Home »
สุขภาพ
»
แนะนำ แพทย์บอกใครดื่มน้ำอุ่นบ่อย ๆ ดูไว้เลย
แนะนำ แพทย์บอกใครดื่มน้ำอุ่นบ่อย ๆ ดูไว้เลย
ห ลายๆ คนคงทราบกันบ้าง แล้วว่าการดื่ มน้ำเย็นนั้น ไม่ค่อ ยดีต่อสุขภาพ
แ ต่ควรดื่ มน้ำอุณหภูมิ ห้องจะดีกว่า แ ล้วถ้าหากดื่ มน้ำอุ่น
ก็จะยิ่งดีกับสุภาพมากยิ่งขึ้นไปอีก จะดีอย่างไรแพทย์ ถึงแนะนำให้ดื่
มมาดูกันค่ ะ
ก า รดื่ มน้ำอุ่นนั้น มีประโยชน์มา ก เ
พื่อช่วยแก้ปัญหา ด้านสุขภาพ เพียงดื่ มวันละ 8แก้ว และเวลาที่เหมาะส ม แ พ
ทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้านสุขพลานามัย ประเทศญี่ปุ่น แนะนำว่าน้ำเปล่า
เป็นสิ่งที่ดี และ จำเป็นต่อร่างกา ย ในหนึ่งวันเราควรดื่ ม น้ำ
ให้เพียงพอต่อความต้องการ ของร่างกายเพื่อเติมออกซิเจนให้แก่อ วั ย ว ะ
โ
ด ยเฉพาะส มอง ต้องการออกซิเจนมากถึง 1ใน 3 ของออกซิเจนที่ร่างกายต้องการ
มิหากได้รับน้ำไม่เพียงพอ จะส่งผลให้ส มองได้รับ ออกซิเจนน้อยลงประสิทธิภาพ
ในการทำงานของส มองก็จะลดลง ตามไปด้วย ผลกระท บคื อร่างกาย อ่อนเพลีย ส
มองมีกระบวน การคิดการตัดสินใจ ช้าลง ไม่มีสมาธิ ความจำลดลง70%
ดื่ มน้ำเปล่า 8 แก้ว ตามเวลาดั งต่อไปนี้มีประโย ช น์
ดื่ มเวลา 05.00-07.00 น.
ดื่ มน้ำอุ่น 1-2 แก้ว หลังจากตื่นขึ้นมา ดื่ มก่อนแปรงฟั น เ พื่อกระตุ้ นการขับถ่ า ย ควรทำเป็นประจำทุกวั น
ดื่ มเวลา 07.00-09.00 น.
ดื่
มน้ำอุ่น 1 แก้ว เ พื่อช่วยให้กระเพาะอาหาร เรียกน้ำย่อย และ ดู ดซึ
มอาหารได้ดี มื้ อเช้าควรทานเมนูที่น้ำ เป็นส่วนประกอบ เช่ น ข้าวต้ม
ข้าวสวยกับแกงจืด เป็นต้ น
ดื่ มเวลา 11.00-13.00 น.
ดื่
มน้ำอุ่น 1 แก้ว เ พื่อหัวใ จจะสู บฉี ดโหลิต ให้ไหลเวียนทั่วร่างก า ย หั
วใจจะทำงานหนัก ในช่วงเวลานี้ฉะนั้น หลังอาหารเที่ยง
ต้องหลีกเลี่ยงความเครี ยด
ดื่ มเวลา 15.00-17.00 น.
ดื่
มน้ำอุ่น 2 แก้ว เ พื่อให้น้ำเข้าไปชดเชยน้ำ ที่ขับออกจากกระเพาะปัสสาวะ
และยังเป็นเวลาที่ร่างกาย การระบ า ย ความร้อนออกมา หากออกกำลังกายเวลา
17.00 น. จะทำให้ขับเหงื่อ ออกมาได้ดีอีกด้ ว ย
ดื่ มเวลา 17.00-19.00 น.
ดื่ มน้ำอุ่น 1 แก้ว เพื่อไ ตเก็บสะสม พลังงานให้ร่างกายไว้ เป็นทุนสำรอง
ดื่ มเวลา 21.00-23.00 น.
