสดาบันรักษาสิกขาบท๕
หรือศีล ๕นี้ได้ตลอดชีวิต เป็นศีลที่รักษาได้โดยอัตโนมัติ คื องดเว้นโดยเด็ดขาด โดยไม่ต้องสมาทานและไม่ต้องตั้งเจตนา
ศี
ลนี้ หากใครรักษาดีแล้ว ย่อมอำนวยประโยชน์แก่ผู้นั้น
มากมายเป็นประโยชน์ในชาตินี้ คื อ มีความเย็นใจไม่เ ดื อดร้อน
เพราะเป็นผู้มีศีล ประโยชน์ในชาติหน้ า
พ ระพุทธองค์ได้ ทรงแสดงสรุปผล ของศีลไว้ ๓ ประการว่า
“สี เ ล นะสุคะติง ยันติ บุคคลจะไปสู่สุคติได้ก็เพราะศีลสีเลนะโภคะ สัมปะทา บุคคลจะมีโภคะได้ก็เพราะศีลสีเลนะ นิพพุติง ยันติ
บุคคลจะบรรลุ พ ระนิพพานได้ ก็เพราะ ศี ล”