จงยิ้มหวานให้กับคนที่ทำร้ายคุณ
จงยิ้มหวานให้กับคนที่ทำร้ายคุณ เพราะว่า?
อย่านินทาคนอื่นลับหลัง และอย่าใส่ใจให้มากเมื่อถูกนินทา เพราะโดดเด่นคนเขาเลยจับจ้องที่จะเอ่ยถึง
เพราะมีความสามารถ ใครๆจึงอยากพูดถึง ไม่มีเรื่องราวใดในโลกที่ปราศจากคนวิจารณ์
ไม่มีใครในโลกที่ไม่ถูกนินทา เรื่องบางเรื่องต้องอดทน อย่าปะทุ คนบางคนต้องหลีกเว้น อย่าปะทะ
อมน้ำมนต์ไว้ในปากบ้างจะเป็นไร ปล่อยเขาไปสักสามคืบก็ช่างมัน น้ำลึกมักนิ่ง คนจริงมักสุขุม
ตัณหาเหมือนน้ำในกาเดือดใจคนเหมือนชาในแก้วน้ำเดือดเพราะไฟเผา ชาเย็นลงเพราะเทใส่แก้ว
อย่าหัวเราะเยาะในความพยายามของคนอื่น อย่าดูแคลนผลงานของใครๆ เพราะคุณค่าที่ทุกคนตั้งไว้แตกต่างกัน
จึงไม่ควรสบประมาทมาตรฐานของผู้อื่น สิ่งไร้ค่าในสายตาคุณ อาจมีค่าในสายตาใคร บางครั้ง ความเจ็บปวดที่คุณกำลังเผชิญอยู่
อาจไม่ได้เกิดจากคนอื่นทำร้ายแต่เป็นเพราะคุณใส่ใจมากจนเกินไป เรื่องบางเรื่อง ไม่จำเป็นต้องร้อนรนแก้ตัว
เพราะเวลาจะช่วยประจักษ์แจ้งในทุกสิ่ง (น้ำลดตอย่อมผุด) ยิ้มให้กับคนที่ทำร้ายคุณ ปล่อยผ่านคนที่ดูถูกและด่าว่าคุณ
อดทนหาใช่อ่อนแอ แต่เพราะโอบอุ้มหลีกทางหาใช่ล่าถอย แต่เพราะใจกว้าง ฉันรู้ว่าฉันทำอะไร ฉันจึงอิสระ! …..
สำหรับคนที่เซนซิทีฟสูงและคิดมากกับเรื่องถูกนินทาล่ะก็เรามี 3 วิธีกำจัดคนพวกนี้ไม่พอจะช่วยลดความคิดมากของเราด้วยคะ
ปล.เราคิดเองทั้งหมดน๊าา ถ้าไปซ้ำกับเว็บไหนขออภัยด้วยจ้าแต่เราว่าเรา ใช้วิธีนี้นี่ล่ะทำให้ไม่คิดมากเรื่องถูกนินทา
1.ทำตัวเฟรนลี่กับคนรอบข้างเข้าไว้
เพราะว่า ถ้าเราถูกนินทาจากใครสักคน มันก็ต้องแพร่เรื่องนี้ออกไปให้คนอื่นๆ
รู้กันจนปากต่อปาก และก็ลือกันให้แซ่ดเลยใช่มั้ยล่ะ และการนินทาก็ไม่ต่างจากการ
ว่าเราลับหลังในมุมที่เสียๆ ดังนั้นไม่ว่าเราจะถูกว่าในมุมที่เสียๆมากเท่าไหร่
แต่พอเราทำตัวเฟรนลี่กับคนรอบข้างล่ะก็ คนรอบข้างเรานี้แหละจะพูดปากต่อปากว่า
“เค้าก็ดีนิ ไม่เห็นจะไม่ดีอยากที่คนนู้นคนนั้นพูดเลย”
สรุปก็คือการทำตัวให้คนอื่นมองเห็นด้านดีเรามากกว่าด้านเสียๆไงล่ะ
(แต่ถ้าเฟรนลี่แล้วก็ต้องเฟรนลี่ให้ตลอดไม่ใช่มาร้ายทีหลังนะจ้า)
2.ไม่คิดมาก
หลายคนคงจะคิดมากกับการถูกนินทาใช่มั้ยล่ะคะ ดังนั้นการไม่คิดมากคือสิ่งที่ดีที่สุดนะ
เพราะนอกจากจะทำให้เราดูเป็นคนเรียบง่าย ไม่ฟังเสียงนกเสียงกาหรือไม่แคร์สื่อน่ะ
ถ้าเราไม่คิดมาก + เฟรนลี่ ไปในตัว คนที่เค้ารู้จักคุณจริงๆหรือว่าคนที่ลองเข้ามาคุย
เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเป็นอย่าที่เค้าลือกันรึเปล่าเค้าจะดูออกทันทีว่าคุณน่ะนิสัยดี
อาจจะมีสัก 20% ที่มองว่าเราหน้าหนาไปหน่อย แต่ถ้าเราคิดมากล่ะก็จะเข้าทางพวกนั้นเลย
เพราะอะไรรู้มั้ย พวกนั้นก็จะซัดประโยคนึงที่น่าเจ็บใจที่สุดมาหาคุณคือ
” ถ้าไม่ได้เป็นแล้วจะร้อนตัวทำไม? ” ใช่มั้ยล่าา ดังนั้นอย่าคิดมากเลยนะค่า
3. พร้อมตอบคำถามว่าคุณเป็นอย่างนั้นจริงไหม
การที่คุณพร้อมจะตอบจากคนที่ได้ยินข่าวลือด้านเสียๆหายๆของคุณว่าความจริงเป็นไง
การที่มั่นใจในการตอบก็ทำตัวให้ดูไม่มีพิรุธ การทำตัวสบายๆตอบไปตามความจริง
และไม่พอยังมั่นใจที่จะตอบมันด้วย จะทำให้คุณถูกคนรอบมองคุณว่า
เออ..คุณนี้ไม่ใช่คนอย่างนั้นนี้ ดูจากท่าทางแล้วมั่นใจตอบซะด้วยคงจะจริงแหละ
การที่คุณหลบหรือหลีกเลี่ยงการตอบคำถามนี้จะทำให้คนรอบข้างพูดปากต่อปากว่า
“มันก็คงจะทำของมันจริงแหละ มันถึงไม่กล้าพูดไงล่ะ”
(แต่ที่เราตอบไปต้องเป็นความจริงนะจ้า ถ้าโกหกไปสุดท้ายผลจะออกมาแย่กว่าเก่าน้า)
ที่มา นุสนธิ์บุคส์ และ คิดเป็น , postyim.com , dek-d.com และ deejaiplus