ดื่ มน้ำอุ่น 1 แก้ว เ พื่อให้พลังงานในร่างกาย เชื่อมถึงกันเป็นการพักฟื้น และ ในเวลานี้ควรทำร่างกาย ให้อบอุ่นไม่ควรอาบน้ำเย็น
น้ำอุ่นมีข้อดีมากขนาดนี้
อย่ าลืมที่จะหันมาดื่ มน้ำอุ่น แทนน้ำเย็น เ
พื่อประโยชน์ต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น และ ยังมีคุณสมบัติเป็นย าได้หากดื่
มน้ำอุ่นกับสิ่งเหล่านี้ เช่น น้ำมะนาว ขิง และ น้ำผึ้ ง
แ พ ทย์ชาวญี่ปุ่ น ยังบอกอีกว่าน้ำอุ่น มีประสิทธิภาพ ในการแก้ปัญห าสุขภาพได้ 100% เ ช่ น
1. อ าการไอ
2. เ มื่อรู้สึกไม่สบายตัว
3. โ รคหอบหืด
4. อ าการไอแบบช่วง
5. อ าการอุดตั น ของห ล อดโลหิตดำ
6. โ รคที่เกี่ยวกับมดลู ก และ ทางเดินปัสสาวะ
7. ก ระเพาะอาหาร
8. ป ร ะสิทธิภาพในการย่อยอาหารไ ม่ดี
9. โ รคที่เกี่ยวกับดว งตา หู และลำค อ
10 อ าการปวดศีรษะ
11. อ าการไมเกรน
12. อ าการความดันโลหิตสูง
13. อ าการความดันโลหิตต่ำ
14. อ าการปวดข้อต่าง ๆ
15. อั ตราการเต้นของหัวใจ เพิ่มขึ้นและลดลง อย่างฉั บพ ลั น
16. อ าการของโ รคลมชั ก
การดื่ มน้ำอุ่น ช่วยบำบัดปัญหาสุขภาพ ภายใน โรคต่าง ๆ ดังนี
1. ช่ วยลดคอเลสเตอรอล หากดื่ มต่อเนื่องเป็นเวลา 4 เดือน
2. โ รคลมชักและ อั ม พ า ต ดีขึ้นหากดื่ มต่อเนื่องเป็นเวลา 9 เดือน
3. โ รคหอบหืดหากดื่ มต่อเนื่องเป็นเวลา 4 เดือน
4. ช่ วยปัญหาผู้หญิงหากดื่ มต่อเนื่องเป็นเวลา 15 วัน
5. โ รคหัวใจหากดื่ มต่อเนื่องเป็นเวลา 30 วัน
6. อาการปวดหัว และไมเกรนหากดื่ ม ต่อเนื่องเป็นเวลา 3 วัน
7. ก ารอุดตันของเส้นโลหิตหากดื่ ม ต่อเนื่องเป็นเวลา 6 เดือน
8. โ รคเบาหวานหากดื่ มต่อเนื่องเป็นเวลา 30 วัน
9. ค วามดันโลหิตหากดื่ มต่อเนื่องเป็นเวลา 30 วัน
10. ปั ญหาจมูก หูและลำคอ หากดื่ มต่อเนื่องเป็นเวลา 10 วัน
11. เ กี่ยวกับกระเพาะอาหาร หากดื่ มต่อเนื่องเป็นเวลา 10 วัน
12. ก ารย่อยอาหารไ ม่ดี หากดื่ มต่อเนื่องเป็นเวลา 10 วัน
การดื่ มน้ำที่ถูก วิ ธี
น้ำที่ใช้ดื่
ม ถ้าจะให้ดีต้องเป็นน้ำอุณหภูมิปกติ หรือที่เรียกกันว่าน้ำอุณหภูมิห้อง
ไม่ร้อนจัด หรือเย็นจัด แต่ในบางกรณีอย่างเช่น
ในตอนเช้าถ้าเป็นไปได้ควรดื่มน้ำอุ่นเพราะ จะช่วยระบบขับถ่า ย ให้ขับถ่า
ยได้ดียิ่งขึ้น ลำไ ส้สะอาดมากยิ่งขึ้ น
การดื่ มน้ำที่ถูกต้อง
ควรดื่ มอย่างน้อยวันละ 8แก้ว หรือมากกว่านั้นคื อผู้หญิงดื่ มให้ได้วันละ 2
ลิตร ผู้ชายดื่ มให้ได้วันละ 3 ลิตร
ทยอยจิบตลอดทั้งวันถึงจะเพียงพอต่อร่างกาย ในแต่ละวัน
