คนไทยสมัยโบราณเชื่อว่าเมื่อทารกเกิดใหม่ๆจะต้องมีแม่ซื้อมาซื้อทารกนั้นไป
เป็นการซื้อกันท่าผี คือถ้าไม่มีแม่ซื้อก็กลัวผีจะมาแย่งเอาไปเลี้ยงเสีย
นั่นหมายถึงเด็กทารกจะตายเมื่อคลอดใหม่ๆ
ประเพณีเมื่อทารกเกิด เขามักเอามาใส่กระด้งร่อน แล้วร้องว่า - สามวันลูกผี สี่วันลูกคน ลูกของใครมารับเอาไป เน้อ - แล้วก็มีผู้หนึ่งร้องตอบว่า - ลูกข้าเอง แล้วก็เอาเงิน 32 เบี้ย ออกมาซื้อ เป็นการลวงผีว่าเด็กนี้ไม่ดี แม่ของตัวที่คลอดออกมาไม่รัก จนต้องมีคนอื่นมาซื้อไปเลี้ยง เมื่อเป็นดังนั้นผีก็ไม่อยากได้ คือไม่เอาไปเลี้ยงเมืองผี เด็กคนนั้นจึงอยู่รอดในโลกมนุษย์ได้
พอเด็กคลอดออกมาหมอตำแย จะต้องส่งเด็กให้กับผู้ที่บิดามารดาเด้กจัดเตรียมไว้ คือผู้ที่มีนิสัยและความประพฤติเป็นที่ถูกใจของบิดามารดาเด็กนั้น ถือกันว่าเด็กนั้นจะมีนิสัยเหมือนกับผู้ที่มารับอุ้มครั้งแรก ต่อมาก็อาบน้ำ เมื่อเด็กเติบโตขึ้นจะบริบูรณ์ด้วยทรัพย์สินเงินทอง อาบน้ำแต่งตัว แล้วก็วางบนเบาะซึ่งอยู่ในกระด้ง ถ้าเป็นเด็กหญิงก็ใส่ด้าย เข็มลงไปด้วย จะได้เก่งในการเย็บปักถักร้อย ถ้าเป็นเด็กชายก็ใส่กระดาษดินสอจะได้เป็นปราชญ์
พออายุๆได้ประมาณ 1 เดือน ก็จะทำพิธีโกนผมไฟ พราหมณ์ผู้ทำพิธีจะนำถุงถั่วต่างๆ วางไว้ข้างเปลทั้งสองข้าง เอาหินบดยาวางไว้ข้างหนึ่ง ฟักวางไว้ข้างหนึ่ง แล้วเอาแมวที่แต่งตัวไว้ลงเปลเสียก่อน มีความหมายว่า ให้เด็กนั้นงอกงามเกิดมูนพูนผลเหมือนถั่ว ให้เนื้อเย็นเหมือนฟัก ให้หนักแน่นเหมือนหิน ให้รู้อยู่เหมือนแมว
แม่ซื้อ เชื่อว่าเป็นเทวดา หรือ วิญญาณที่คอยดูแลเด็ก เชื่อว่ามี 7 ตนอยู่ประจำวันได้แก่
วันอาทิตย์ ชื่อว่า “วิจิตรมาวรรณ” มีหัวเป็นสิงห์ มีผิวกายสีแดง
วันจันทร์ ชื่อว่า “วรรณนงคราญ” มีหัวเป็นม้า มีผิวสีขาวนวล
วันอังคาร ชื่อว่า “ยักษบริสุทธิ์ มีหัวเป็นมหิงสา (ควาย)" ผิวกายสีชมพู
วันพุธ ชื่อว่า ” สามลทัศ” มีหัวเป็นช้าง ผิวกายสีเขียว
วันพฤหัสบดี ชื่อว่า “กาโลทุกข์” มีหัวเป็นกวาง มีผิวกายสีเหลืองอ่อน
วันศุกร์ ชื่อว่า “ยักษ์นงเยาว์” มีหัวเป็นโค ผิวกายสีฟ้าอ่อน
วันเสาร์ ชื่อว่า “เอกาไลย์” มีหัวเป็นเสือ ผิวกายสีดำ ทุกตนทรงอาภรณ์(เสื้อผ้า)สีทอง
ขอบคุณบทความดีๆจาก http://th.wikipedia.org/
