1. น้ำมันก๊าด
ไม่บอกก็รู้ว่า น้ำมันก๊าด มีกลิ่นรุนแรงขนาดไหน เพราะแม้แต่คนที่สูดดมเข้าไปมาก ๆ ก็ยังแอบเวียนหัวอยู่เหมือนกัน นับประสาอะไรกับหนูตัวเล็ก ๆ เมื่อเจอเข้ากับกลิ่นของน้ำมันก๊าด รับรองว่าเจ้าหนูทั้งหลายจะเข็ดขยาดจนไม่อยากอยู่ในบ้านหลังเดิมอีกต่อไปเลยล่ะ วิธีการก็แค่เทน้ำมันก๊าดใส่ถ้วยเล็ก ๆ ไปวางไว้ตามจุดที่คาดว่าหนูอาศัยอยู่เท่านั้นค่ะ หรือจะวางไว้กับแหล่งอาหารของหนูก็ได้ แต่ควรระวังอย่าใช้ในบ้านที่มีเด็ก และต้องหมั่นเปิดหน้าต่าง ประตู เพื่อระบายกลิ่นบ้างนะคะ และสามารถเปลี่ยนเป็นน้ำมันสน หรือน้ำมันกลิ่นฉุนอื่น ๆ ก็ได้
2. ลูกเหม็น
กลิ่นของลูกเหม็นแม้จะไม่รุนแรงเท่าน้ำมันก๊าด แต่ก็เป็นกลิ่นที่ไม่รัญจวนใจนัก หนูทั้งหลายจึงไม่ค่อยสบอารมณ์กับกลิ่นของลูกเหม็นสักเท่าไหร่ หากนำลูกเหม็นไปวางไว้ในจุดที่คิดว่าหนูจะวนเวียนอยู่ เช่น ใกล้ถังขยะ ฝ้าเพดาน หรือมุมอับภายในครัว เท่านี้หนูก็จะเบื่อหน่ายกับกลิ่นจนอยากย้ายบ้านหนีไปเลย
3. เปิดไฟให้สว่าง
เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ง่ายแสนง่าย เพราะแสงไฟจะทำให้หนูแสบตา และไม่กล้าออกมาแสดงตัวมากนัก ซึ่งเมื่อไฟยังสว่างอยู่หนูก็จะกล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะออกมาคุ้ยหาอาหาร หรือแทะข้าวของต่าง ๆ ให้พังเสียหาย ซึ่งผลที่ตามมาอาจจะต้องแลกด้วยค่าไฟที่เพิ่มขึ้นจนน่าใจหายอยู่เหมือนกัน
4. ประทัด
นอกจากกลิ่นเหม็นแล้ว หนูก็ยังเป็นสัตว์ที่ขี้ตกใจพอสมควร ดังนั้นหากอยากไล่หนูให้แตกกระเจิง ลองซื้อประทัดมาจุดใกล้ ๆ รังหนู เพื่อให้ครอบครัวหนูตกใจกับเสียงประทัดจนต้องอพยพกันออกไป แต่การจุดประทัดก็ต้องใช้ความระมัดระวัง ทั้งตัวผู้จุดเองและอย่าไปโยนใส่ตัวหนูโดยตรง ไม่อย่างนั้นคงเป็นภาพที่สยองขวัญน่าดู
5. กรงดักหนู
วิธีง่าย ๆ ที่นิยมใช้กันมานาน เพียงแค่ซื้อกรงดักหนู แล้วนำอาหารหรือเหยื่อล่อหนูใส่เข้าไป จากนั้นเมื่อหนูวิ่งเข้าไปในกรงแล้ว กรงก็จะปิดลง เราก็แค่นำหนูในกรงไปปล่อยไว้ให้ไกลบ้านมากที่สุด และต้องไกลจากบ้านคนอื่นด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้นจะเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้เพื่อนบ้านแทน
