หลายๆคนคงจะนอนดึงเป็นประจำ บางคนถึงขนาดไม่เลยเที่ยงคืนยังไม่หลับไม่นอน
อาจจะด้วยเหตุผลที่ต่างกันไปในแต่ละคน ไม่ว่าจะทำงานหนัก รถติด ติดประชุม
หรือไปสังสรรค์
แต่การนอนดึกแบบนี้ไม่ดีเอาเสียเลยนะ
วันนี้เราจึงจะชวนคุณมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง โดยควรจะเข้านอนก่อน 4
ทุ่มจะดีที่สุด เพราะอะไรน่ะหรือ? ไปฟังคำตอบจาก นพ.กฤษดา ศิรามพุช
ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติกัน
โดย นพ.กฤษดา เล่าให้ฟังถึงผลเสียของการนอนดึกว่า ทำให้ 5
อวัยวะหลักเสื่อมเร็วขึ้น ทั้ง สมอง หัวใจ หลอดเลือด ต่อมไร้ท่อ
และภูมิคุ้มกันร่างกาย แต่ถ้าปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตมาเป็นคนนอนเร็วขึ้น
ตั้งแต่ 4 ทุ่มเป็นต้นไปจนถึงก่อนเที่ยงคืน ซึ่งเป็นนาทีทอง
ก็จะช่วยให้มีสุขภาพดีขึ้นถึง 10 ประการ แบบนี้เลย
1.สมองสร้างเคมีสุข สมองเป็นหัวเรือใหญ่ในการแจกงานให้อวัยวะต่างๆ
ไม่เว้นแม้เวลานอนที่ถือเป็นเวลาแจกรางวัลให้ร่างกายโดยมอบ “เคมีนิทรา
(เมลาโทนิน)” เคมีสุข (ซีโรโทนิน) และฮอร์โมนเพศ
อีกทั้งเคมีบำรุงต่างๆออกมาคุมระบบในตัวเราให้ทำงานราบรื่นพร้อมตื่นมาอย่างสดชื่น
แถมยังช่วยเป็นเกราะ ป้องกันป่วยได้ด้วย โดยสถาบันการนอนหลับแห่งชาติ
(National Sleep Foundation)
ชี้ว่าการนอนหลับมีผลมหาศาลต่อคุณภาพชีวิตของเรา
2.สร้างเคมีหนุ่มสาว มาจากการนอนหลับอย่างมีคุณภาพคือ
หลับไวและหลับสนิทโดยเคมีหนุ่มสาวที่ว่าคือโกร๊ทฮอร์โมนที่จะค่อยลดลงตามวัยและการนอนดึก
แต่ถ้าท่านได้นอนเร็วสักราว 4
ทุ่มจะทำให้สมองเต็มที่กับการเป็นโรงงานชั้นดีที่ผลิตโกร๊ทฮอร์โมนธรรมชาติให้ท่านได้
3.ความจำดีขึ้น การศึกษาจากสมาคมจิตวิทยาอเมริกัน (APA) ชี้ว่าคนที่นอนน้อย
(ราว 4 ชั่วโมงต่อคืน) ติดกันมีผลต่อความจำ, สมาธิและอุบัติเหตุมาก
ด้วยกลไกขณะนอนช่วย จัดระเบียบสมอง (Consolidation)
คล้ายอีเมล์ที่แยกเมล์ขยะออกไป ให้สังเกตว่าเวลาอดนอนจะมีอาการมึน
ความจำมัว ลืมง่าย หรือไม่ก็ลิ้นพันกันเพราะคิดอย่างแต่กลับพูดอีกอย่าง
ดังนั้นการได้นอนเต็มอิ่มมีส่วนช่วยให้สมองได้เติมพลังชาร์จแบตพร้อมรับความจำใหม่ๆได้ดีขึ้น
4.คุมความดันโลหิตได้
เพราะในขณะนอนหลับเร็วภายในร่างกายจะเหมือนมีคนแคระมากมายช่วยกันทำงานที่ซับซ้อนอย่างคุมหัวใจและความดันโลหิตให้สงบลงไม่แกว่งขึ้นลงง่ายเหมือนกับตอนตื่น
ซึ่งคนแคระที่ว่าคือระบบประสาทอัตโนมัติทั้งหลายและกลไกทางชีววิทยาที่เป็นดั่งฟันเฟืองขนาดจิ๋วทั้งหลาย
5.ร่างกายได้ซ่อมแซม
ตัวเราที่สู้ชีวิตในโลกกว้างมาทั้งวันมีนาทีสำคัญที่จะช่วยฟิตเครื่องยนต์ก็คือตอนนอน
