วิธีแก้ปัญหาบ้านร้อน และการนำพาแสงสำหรับบ้าน

การจะสร้างบ้านสวยไม่ใช่แค่มีหลังงาม สีสวย เท่านี้แต่จะต้องเป็นบ้านที่อยู่แล้วสบาย ไม่ร้อน อากาศถ่ายเท แสงเข้าถึงวันนี้เราได้เอาภาพ 37 แบบ บ้านที่ทำให้รับแสงและอากาศเข้ามาในบ้านมาฝากกัน โดยการรวบรวมของเพจ  AXIS Innovation และทางเพจก็ได้แนวคิดการออกแบบ แก้ปัญหาการระบายอากาศ และการนำพาแสงแสงสำหรับบ้าน อากาศร้อนๆบ้านเรา เหมาะมากกับการนำแนวความคิดนี้มาใช้ ซึ่งมันก็เป็นหลักการธรรมชาติ จากภาพผ่านกระบวนความคิด ออกแบบ แสดงให้เห็นชัดง่ายกับการเข้าใจด้วยภาพ credit data photo : Google อีกที มาชมกันเลยว่ามีแบบไหนบ้าง

37 แนวคิด วิธีแก้ปัญหาบ้านร้อน ทำให้บ้านรับแสงและลมเข้ามาให้อากาศถ่ายเท

1. ห้องที่ทำให้มีช่องลมเยื้องกันจะดีกว่าการทำแบบตรงกัน

2. ปูพื้นบ้านด้วยฉนวนกันความร้อน หรือหาวิธีทำให้ความร้อนระบายลงดินเร็ว ๆ

3. หอคอยดักลม

4. กันแดดแต่ไม่กันแสง

5. ผนังไม่อมความร้อนและระบายอากาศได้

6. ผนังฉนวนธรรมชาติ

7. ผนังหนากับฉนวน

8. ภาพซ้าย เข้าใจว่า จะเกี่ยวกับ “ลมหวน” ด้านเครื่องหมายบวก ลมจะมีความเร็วมากกว่า ส่งผลให้บริเวณนั้นมีความดันต่ำกว่าด้านเครื่องหมายลบ ตามหลักการของแบนลี่ จะส่งผลให้ด้านลบที่มีความเร็วลมต่ำกว่า จะมีความดันสูง จึงเกิดลมหวน ก็คล้ายๆๆกับรถบรรทุกขับแซงเราไป ก็จะมีลมมาดูดเราเข้าหารถ แต่ไม่น่าจะมีบล็อกสีดำมากั้นนะ ภาพด้านขวา เมื่อมีระยะทางมาก จะส่งผลให้กลายเป็นอุโมงค์ลม เหมือนมีลมแรงๆๆ ไหลตามซอกตึกใหญ่ๆๆในเมือง

9. อยู่ห้องไหนก็สบาย มีช่องลมเข้า ต้องมีช่องลมออก

10. การมีผนังหรือกำแพง ที่ไม่ทึบ มีช่องระหว่างผนังหรือกำแพง จะช่วยกระจายแรงลม และลดความเร็วในการปะทะได้

11. เปรียบเทียบเหมือนตอนฝนกำลังตก จะช่วยลดอุณหภูมิภายในอากาศลงได้ ถ้าจะใช้ระบบนี้ (Sprinkler) ต้องทำบ่อพักน้ำไว้ด้วยนะครับ เพื่อกักเก็บน้ำที่ใช้ไป และท่อก้ควรเป็นแบบทนความร้อน เหมาะกับภายนอก อายุการใช้งานนาน จะได้คุ้มกับที่จะลงทุน

12. ดึงลมเย็นจากใต้พื้น มาใช้ให้เกิดประโยชน์

13. ลมร้อนลอยลอยสูง ดังนั้นทำช่องระบายมันซะ

14. ต้องมีลิ้นใต้พื้นให้ลมเข้ามา

15. มีหน้าต่างเข้าออกสองบานครับ บานนึงเล็กทางเข้าบานนึงใหญ่ทางออก ให้ลมผ่าน ถ้าบ้านมีมีหน้าต่างทางเดียวลมจะไม่เข้า

