เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ที่ไม่เคยซื้อรถป้ายแดงมาก่อน
คงไม่ทราบว่าในวันรับรถออกจากโชว์รูมนั้น
นอกจากเงินดาวน์ที่ตกลงไว้กับเซลส์แล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ที่คุณยังต้องเตรียมไปชำระด้วย จะมีอะไรบ้าง?
1.ค่าเบี้ยประกันภัย
รถยนต์บางยี่ห้อไม่มีประกันภัยชั้น 1 แถมให้ลูกค้า หรืออาจมีเงื่อนไขดอกเบี้ยพิเศษที่บังคับให้ลูกค้าต้องจ่ายค่าประกันภัยเอง ซึ่งส่วนใหญ่รถป้ายแดงทุกคันจะต้องทำประกันภัยชั้น 1 ตามข้อบังคับของบริษัทไฟแนนซ์ (เว้นแต่ซื้อเงินสดก็ขึ้นอยู่กับลูกค้า) ดังนั้น คุณจะต้องกำเงินราว 2-3 หมื่นบาท สำหรับรถขนาด 1.5 ลิตร (ยิ่งรถราคาสูง เบี้ยประกันยิ่งแพง) เพื่อจ่ายเป็นค่าเบี้ยประกันในวันรับรถ
2.ค่าจดทะเบียน
ค่าจดทะเบียนรถยนต์แต่ละรุ่นไม่เท่ากัน แต่ปกติศูนย์จะบวกค่าบริการเพิ่มไปนิดหน่อยให้กลายเป็นเลขกลมๆ เช่น 3,500 บาท หรือ 5,000 บาท เป็นต้น หากศูนย์ไม่ซัพพอร์ตค่าจดทะเบียนให้แล้วล่ะก็ คุณก็จำเป็นต้องเตรียมเงินจำนวนนี้ไปจ่ายด้วยเช่นกัน แต่หากใครต้องการประหยัดเงินก็สามารถนำรถไปจดทะเบียนเองได้ แต่ขั้นตอนอาจยุ่งยากสักนิด ทางที่ดียอมจ่ายเพิ่มเพื่อให้ศูนย์จัดการให้จะดีกว่า
3.ค่ามัดจำป้ายแดง
ปกติแล้วศูนย์บริการจะคิดค่ามัดจำป้ายแดงราว
2-3 พันบาท และจะจ่ายคืนให้กับลูกค้าเมื่อนำรถกลับมาเปลี่ยนเป็นป้ายดำ
ทางที่ดีควรเช็คว่าป้ายแดงที่ได้รับเป็นป้ายแดงที่ถูกต้องตามกฏหมาย
จะได้ไม่มีปัญหากับตำรวจเมื่อถูกตรวจสอบ
4.ค่าน้ำมัน
รถใหม่ส่วนใหญ่จะเติมน้ำมันจากโรงงานมาให้เล็กน้อยเท่านั้น ซึ่่งน้อยมากที่ศูนย์บริการจะเติมเพิ่มให้ลูกค้า ดังนั้น เมื่อขับรถออกจากศูนย์แล้ว คุณจำเป็นต้องนำรถไปเติมน้ำมันในวันที่ออกรถด้วย
5.ค่าอุปกรณ์อื่นๆ
หากใครสั่งอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมที่ไม่รวมอยู่ในของแถม ก็จำเป็นต้องนำมาจ่ายในวันรับรถด้วย บางกรณีหากเป็นการติดตั้งเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการ คุณจำเป็นต้องจ่ายค่าอุปกรณ์นั้นเต็มจำนวนในวันรับรถ ไม่สามารถนำมารวมกับค่างวดที่ต้องชำระในแต่ละเดือนได้
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้ อาจขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรองกับเซลส์ด้วย หากสามารถร้องขอข้อใดเป็นพิเศษได้ ก็จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้นด้วย
1.ค่าเบี้ยประกันภัย
รถยนต์บางยี่ห้อไม่มีประกันภัยชั้น 1 แถมให้ลูกค้า หรืออาจมีเงื่อนไขดอกเบี้ยพิเศษที่บังคับให้ลูกค้าต้องจ่ายค่าประกันภัยเอง ซึ่งส่วนใหญ่รถป้ายแดงทุกคันจะต้องทำประกันภัยชั้น 1 ตามข้อบังคับของบริษัทไฟแนนซ์ (เว้นแต่ซื้อเงินสดก็ขึ้นอยู่กับลูกค้า) ดังนั้น คุณจะต้องกำเงินราว 2-3 หมื่นบาท สำหรับรถขนาด 1.5 ลิตร (ยิ่งรถราคาสูง เบี้ยประกันยิ่งแพง) เพื่อจ่ายเป็นค่าเบี้ยประกันในวันรับรถ
2.ค่าจดทะเบียน
ค่าจดทะเบียนรถยนต์แต่ละรุ่นไม่เท่ากัน แต่ปกติศูนย์จะบวกค่าบริการเพิ่มไปนิดหน่อยให้กลายเป็นเลขกลมๆ เช่น 3,500 บาท หรือ 5,000 บาท เป็นต้น หากศูนย์ไม่ซัพพอร์ตค่าจดทะเบียนให้แล้วล่ะก็ คุณก็จำเป็นต้องเตรียมเงินจำนวนนี้ไปจ่ายด้วยเช่นกัน แต่หากใครต้องการประหยัดเงินก็สามารถนำรถไปจดทะเบียนเองได้ แต่ขั้นตอนอาจยุ่งยากสักนิด ทางที่ดียอมจ่ายเพิ่มเพื่อให้ศูนย์จัดการให้จะดีกว่า
3.ค่ามัดจำป้ายแดง
4.ค่าน้ำมัน
รถใหม่ส่วนใหญ่จะเติมน้ำมันจากโรงงานมาให้เล็กน้อยเท่านั้น ซึ่่งน้อยมากที่ศูนย์บริการจะเติมเพิ่มให้ลูกค้า ดังนั้น เมื่อขับรถออกจากศูนย์แล้ว คุณจำเป็นต้องนำรถไปเติมน้ำมันในวันที่ออกรถด้วย
5.ค่าอุปกรณ์อื่นๆ
หากใครสั่งอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมที่ไม่รวมอยู่ในของแถม ก็จำเป็นต้องนำมาจ่ายในวันรับรถด้วย บางกรณีหากเป็นการติดตั้งเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการ คุณจำเป็นต้องจ่ายค่าอุปกรณ์นั้นเต็มจำนวนในวันรับรถ ไม่สามารถนำมารวมกับค่างวดที่ต้องชำระในแต่ละเดือนได้
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้ อาจขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรองกับเซลส์ด้วย หากสามารถร้องขอข้อใดเป็นพิเศษได้ ก็จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้นด้วย