สมองได้พักผ่อน กล้ามเนื้อได้คลายตัว หัวใจสงบขึ้น ความดันลด
การเข้าอู่นอนก็เหมือนเข้าอู่ซ่อมร่างกายที่สึกหรอไปจากงานหนักทั้งวัน
ยิ่งได้นอนเร็วก็เท่ากับได้ตักตวงกำไรสำคัญที่จะทำให้ท่านมีสุขภาพดี
คนที่นอนเร็วจะไม่เสี่ยงเจ็บป่วยง่ายจากร่างกายเกินซ่อมด้วย
6.ไม่เสี่ยงอ้วน
ชวนให้ไม่เสี่ยงสร้างพุงเกิดโรคอ้วนลงพุงมฤตยูเพราะการนอนเร็วช่วยสกัดอาการหิวดึกและกินดุที่จะตามมา
นอกจากนั้นยังมีกลไกดับหิวด้วยการสร้างเคมีดับหิวขึ้นมา
ทำให้การนอนเร็วช่วยคุมน้ำหนักตัวได้ดีกว่า
เพราะกระตุ้นเตาเผาในร่างกายให้ทำงานได้ดี ช่วยให้ไม่อ้วนง่าย
ไม่สร้างเคมีเก็บไขมันมาก
7.มีความสุขง่าย
น่าลองอยู่ไม่น้อยว่าดัชนีความสุขของชาติเราอาจสูงขึ้นถ้าเพียงลองนอนให้เร็วขึ้น
เพราะเมื่อนอนเร็วก็จะมีโอกาสนอนได้เต็มอิ่มและพอกับร่างกายมากกว่า
ทำให้บรรดารางวัลที่ร่างกายสร้างขณะหลับนั้นเราได้รับอย่างเต็มที่
ซึ่งตรงข้ามกับเมื่ออดนอนที่นำไปสู่ความอึมครึมของสุขภาพและสมอง ไม่มีสมาธิ
ความจำไม่ดี ขี้หงุดหงิด,
ความอดทนน้อยลงและอารมณ์เสียง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุ
8.ได้ล้างพิษ ขณะนอนหลับช่วยปรับให้อวัยวะช่วยล้างพิษทำงานได้ดีขึ้น
อย่างตับ ไต และ ลำไส้ ซึ่งสังเกตได้ว่าคนที่อดนอนอาจมีปัญหาท้องผูก
หน้าตาหม่นหมอง ดูไม่สดชื่นและที่สำคัญคือสุขภาพไม่ดี
นั่นเพราะส่วนหนึ่งของพิษมาจากการนอนดึกด้วย
โดยเฉพาะสาวๆที่ปวดรอบเดือนบ่อยถ้าค่อยแก้นอนดึกได้จะช่วยคุมเคมีปวดได้มาก
9.ไม่เสี่ยงโรคกำเริบ โรคเก่าที่อาจกำเริบได้ในมนุษย์นอนดึกก็คือ โรคหัวใจ
โรคหลอดเลือดสมอง ความดันสูง เบาหวาน ภูมิแพ้
โรคเครียดซึมเศร้ารวมไปถึงโรคมะเร็ง การนอนดึกทำให้ร่างกายเหนื่อยเพิ่มขึ้น
โดยใช่เหตุ คิดง่าย ๆ
ว่าเหมือนกับเครื่องยนตร์ต้องทำงานเกินเวลาก็จะพาให้โรคที่พกอยู่ตามอวัยวะต่างๆพากันแผลงฤทธิ์ขึ้น
10.สำคัญมากคือ ช่วยป้องกันแก่
แค่นอนก็ช่วยเสริมสร้างความหนุ่มสาวและป้องกันความเสื่อมชราที่มาหาได้จากพลังการต้านอนุมูลอิสระ
ซึ่งเป็นสนิมแก่ที่เกิดในร่างกายตามธรรมชาติในทุกลมหายใจ
แต่การได้นอนจะช่วยให้สนิมแก่ทั้งหลายไม่ฮึกเหิมทำร้ายร่างกายก่อนวัยอันควร
การชวนกันนอนไวตั้งแต่หัวค่ำช่วยทำให้นาฬิกาแก่ไม่เดินเร็วไป
“การหลับถือเป็นรางวัลจากธรรมชาติที่ถ้าใครไขว่คว้าไว้ได้อย่างเหมาะสม
ได้นอนตามเวลา ได้หลับตาสนิท และได้นอนเต็มอิ่ม
ผลลัพธ์ก็คือสุขภาพที่ดีเลิศอย่างรู้สึกได้ ซึ่งเรื่องนอนนี้เป็น
เป็นเคล็ดลับเติมวิตามินธรรมชาติที่ไม่ต้องไปหาไกล” นายแพทย์กฤษดา กล่าว