ถึงแม้ละครที่ได้เล่นด้วยกันจะจบไปนานแล้ว แต่ล่าสุดมีตาดีเห็นหนุ่ม “พีช พชร” ย่องควงคู่จิ้นสาว “ออม สุชาร์”
ไปทานข้าวด้วยกันสองต่อสอง ทำเอาแฟนๆ
ที่แอบเชียร์อยู่ต่างมีความหวังขึ้นมา
แต่ก็เหมือนเป็นการดับฝันคู่จิ้นลงอย่างจัง เมื่อหนุ่มพีช
ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนให้ฟังว่า
เป็นเพียงไปทานข้าวหลังจากการคุยโปรเจคหนังเรื่องต่อไปจบเท่านั้นเอง
ไม่ได้มีอะไรมากกว่าคำว่าเพื่อนร่วมงานแน่นอน พร้อมยืนยันโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์ไม่มี เนื่องจากตนไม่เคยคิดเกินเลยกับเพื่อนนักแสดงที่ต้องร่วมงานด้วยกันทุกคน
ล่าสุดมีคนเห็นไปทานข้าวกับ ออม สุชาร์ มา?
"วันนั้นเป็นการร่วมทีมเพื่อประชุมเวิร์กช็อปหนังครับ เพราะหนังเรื่องต่อไปเราได้เล่นด้วยกัน"
แต่แฟนคลับก็ยังจิ้นเราทั้งสองคน ทั้งๆ ที่ละครจบลงไปนานแล้ว?
"จริงๆ มันไม่มีอะไรหรอกครับ เราแค่ไปคุยเรื่องหนังและทานข้าวด้วยกัน"
กลัวแฟนคลับจะจับจิ้นคู่เรานอกจอไหม?
"ไม่ค่อยกลัวครับ เพราะผมก็รู้จักกับเขามาก่อนหน้านี้ตั้ง 3 ปี ซึ่งมันก็ไม่มีอะไรเลย แต่ก็มีแฟนคลับเชียร์ๆ บ้างครับ แต่ผมรู้สึกว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องงานเท่าไหร่ หน้าที่เราตอนนี้คือทำงานให้เต็มที่ก่อน"
แสดงว่าโอกาสของเราทั้งสองคนไม่มีสิทธิ์พัฒนาความสัมพันธ์?
"ผมไม่ได้คิดเรื่องแบบนั้นกับเพื่อนร่วมงานของตัวเองอยู่แล้วครับ มันทำไม่ได้อ่ะ นึกออกไหมว่าถ้าสมมุติเราทะเลาะกันระหว่างยังมีละครร่วมกัน มันจะเละขนาดไหน ผมรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะทำอยู่แล้ว"
หรือเพราะว่าเรามีตัวจริงอยู่แล้ว?
"พยายามคิดว่าอยากจะมีครับ แต่มันก็ยังไม่มีสักที"
กับ ลูกหนัง ศีตลา ก็ยังไม่ใช่ตัวจริงใช่ไหม?
"ตอนนี้ยังไม่มีใครครับ ยังพยายามใช้เวลาหาอยู่เรื่อยๆ"
มุมมองความรักของเราเปลี่ยนไปเยอะไหม?
"เปลี่ยนไปเยอะครับ กับนทมันก็ผ่านมาสามปี มันก็ทำให้เราโตขึ้นเยอะ ทำให้เราจริงจังกับชีวิตขึ้น ทำให้เราคิดว่าต่อไปมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้วแหละ เรามีอะไรที่อยากทำเยอะมาก"
แสดงว่าความรักครั้งต่อไปเราค่อนข้างคาดหวังถึงเรื่องอนาคต?
"ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะใช่ก็ได้ หรืออาจจะแค่เดือนเดียวเลิกก็ได้ มันไม่มีทางรู้หรอก"
แบบนี้จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของเอาไหม?
"ผมไม่แคร์อยู่แล้ว เพราะชีวิตเรามีความสุข เราโอเคแฮปปี้จบ ถ้าสมมุติว่ามีแล้วเลิกก็ไม่เป็นไร ไม่แคร์อยู่แล้ว แค่ชีวิตเราแฮปปี้โอเค ผมว่าไม่เกี่ยวหรอกครับว่าใครจะมองว่าผมเป็นเพลย์บอย หรือแบดบอย เพราะสุดท้ายแล้วเราวัดกันที่ชีวิตเรามีความสุขมากแค่ไหน ถ้าชีวิตเรามีความสุขและทำงานของตัวเองออกมาได้ดีก็โอเค"
มีปรึกษาคุณแม่หรือครอบครัวเรื่องความรักบ้างไหม?