ซึ่งเทคนิคในการวางกรงดักหนูก็คือ ให้วางมากกว่า 1 กรง และวางให้หันหลังชนกัน หนูจะได้เข้ามาติดกับได้ทั้งสองทาง อีกทั้งถ้ายิ่งวางติดกำแพงได้ก็ยิ่งดี เนื่องจากหนูมักวิ่งลัดเลาะแถว ๆ ริมกำแพงมากที่สุด และที่สำคัญเมื่อใช้กรงเสร็จแล้วให้ล้างจนสะอาดทุกครั้ง เพราะกลิ่นของหนูตัวเดิมจะทำให้หนูตัวใหม่ไม่เข้าใกล้กรงจ้า
6. เม็ดไล่หนู
เม็ดไล่หนูก็ใช้หลักการเดียวกันกับการวางลูกเหม็น แต่แตกต่างกันตรงที่เม็ดไล่หนูจะมีลักษณะเป็นเม็ดสีดำ กลิ่นฉุน เมื่อนำไปวางไว้ใกล้จุดที่คาดว่าหนูจะออกมาปรากฏตัว จะทำให้หนูทนกลิ่นไม่ไหวและหนีหายไปในที่สุด ซึ่งเม็ดไล่หนูสามารถหาซื้อได้ที่ร้านทุกอย่าง 60 บาท แต่ข้อเสียก็คือกลิ่นฉุนอาจทำให้ผู้ใช้มึนได้เหมือนกันนะคะ
7. สมุนไพรไล่หนู
ปัจจุบันมีสมุนไพรไล่หนูขายกันอยู่ทั่วไป สามารถหาซื้อได้ง่ายในซูเปอร์มาร์เกต โดยน้ำยาไล่หนูเหล่านั้น ถูกสกัดขึ้นจากสมุนไพรไทย ๆ อย่าง กะเพรา, สะระแหน่ หรือใบมะกรูด เป็นต้น ซึ่งข้อดีคือไม่มีพิษร้ายแรง และไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ แต่ข้อเสียคือมักมีอายุการใช้งานที่สั้น กลิ่นจางไว ทำให้ต้องใช้ในปริมาณมาก
8. ต้นยี่โถ
กลิ่นของต้นยี่โถทำให้หนูไม่ค่อยชอบใจนัก ดังนั้นหากปลูกต้นยี่โถติดสวนเอาไว้สักต้นสองต้น แล้วตัดเอากิ่งยี่โถ ไปวางไว้ในบริเวณที่หนูชุกชุม หนูซึ่งมีจมูกไวก็จะได้กลิ่นรุนแรงจนทนไม่ไหว และอพยพย้ายถิ่นฐานกันไปในที่สุด แต่ข้อสำคัญคือต้องหมั่นเปลี่ยนกิ่งใหม่บ่อย ๆ เพราะเมื่อกิ่งยี่โถแห้งเหี่ยว กลิ่นก็จะจางลงค่ะ
9. เลี้ยงแมว
เป็นวิธีง่าย ๆ ที่หลายบ้านนิยมทำกันมานาน ยิ่งโดยเฉพาะในปัจจุบันที่เทรนด์เลี้ยงแมวกำลังมาแรง ถ้าคุณเป็นคนรักสัตว์ แค่เลี้ยงแมวติดบ้านเอาไว้สักตัว แมวก็จะกำจัดโจทก์เก่าอย่างหนูให้หมดไปอย่างรวดเร็ว เพราะแค่หนูมองเห็นและได้กลิ่นแมวที่เลี้ยงไว้ ก็คงเตรียมเก็บข้าวเก็บของเผ่นออกจากบ้านแล้วล่ะจ้า
10. ทรายแมว
หากบ้านไหนไม่อยากเลี้ยงแมวให้วุ่นวาย ทางแก้อีกวิธีก็คือลองหาทรายแมว ที่แมวฉี่ใส่เอาไว้แล้ว โดยอาจขอจากเพื่อนบ้านที่เลี้ยงแมวก็ได้ แล้วนำทรายแมวใส่ถุงผ้า ไปวางไว้ใต้เพดาน หรือบริเวณที่หนูเพ่นพ่าน หนูจะหลอนกับกลิ่นฉุนจากฉี่ของโจทก์เก่า จนไม่อยากย่างกรายผ่านมาอีกเลย แต่ทางที่ดีเลือกวางเฉพาะจุดดีกว่านะคะ ไม่อย่างนั้นคุณคงจะฉุนจนมึนตามหนูไปแน่ ๆ
