ว่าด้วยเรื่องการต่อราคา แง่คิดดีๆจากลุงขายมะพร้าว

การพูดโต้ตอบ ระหว่างคนซื้อมะพร้าวน้ำหอมกับคนขาย

เวลาไปซื้อของแถวตลาดนัด หรือที่อื่นๆ คุณเคย ต่อราคาของที่ซื้อไหม ฉันเป็นคนนึงนะที่เคยทำแบบนั้น แล้วมีอยู่วันหนึ่ง ฉันอ่านไปเจอกับบทความในเพจเพจหนึ่งในบทความนั้นเป็นการสนทนาการต่อราคาของคนซื้อกับคนขายเนื้อหาในบทสนทนานี้ไม่ได้ยืดยาวอะไรมากนักแต่แฝงไปด้วยข้อคิดเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจทำให้เราฉุกคิดและนึกย้อนกลับมามองตัวเอง อีกครั้ง…

คนขายมะพร้าวน้ำหอม ขายลูกละ 30 บาท แต่คนซื้อบอกว่าแพงไป

คนซื้อ : มะพร้าวน้ำหอม ลูกละ 30 บาท ทำไมแพงจัง ลดเหลือ 15 บาทได้มั้ยลุง

คนขาย : คงลดให้ไม่ได้หรอก เพราะปลูกเอง ไหนจะเอามาขายอีก ยืนตากแดดขายทั้งวัน คิดแค่ค่าต้นทุนก็เกิน 15 บาทแล้ว

ณ ตอนนั้น ในมือของคนซื้อถือแก้วกาแฟคาปูชิโน่อยู่ คนขายเลยถามไปว่า…

คนขาย : แล้วกาแฟคาปูชิโน่ที่ถืออยู่ในมือราคาเท่าไหร่ล่ะ

คนซื้อ : …..150 บาท

คนขาย : แล้วคุณได้ต่อราคาเขาไหม

คนซื้อ : จะบ้าหรอ กาแฟเค้ามียี่ห้อ จะต่อราคาได้ไง

คนขาย : กับคนรวย คุณไม่ต่อสักบาทเดียว แต่พอกับคนจน คุณกลับต่อราคาถึง 15 บาท

คนซื้อยืนอึ้ง พูดอะไรไม่ออก …

(พออ่านจบ ฉันก็รู้สึกว่า เออ มันก็จริงนะ)

ถามว่า….เพราะอะไรเราจึงต่อราคากับพ่อค้าจนๆ ที่ต้องยืนขายของกลางแดดร้อนแต่กลับไม่เคยต่อราคากับผู้ค้าที่ร่ำรวยตามห้างฯหรือภัตตาคาร

ทำไม จึงต้องมาเอาเปรียบคนจนที่ต้องทำงานหนักถ้าเราเป็นหนึ่งในคนที่ร่วมเอาเปรียบคนจนอยู่เราใช้จ่ายในห้างเป็นพันๆ ตามห้างฯและร้านอาหารหรูๆแต่กลับต่อราคากันบาทต่อบาทกับคนจน ซึ่งต้องทำงานหนักเลี้ยงตัวเองและครอบครัวของเขา

อย่าต่อราคากับคนหาเช้ากินค่ำเลย อะไรที่ช่วยได้ก็ช่วยกันเถอะค่ะ แบ่งปันได้ก้อแบ่งปันกันค่ะ