ขอบคุณภาพโดย
สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม http://www.culture.go.th/
ประเพณีเมื่อทารกเกิด เขามักเอามาใส่กระด้งร่อน แล้วร้องว่า - สามวันลูกผี สี่วันลูกคน ลูกของใครมารับเอาไป เน้อ - แล้วก็มีผู้หนึ่งร้องตอบว่า - ลูกข้าเอง แล้วก็เอาเงิน 32 เบี้ย ออกมาซื้อ เป็นการลวงผีว่าเด็กนี้ไม่ดี แม่ของตัวที่คลอดออกมาไม่รัก จนต้องมีคนอื่นมาซื้อไปเลี้ยง เมื่อเป็นดังนั้นผีก็ไม่อยากได้ คือไม่เอาไปเลี้ยงเมืองผี เด็กคนนั้นจึงอยู่รอดในโลกมนุษย์ได้
พอเด็กคลอดออกมาหมอตำแย จะต้องส่งเด็กให้กับผู้ที่บิดามารดาเด้กจัดเตรียมไว้ คือผู้ที่มีนิสัยและความประพฤติเป็นที่ถูกใจของบิดามารดาเด็กนั้น ถือกันว่าเด็กนั้นจะมีนิสัยเหมือนกับผู้ที่มารับอุ้มครั้งแรก ต่อมาก็อาบน้ำ เมื่อเด็กเติบโตขึ้นจะบริบูรณ์ด้วยทรัพย์สินเงินทอง อาบน้ำแต่งตัว แล้วก็วางบนเบาะซึ่งอยู่ในกระด้ง ถ้าเป็นเด็กหญิงก็ใส่ด้าย เข็มลงไปด้วย จะได้เก่งในการเย็บปักถักร้อย ถ้าเป็นเด็กชายก็ใส่กระดาษดินสอจะได้เป็นปราชญ์
พออายุๆได้ประมาณ 1 เดือน ก็จะทำพิธีโกนผมไฟ พราหมณ์ผู้ทำพิธีจะนำถุงถั่วต่างๆ วางไว้ข้างเปลทั้งสองข้าง เอาหินบดยาวางไว้ข้างหนึ่ง ฟักวางไว้ข้างหนึ่ง แล้วเอาแมวที่แต่งตัวไว้ลงเปลเสียก่อน มีความหมายว่า ให้เด็กนั้นงอกงามเกิดมูนพูนผลเหมือนถั่ว ให้เนื้อเย็นเหมือนฟัก ให้หนักแน่นเหมือนหิน ให้รู้อยู่เหมือนแมว
แม่ซื้อ เชื่อว่าเป็นเทวดา หรือ วิญญาณที่คอยดูแลเด็ก เชื่อว่ามี 7 ตนอยู่ประจำวันได้แก่
วันอาทิตย์ ชื่อว่า “วิจิตรมาวรรณ” มีหัวเป็นสิงห์ มีผิวกายสีแดง
วันจันทร์ ชื่อว่า “วรรณนงคราญ” มีหัวเป็นม้า มีผิวสีขาวนวล
วันอังคาร ชื่อว่า “ยักษบริสุทธิ์ มีหัวเป็นมหิงสา (ควาย)" ผิวกายสีชมพู
วันพุธ ชื่อว่า ” สามลทัศ” มีหัวเป็นช้าง ผิวกายสีเขียว
วันพฤหัสบดี ชื่อว่า “กาโลทุกข์” มีหัวเป็นกวาง มีผิวกายสีเหลืองอ่อน
วันศุกร์ ชื่อว่า “ยักษ์นงเยาว์” มีหัวเป็นโค ผิวกายสีฟ้าอ่อน
วันเสาร์ ชื่อว่า “เอกาไลย์” มีหัวเป็นเสือ ผิวกายสีดำ ทุกตนทรงอาภรณ์(เสื้อผ้า)สีทอง
ขอบคุณบทความดีๆจาก http://th.wikipedia.org/
ขอบคุณภาพโดย
สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม http://www.culture.go.th/