ลองสำรวจรอบ ๆ บ้านดูสักหน่อย ว่ามีจุดไหนบ้างที่หนูสามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ เช่น ซอกเล็กซอกน้อยบนหลังคา, รอยแยกบริเวณฝ้าเพดาน, รูกำแพง, ประตู-หน้าต่างห้องครัว หรือท่อน้ำ เป็นต้น แล้วจัดการปิดรอยรั่วเหล่านั้นให้หมดสิ้น อย่างน้อยก็เป็นการป้องกันไม่ให้หนูสามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ง่าย ๆ
12. กำจัดแหล่งอาหาร
การจัดการบ้านให้สะอาดหมดจด ไม่มีเศษอาหารตกค้าง จะเป็นการดีที่ทำให้หนูมองข้ามบ้านของคุณไปได้ง่าย ๆ เนื่องจากแหล่งอาหารของหนูถูกกำจัดจนหมดสิ้น ขืนอาศัยอยู่ในบ้านคุณต่อไปก็คงอดตายกันทั้งครอบครัวแน่ ๆ จากนั้นลองจัดบ้านให้โล่งและไม่มีมุมอับ จะได้หมดที่ซ่อนตัวของครอบครัวหนูด้วยจ้า
ได้รู้จักกับวิธีไล่หนูแบบไม่ต้องฆ่ากันไปแล้ว ก็อย่าลืมลองนำวิธีเหล่านี้ไปลองใช้กันดูนะคะ ซึ่งบางวิธีก็อาจจะเหมาะกับหนูบางตัว ลองใช้หลาย ๆ วิธีเผื่อจะเจอทางออกที่ดีเข้าสักทาง หากใครมีวิธีดี ๆ ก็อย่าลืมแบ่งปันเพื่อน ๆ บ้างนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้บอกลากับหนูได้ไว ๆ จ้า
ไม่บอกก็รู้ว่า น้ำมันก๊าด มีกลิ่นรุนแรงขนาดไหน เพราะแม้แต่คนที่สูดดมเข้าไปมาก ๆ ก็ยังแอบเวียนหัวอยู่เหมือนกัน นับประสาอะไรกับหนูตัวเล็ก ๆ เมื่อเจอเข้ากับกลิ่นของน้ำมันก๊าด รับรองว่าเจ้าหนูทั้งหลายจะเข็ดขยาดจนไม่อยากอยู่ในบ้านหลังเดิมอีกต่อไปเลยล่ะ วิธีการก็แค่เทน้ำมันก๊าดใส่ถ้วยเล็ก ๆ ไปวางไว้ตามจุดที่คาดว่าหนูอาศัยอยู่เท่านั้นค่ะ หรือจะวางไว้กับแหล่งอาหารของหนูก็ได้ แต่ควรระวังอย่าใช้ในบ้านที่มีเด็ก และต้องหมั่นเปิดหน้าต่าง ประตู เพื่อระบายกลิ่นบ้างนะคะ และสามารถเปลี่ยนเป็นน้ำมันสน หรือน้ำมันกลิ่นฉุนอื่น ๆ ก็ได้
2. ลูกเหม็น
กลิ่นของลูกเหม็นแม้จะไม่รุนแรงเท่าน้ำมันก๊าด แต่ก็เป็นกลิ่นที่ไม่รัญจวนใจนัก หนูทั้งหลายจึงไม่ค่อยสบอารมณ์กับกลิ่นของลูกเหม็นสักเท่าไหร่ หากนำลูกเหม็นไปวางไว้ในจุดที่คิดว่าหนูจะวนเวียนอยู่ เช่น ใกล้ถังขยะ ฝ้าเพดาน หรือมุมอับภายในครัว เท่านี้หนูก็จะเบื่อหน่ายกับกลิ่นจนอยากย้ายบ้านหนีไปเลย
3. เปิดไฟให้สว่าง
เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ง่ายแสนง่าย เพราะแสงไฟจะทำให้หนูแสบตา และไม่กล้าออกมาแสดงตัวมากนัก ซึ่งเมื่อไฟยังสว่างอยู่หนูก็จะกล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะออกมาคุ้ยหาอาหาร หรือแทะข้าวของต่าง ๆ ให้พังเสียหาย ซึ่งผลที่ตามมาอาจจะต้องแลกด้วยค่าไฟที่เพิ่มขึ้นจนน่าใจหายอยู่เหมือนกัน
4. ประทัด
นอกจากกลิ่นเหม็นแล้ว หนูก็ยังเป็นสัตว์ที่ขี้ตกใจพอสมควร ดังนั้นหากอยากไล่หนูให้แตกกระเจิง ลองซื้อประทัดมาจุดใกล้ ๆ รังหนู เพื่อให้ครอบครัวหนูตกใจกับเสียงประทัดจนต้องอพยพกันออกไป แต่การจุดประทัดก็ต้องใช้ความระมัดระวัง ทั้งตัวผู้จุดเองและอย่าไปโยนใส่ตัวหนูโดยตรง ไม่อย่างนั้นคงเป็นภาพที่สยองขวัญน่าดู
5. กรงดักหนู
วิธีง่าย ๆ ที่นิยมใช้กันมานาน เพียงแค่ซื้อกรงดักหนู แล้วนำอาหารหรือเหยื่อล่อหนูใส่เข้าไป จากนั้นเมื่อหนูวิ่งเข้าไปในกรงแล้ว กรงก็จะปิดลง เราก็แค่นำหนูในกรงไปปล่อยไว้ให้ไกลบ้านมากที่สุด และต้องไกลจากบ้านคนอื่นด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้นจะเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้เพื่อนบ้านแทน
ซึ่งเทคนิคในการวางกรงดักหนูก็คือ ให้วางมากกว่า 1 กรง และวางให้หันหลังชนกัน หนูจะได้เข้ามาติดกับได้ทั้งสองทาง อีกทั้งถ้ายิ่งวางติดกำแพงได้ก็ยิ่งดี เนื่องจากหนูมักวิ่งลัดเลาะแถว ๆ ริมกำแพงมากที่สุด และที่สำคัญเมื่อใช้กรงเสร็จแล้วให้ล้างจนสะอาดทุกครั้ง เพราะกลิ่นของหนูตัวเดิมจะทำให้หนูตัวใหม่ไม่เข้าใกล้กรงจ้า
6. เม็ดไล่หนู
เม็ดไล่หนูก็ใช้หลักการเดียวกันกับการวางลูกเหม็น แต่แตกต่างกันตรงที่เม็ดไล่หนูจะมีลักษณะเป็นเม็ดสีดำ กลิ่นฉุน เมื่อนำไปวางไว้ใกล้จุดที่คาดว่าหนูจะออกมาปรากฏตัว จะทำให้หนูทนกลิ่นไม่ไหวและหนีหายไปในที่สุด ซึ่งเม็ดไล่หนูสามารถหาซื้อได้ที่ร้านทุกอย่าง 60 บาท แต่ข้อเสียก็คือกลิ่นฉุนอาจทำให้ผู้ใช้มึนได้เหมือนกันนะคะ
7. สมุนไพรไล่หนู
ปัจจุบันมีสมุนไพรไล่หนูขายกันอยู่ทั่วไป สามารถหาซื้อได้ง่ายในซูเปอร์มาร์เกต โดยน้ำยาไล่หนูเหล่านั้น ถูกสกัดขึ้นจากสมุนไพรไทย ๆ อย่าง กะเพรา, สะระแหน่ หรือใบมะกรูด เป็นต้น ซึ่งข้อดีคือไม่มีพิษร้ายแรง และไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ แต่ข้อเสียคือมักมีอายุการใช้งานที่สั้น กลิ่นจางไว ทำให้ต้องใช้ในปริมาณมาก
8. ต้นยี่โถ