"ไม่ปรึกษาเลย (หัวเราะ) ปรึกษาไม่ได้เด็ดขาด ไม่ต้องช่วยสแกนเลยครับ เพราะเรารู้สึกว่าเราเป็นคนมีมุมมองของตัวเอง เวลาคนอื่นพูดเราจะชอบเถียง จะไม่ค่อยชอบฟังคนอื่น เราเลยคิดว่างั้นไม่ถามเลยแล้วกันจะได้จบ ผมเป็นคนรู้ตัวเองอยู่แล้วครับว่าผมไม่ชอบให้คนอื่นมาพูดมาก เลยตัดสินใจไม่ถามแล้วกัน เวลาแม่จะคุยผมก็จะบอกว่า ไม่ต้องพูด (หัวเราะ) ค่อยพามาให้รู้จักเลยทีเดียว"
ล่าสุดมีคนเห็นไปทานข้าวกับ ออม สุชาร์ มา?
"วันนั้นเป็นการร่วมทีมเพื่อประชุมเวิร์กช็อปหนังครับ เพราะหนังเรื่องต่อไปเราได้เล่นด้วยกัน"
แต่แฟนคลับก็ยังจิ้นเราทั้งสองคน ทั้งๆ ที่ละครจบลงไปนานแล้ว?
"จริงๆ มันไม่มีอะไรหรอกครับ เราแค่ไปคุยเรื่องหนังและทานข้าวด้วยกัน"
กลัวแฟนคลับจะจับจิ้นคู่เรานอกจอไหม?
"ไม่ค่อยกลัวครับ เพราะผมก็รู้จักกับเขามาก่อนหน้านี้ตั้ง 3 ปี ซึ่งมันก็ไม่มีอะไรเลย แต่ก็มีแฟนคลับเชียร์ๆ บ้างครับ แต่ผมรู้สึกว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องงานเท่าไหร่ หน้าที่เราตอนนี้คือทำงานให้เต็มที่ก่อน"
แสดงว่าโอกาสของเราทั้งสองคนไม่มีสิทธิ์พัฒนาความสัมพันธ์?
"ผมไม่ได้คิดเรื่องแบบนั้นกับเพื่อนร่วมงานของตัวเองอยู่แล้วครับ มันทำไม่ได้อ่ะ นึกออกไหมว่าถ้าสมมุติเราทะเลาะกันระหว่างยังมีละครร่วมกัน มันจะเละขนาดไหน ผมรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะทำอยู่แล้ว"
หรือเพราะว่าเรามีตัวจริงอยู่แล้ว?
"พยายามคิดว่าอยากจะมีครับ แต่มันก็ยังไม่มีสักที"
กับ ลูกหนัง ศีตลา ก็ยังไม่ใช่ตัวจริงใช่ไหม?
"ตอนนี้ยังไม่มีใครครับ ยังพยายามใช้เวลาหาอยู่เรื่อยๆ"
มุมมองความรักของเราเปลี่ยนไปเยอะไหม?
"เปลี่ยนไปเยอะครับ กับนทมันก็ผ่านมาสามปี มันก็ทำให้เราโตขึ้นเยอะ ทำให้เราจริงจังกับชีวิตขึ้น ทำให้เราคิดว่าต่อไปมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้วแหละ เรามีอะไรที่อยากทำเยอะมาก"
แสดงว่าความรักครั้งต่อไปเราค่อนข้างคาดหวังถึงเรื่องอนาคต?
"ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะใช่ก็ได้ หรืออาจจะแค่เดือนเดียวเลิกก็ได้ มันไม่มีทางรู้หรอก"
แบบนี้จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของเอาไหม?
"ผมไม่แคร์อยู่แล้ว เพราะชีวิตเรามีความสุข เราโอเคแฮปปี้จบ ถ้าสมมุติว่ามีแล้วเลิกก็ไม่เป็นไร ไม่แคร์อยู่แล้ว แค่ชีวิตเราแฮปปี้โอเค ผมว่าไม่เกี่ยวหรอกครับว่าใครจะมองว่าผมเป็นเพลย์บอย หรือแบดบอย เพราะสุดท้ายแล้วเราวัดกันที่ชีวิตเรามีความสุขมากแค่ไหน ถ้าชีวิตเรามีความสุขและทำงานของตัวเองออกมาได้ดีก็โอเค"
มีปรึกษาคุณแม่หรือครอบครัวเรื่องความรักบ้างไหม?
"ไม่ปรึกษาเลย (หัวเราะ) ปรึกษาไม่ได้เด็ดขาด ไม่ต้องช่วยสแกนเลยครับ เพราะเรารู้สึกว่าเราเป็นคนมีมุมมองของตัวเอง เวลาคนอื่นพูดเราจะชอบเถียง จะไม่ค่อยชอบฟังคนอื่น เราเลยคิดว่างั้นไม่ถามเลยแล้วกันจะได้จบ ผมเป็นคนรู้ตัวเองอยู่แล้วครับว่าผมไม่ชอบให้คนอื่นมาพูดมาก เลยตัดสินใจไม่ถามแล้วกัน เวลาแม่จะคุยผมก็จะบอกว่า ไม่ต้องพูด (หัวเราะ) ค่อยพามาให้รู้จักเลยทีเดียว"