เมื่อคุณต้องแบกปัญหาชีวิตโดยลำพัง จงจำ 9 ข้อนี้ไว้ให้ขึ้นใจ

เมื่อคุณต้องแบกปัญหาชีวิตโดยลำพัง จงจำ 9 ข้อนี้ไว้ให้ขึ้นใจ

ลูกของพ่อ…จำไว้นะ “ช่วงที่ลำบากที่สุด” คือช่วงที่ใกล้ความสำเร็จที่สุด …แม่เล่าให้พ่อฟังว่า ลูกเบื่องานที่กำลังทำอยู่ แต่พ่ออยากให้ลูกลองอดทนทำดูสักช่วงดีไหมลูก พ่อว่าลูกจะได้อะไรมากมายจากการทำงานที่นี่ อย่างน้อยก็คือประสบการณ์ที่ไม่ต้องซื้อหามาด้วยเงิน เพียงแค่ลูกใช้สมอง พละกำลัง และแนวทางที่ลูกได้ร่ำเรียนมา พ่อเชื่อ มันจะมีประโยชน์กับลูกในอนาคต

แต่หากลูกคิดว่าไม่ไหวจริงๆ ลูกอยากจะออกมาทำธุรกิจเล็กๆ พ่อก็สนับสนุนนะ ประสบการณ์ของที่นี่จะทำให้เมื่อวันหนึ่งลูกเป็นเจ้าของกิจการ ลูกจะได้เข้าใจทั้งจุดยืนของลูกจ้างและนายจ้างได้ พ่ออยากจะแนะนำลูกอย่างนี้นะ

1. คู่ต่อสู้ที่น่ากลัวที่สุดของคนเราไม่ใช่ใครอื่น นั่นคือ ความขี้เกียจ

2. การทำอะไรสักอย่างหนึ่งไม่ใช่เรื่องยาก ยากตรงที่ต้องยืนหยัด …ยืนหยัดเพียงชั่วครู่ชั่วยามนั้นไม่ยาก ยากตรงยืนหยัดให้ถึงที่สุด

3. หากลูกรู้สึกเหนื่อย ลูกต้องพยายามเดินต่อ เพราะทางเดินที่เหนื่อยนั้น เป็นทางเดินขึ้นสู่ที่สูง

4. จำไว้นะลูก ช่วงที่ลำบากที่สุด คือ ช่วงที่ใกล้ความสำเร็จที่สุด

5. การที่ลูกเลือกหนีปัญหา ไม่แน่เสมอไปว่าลูกจะหนีพ้น การที่ลูกเผชิญหน้ากับปัญหา ก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะเป็นเรื่องเลวร้าย ทุ่มเทนะลูก วันพรุ่งนี้ คือ วันที่สวยงาม

6. อย่าเอาแต่หลบฝนอยู่ในบ้าน ออกมาตวงน้ำฝนใส่โอ่งใส่ตุ่มไว้ใช้บ้างก็ดี ต่อให้เปียกฝนมอมแมม นั่นก็คือความสุขชนิดหนึ่ง จำไว้นะ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกไม่มีบังเอิญ เมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็อยู่กับมันอย่างเข้าใจและเป็นสุข

7. อย่าไปหวังพึ่งแต่ดวง โชคลาภหากเราไม่ได้สร้างมา ใช้เล่ห์กลเรียกยังไงมันก็ไม่มีทางอยู่กับเราได้ อิงความสามารถของตนเองดีกว่านะลูก

8. หากลูกตั้งใจและได้ทุ่มเทแล้ว จึงมีคุณสมบัติพูดว่าดวงไม่ดี หากยังไม่ทุ่มเท อย่าเอาแต่โทษดวง

9. ต่อให้ลูกอยากได้เงินทองมากสักเพียงใด ขอให้ลูกจำไว้ ตระกูลเราไม่เคยโกงใครกิน เกียรติภูมินี้ พ่ออยากให้ลูกรักษาไว้ และบอกต่อให้ลูกหลานในอนาคต

จำไว้นะลูก ไม่มีใครโชคดีโดยไม่ลงแรง ความโชคดีเกิดจากความตั้งใจ เพราะตั้งใจความโชคดีจึงมาเยือน พ่อเชื่อว่าลูกทำได้ เพราะในตัวของลูกมีเลือดของพ่ออยู่ครึ่งหนึ่ง

ขอบคุณที่มา : verrysmilejung