กลิ่นของต้นยี่โถทำให้หนูไม่ค่อยชอบใจนัก ดังนั้นหากปลูกต้นยี่โถติดสวนเอาไว้สักต้นสองต้น แล้วตัดเอากิ่งยี่โถ ไปวางไว้ในบริเวณที่หนูชุกชุม หนูซึ่งมีจมูกไวก็จะได้กลิ่นรุนแรงจนทนไม่ไหว และอพยพย้ายถิ่นฐานกันไปในที่สุด แต่ข้อสำคัญคือต้องหมั่นเปลี่ยนกิ่งใหม่บ่อย ๆ เพราะเมื่อกิ่งยี่โถแห้งเหี่ยว กลิ่นก็จะจางลงค่ะ
9. เลี้ยงแมว
เป็นวิธีง่าย ๆ ที่หลายบ้านนิยมทำกันมานาน ยิ่งโดยเฉพาะในปัจจุบันที่เทรนด์เลี้ยงแมวกำลังมาแรง ถ้าคุณเป็นคนรักสัตว์ แค่เลี้ยงแมวติดบ้านเอาไว้สักตัว แมวก็จะกำจัดโจทก์เก่าอย่างหนูให้หมดไปอย่างรวดเร็ว เพราะแค่หนูมองเห็นและได้กลิ่นแมวที่เลี้ยงไว้ ก็คงเตรียมเก็บข้าวเก็บของเผ่นออกจากบ้านแล้วล่ะจ้า
10. ทรายแมว
หากบ้านไหนไม่อยากเลี้ยงแมวให้วุ่นวาย ทางแก้อีกวิธีก็คือลองหาทรายแมว ที่แมวฉี่ใส่เอาไว้แล้ว โดยอาจขอจากเพื่อนบ้านที่เลี้ยงแมวก็ได้ แล้วนำทรายแมวใส่ถุงผ้า ไปวางไว้ใต้เพดาน หรือบริเวณที่หนูเพ่นพ่าน หนูจะหลอนกับกลิ่นฉุนจากฉี่ของโจทก์เก่า จนไม่อยากย่างกรายผ่านมาอีกเลย แต่ทางที่ดีเลือกวางเฉพาะจุดดีกว่านะคะ ไม่อย่างนั้นคุณคงจะฉุนจนมึนตามหนูไปแน่ ๆ
11. ปิดทางเข้า
ลองสำรวจรอบ ๆ บ้านดูสักหน่อย ว่ามีจุดไหนบ้างที่หนูสามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ เช่น ซอกเล็กซอกน้อยบนหลังคา, รอยแยกบริเวณฝ้าเพดาน, รูกำแพง, ประตู-หน้าต่างห้องครัว หรือท่อน้ำ เป็นต้น แล้วจัดการปิดรอยรั่วเหล่านั้นให้หมดสิ้น อย่างน้อยก็เป็นการป้องกันไม่ให้หนูสามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ง่าย ๆ
12. กำจัดแหล่งอาหาร
การจัดการบ้านให้สะอาดหมดจด ไม่มีเศษอาหารตกค้าง จะเป็นการดีที่ทำให้หนูมองข้ามบ้านของคุณไปได้ง่าย ๆ เนื่องจากแหล่งอาหารของหนูถูกกำจัดจนหมดสิ้น ขืนอาศัยอยู่ในบ้านคุณต่อไปก็คงอดตายกันทั้งครอบครัวแน่ ๆ จากนั้นลองจัดบ้านให้โล่งและไม่มีมุมอับ จะได้หมดที่ซ่อนตัวของครอบครัวหนูด้วยจ้า
ได้รู้จักกับวิธีไล่หนูแบบไม่ต้องฆ่ากันไปแล้ว ก็อย่าลืมลองนำวิธีเหล่านี้ไปลองใช้กันดูนะคะ ซึ่งบางวิธีก็อาจจะเหมาะกับหนูบางตัว ลองใช้หลาย ๆ วิธีเผื่อจะเจอทางออกที่ดีเข้าสักทาง หากใครมีวิธีดี ๆ ก็อย่าลืมแบ่งปันเพื่อน ๆ บ้างนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้บอกลากับหนูได้ไว ๆ จ้า