(กรณีนี้ให้นับรวมน้ำจาก ผักผลไม้ น้ำแกง ต้มก๋วยเตี๋ยวต่าง ๆ ด้วย)
ตอนเช้าหลังจากตื่
นนอน หรือก่อนแปรงฟั น ควรดื่ มน้ำ 2-4 แก้ว เป็นน้ำอุ่น และในระหว่างวัน
ควรดื่ มน้ำ 1แก้วทั้งก่อนและหลัง อาหารเวลา 30 นาที ทุกมื้ออาหาร
ก่ อ นนอนให้ดื่ มน้ำอุ่น 1 แก้ว แต่ไม่ควรดื่ ม ในครั้งเดียวหลาย ๆ แก้ว เพราะจะทำให้ร่างกายเกิดภาวะบวมน้ำได้
หลังจากรับประทานอาหาร
เสร็จไม่ควรดื่ มน้ำตามในทันที เ พราะน้ำจะเข้าไปเจือจางน้ำย่อย ในกระเพาะ
ทำให้การย่อยอาหารไม่มีประสิทธิภาพ โดยควรดื่มหลังจาก รับประทานอาหารเสร็จ
30 นาที
ค วรหลีกเลี่ยง การดื่ มน้ำเย็น และน้ำอัดลมทุกชนิด
เพราะความเย็นจะดึงความร้อน ในร่างกายทำให้ น้ำเย็นเข้าไป
ทำให้ร่างกายต้องการปรับสมดุลและยังทำให้สู ญเ สี ยพลังงาน
ผู้หญิงที่มี
อาการปวดประจำเดือน ในช่วงที่มีประจำเดือนให้งดดื่ มน้ำเย็น เ
พราะจะไปเพิ่มอาการปวด และ ทำให้ประจำเดือนออกมาน้อยซึ่งเป็นไม่ดีต่อสุขภา พ
ประโยชน์ของน้ำดื่ ม มีดังนี
1.
ก ารดื่ มน้ำช่วยลด อาการการปวดศีรษะ และไมเกรนได้
ผู้ป่วยไมเกรนหากร่างกายขาดน้ำ
หรือได้รับไม่เพียงพอจะทำให้อาการปวดหัวเพิ่มมากขึ้น
2. ก ารดื่ มน้ำช่วยย่อยอาหาร ทำให้ระบบย่อยอาหารทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยป้องกันโ รคกรดไหลย้อน
3. ก ารดื่ มน้ำช่วยให้ไม่เป็นโ รคผู้ที่ท้องผูก
4. ก า รดื่ มน้ำช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตให้ดียิ่งขึ้น ช่วยปรับสมดุลภายในร่างกาย
5. ก ารดื่ มน้ำ ช่วยการผ่อนคลาย
6. ก ารดื่ มน้ำ น้ำช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้ น
7. ก ารดื่ มน้ำ ช่วยทำให้มีสมาธิ
8. ก ารดื่ ม น้ำช่วยลดการเกิดกลิ่น ป า ก
9. ก ารดื่ มน้ำ ช่วยลดการปวดหลัง หรือบริเวณบั้นเอ ว
10. ก ารดื่ มน้ำ ช่วยลดอาการปวดข้อต่าง ๆ
11. ก ารดื่ มน้ำ ช่วยให้ข้อต่อต่าง ๆ เคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
12. ก ารดื่ มน้ำ ช่วยชะลอความชรา ช่วยให้เซ ลล์ต่าง ๆ ในร่างกายไม่ขาดน้ำ ทำงานได้อย่าง มีประสิทธิภาพ
13. การดื่ มน้ำช่วยลด อาการเครี ยด
14. กา รดื่ มน้ำช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย ช่วยควบคุมอุณหภูมิภายในร่างกายให้คงที่
15. กา รดื่ มน้ำสามารถช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ที่ดีให้กับผิ ว ป้องกันเชื้อโ ร คต่าง ๆ ที่จะเข้าสู่ร่างก า ย
ขอบคุณที่มา : postsara