16. สำคัญทิศตะวันตก ผนังสะสมความความร้อน และคลายความร้อน ยามค่ำ ดังนั้น ไม่เหมาะที่จะให้ห้องพักผ่อนอยู่ด้านนี้

17. ตรงฝ้าชายคาต้องมีช่องระบายลมด้วยไม่งั้นอากาศร้อนจะสะสมในหลังคาและแผ่ลงมาทางฝ้าเพดาน

18. เหมือนกำแพงระหว่างห้องไม่จำเป็นต้องหนาได้ถ่ายเทความร้อนได้ ถ้าเทียบกับรูปด้านบน

19. กำแพงดักลม

20. ใช้หลักการเดียวกับ เมรุเผาผี ลมร้อนลอยตัวขึ้นบน ลมเย็นจากล่างมาแทนที่

21. นำความร้อนสะสมที่เกิดใต้หลังคาออกไป เป็นการลดอุณหภูมิโดยตรง

22. ปล่อยตรงกลางโล่งเป็นช่องขึ้นไป จะเป็นคล้ายๆบานเกล็ด แบบที่ติดตรงห้องใต้หลังคา

23. ปล่อยให้ความร้อนลงดินไปเล้ยยย

24. หม้อน้ำ มันคือตัวระบายความร้อนชนิดใช้น้ำผ่านเข้าไปในท่อ ซึ่งท่อจะวิ่งผ่านตะแกรงที่แผ่ออกเป็นแผ่นๆ ตัวอย่างที่เราคุ้นตาคือ คอม แอร์ นั่นเอง ทำงานโดยเอาของเหลวที่ร้อน ไปผ่านลมให้เย็นลง แล้วส่งกลับสู่ระบบ หรือเอาของเหลวที่เย็นกว่า ไปวิ่งผ่านเพื่อลดความร้อนของลม ก็ได้ ทำงานได้ทั้งเป็นตัวดูด หรือปล่อย ความร้อน ความเย็น

25. อย่าให้แสงแดดโดนผนังตรง ๆ

26. ให้มีช่องลมผ่าน

27. ใช้ลมเข้าทางหน้าต่างและออกทางปล่อง

28. ใช้ท่อน้ำหรือสายยางขนาดเล็กแล้วใช้ปั้มตู้ปลาดูดและส่งน้ำให้หมุนเวียนเพื่อถ่ายเทความร้อน

29. ละอองน้ำบนหลังคา

30. ขดๆ ข้างล่างเป็นทางน้ำค ปั๊มจะดันน้ำให้ไหลไปตามท่อที่ฝังไว้ใต้ดินเพื่อเอาความเย็น จากนั้นน้ำจะวนเข้ามาในแผงหน้าพัดลมเพื่อเป่าลมผ่านท่อที่เย็น เพื่อได้ลมเย็นเข้าบ้านครับ หลักการเหมือนพัดลมน้ำแข็ง

31. ระบายความร้อนไปข้างบน

32. ทำช่องระบายความร้อนและรับลมเย็นเข้ามา

33. หลังคายื่นบังแสงให้ผนังด้วย ในบ้านให้มีหน้าต่างระบายออก

34. ให้ความรู้ระบายขึ้นด้านบน

35. คอขอดสุญญากาศ แต่ลมที่ผ่านมาต้องแรงนะ

36. ผนังละอองน้ำ

37. เพิ่มช่องลมหลาย ๆ ทิศทาง

เป็นอย่างไรบ้างสำหรับแบบบ้านที่ทำให้บ้านเย็น เหมาะกับเมืองร้อนแบบไทยนะ และสำหรับคำอธิบายภาพนั้น บางภาพก็มาจากผู้เขียนเข้าใจเองหากมีผิดพลาดก็ต้องอภัยด้วย และบางภาพก็มาจากคำแนะนำในคอมเม้นต์ อย่างไรก็ตามชอบแบบไหนก่อนจะสร้างให้ศึกษาข้อมูลวางแปลนเขียนแบบให้ดีก่อนสร้างด้วยนะ เพื่อให้ได้บ้านที่น่าอยู่ตามที่คุณต้องการ

เรียบเรียงโดย : Naykhaotom

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : เพจAXIS Innovation ,google