ชวนเที่ยวปัว จังหวัดน่าน
แบบใหม่ ชมธรรมชาติและวิถีชีวิตชุมชนไปพร้อมกับการทำกิจกรรมสร้างสรรค์
เพื่อเพิ่มองค์ความรู้
ได้ทั้งเที่ยวพักผ่อนและเพิ่มศักยภาพให้กับนักท่องเที่ยว
เที่ยวน่านครั้งนี้คุ้มสุด ๆ
ที่ผ่านมาใครหลายคนอาจจะคิดว่าการเดินทางออกท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่เราใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แต่นั่นอาจจะไม่จริงซะทีเดียว เพราะการออกเดินทางท่องเที่ยวมันได้อะไรมากกว่าเงินที่เสียไปแน่นอน โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในปัจจุบันที่มีการพลิกโฉมรูปแบบใหม่ ให้กลายเป็นการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น เน้นให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้และสัมผัสถึงแก่นของแหล่งท่องเที่ยวจริง ๆ อย่างการเดินทางไปเที่ยวปัว จังหวัดน่าน ครั้งนี้ เราไม่ได้ไปเที่ยวถ่ายรูปตามที่เที่ยวปัวเท่านั้นนะคะ เรายังได้ทำกิจกรรมสนุกสนานมากมาย ตามโครงการ Creative Tourism District ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในเส้นทางแฮนด์คราฟต์ (Handcraft) จึงอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การเที่ยวปัว 2 วัน 1 คืน ที่ไม่เหมือนใครให้ทุกคนได้ลองตามรอยกันค่ะ
++ เที่ยวปัว รักชัวร์ ไม่มั่วนิ่ม
การเดินทางไปจังหวัดน่าน
เดี๋ยวนี้ไม่ต้องนั่งรถโดยสารประจำทางให้ยุ่งยากแล้วค่ะ
โดยเฉพาะใครที่มีเวลาน้อยก็สามารถเที่ยวปัว-น่าน ภายในเวลา 2 วัน 1 คืนได้
เพราะมีสายการบินให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯ-น่าน หลายสายการบินเลยทีเดียว
จากสนามบินน่าน เราสามารถเช่ารถขับไปยังอำเภอปัวได้เลย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ไม่ต้องรีบค่ะ ค่อย ๆ ขับไปปลอดภัยกว่าเยอะ ^^ ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 ยิงยาวไปอำเภอปัวกันเลย
ระหว่างทางไปอำเภอปัว ตลอดเส้นทางส่วนใหญ่จะเป็นป่าเขาเขียวขจีไปหมดทั้งสองข้างทางเลยค่ะ บางช่วงไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เพราะมันทำให้เราได้เงยหน้าขึ้นมามองวิวสองข้างทาง และยังได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมทางอีกด้วย :)
++ ไหว้พระทำบุญ ชมวิวทุ่งนา ทำผ้ามัดย้อม ณ ปัว
จุดหมายแรกของเรา แน่นอนว่าจะต้องมาไหว้พระทำบุญ เอาฤกษ์เอาชัยกันก่อน เรามุ่งหน้ามาที่ "วัดภูเก็ต" ค่ะ ตั้งอยู่ที่ตำบลวรนคร ซึ่งนอกจากวัดแห่งนี้จะเป็นศูนย์รวมใจของชาวบ้านในพื้นที่แล้วก็ยังเป็นวัดที่มีจุดชมวิวสวย ๆ อีกด้วย
จากระเบียงวัดภูเก็ต มองลงไปจะเห็นท้องทุ่งนากว้างใหญ่
มีเบื้องหลังเป็นภูเขาน้อยใหญ่ เรียงตัวสลับกันไปมาสวยงามทีเดียว
เสียดายช่วงที่เรามาชาวบ้านเริ่มเก็บเกี่ยวข้าวแล้วค่ะ
เลยได้เห็นทุ่งนาสีน้ำตาลแทน แต่มันก็สวยไปอีกแบบ
ที่สำคัญอากาศเย็นสบายสดชื่นมากกกกกก...
และถ้าหากมองลงไปจากจุดนี้เราก็จะเจอกับ "ตูบนาไทลื้อ"
อีกหนึ่งจุดเช็กอินห้ามพลาดของเมืองปัว
จากวัดภูเก็ตสามารถเดินลงไปได้เลยนะคะ จะมีทางเดินลงอยู่ด้านข้างของวัด
ที่ตูบนาไทลื้อในช่วงวันหยุดจะมีบริการกาแฟและเครื่องดื่มร้อน-เย็น
มีร้านขายผัก-ผลไม้ และสินค้าทางการเกษตรของชาวบ้านมาจำหน่าย
พร้อมทั้งที่พักแบบกระท่อมกลางท้องนา บรรยากาศสบาย ๆ
และความสนุกสนานของเราก็เริ่มที่นี่ค่ะ
ป้าหลอมสอนพวกเราทำผ้ามัดย้อม โดยมีพี่ ๆ ในหมู่บ้านมาช่วยสอนด้วย
อยากจะบอกว่าป้าหลอมน่ารักมาก พูดจานิ่ม ๆ
บ่งบอกถึงความเป็นสาวน่านได้อย่างดีทีเดียว พี่ ๆ
ชาวบ้านก็คอยช่วยเหลืออย่างดี ประทับใจสุด ๆ
อุปกรณ์การทำผ้ามัดย้อมมีไม่เยอะ ทำไม่ยาก แต่จะทำให้ออกมาสวยนั้นยากมากค่ะ 555 (ขำทั้งน้ำตา) เริ่มแรกก็เอาผ้าผืนสีขาวมามัดด้วยก้อนหิน ตามมุมต่าง ๆ ลองจินตนาการกันเอานะคะว่าถ้ามัดแล้วมันจะออกมาเป็นลายไหน ของเราไม่ได้จินตนาการเลยค่ะ เป็นคนไม่มีศิลปะในหัวใจ ก็เลยมัดไปตามแบบที่ตัวเองคิดว่าน่าจะออกมาสวยเหมือนหน้าตา (เหรอ !?)
หลังจากขำขันจนท้องแข็งกับลายผ้าของแต่ละคน ท้องไส้ก็เริ่มทำงานค่ะ ร้องเสียงดังเชียว สงสัยจะดังจนชาวบ้านได้ยิน เลยจัดยำหมาน้อยมาให้ เขียนไม่ผิดแน่นอนค่ะ มันคือเมนูชื่อ "ยำหมาน้อย" ซึ่งทำมาจากวุ้นของพืชที่ชื่อว่าหมาน้อยนั่นแหละ เป็นสมุนไพรอย่างหนึ่งค่ะ เนื้อของวุ้นจะเย็น ๆ มีรสชาติเปรี้ยวและเผ็ดนิด ๆ กินแล้วเย็นสบายท้องดีนะคะ ^^
ยำหมาน้อย
แต่แค่นั้นก็ยังไม่สาแก่ใจท้องของพวกเรา ขอไปจัดหนักกันต่อที่ "ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ" ตั้งอยู่บนเนินเขาในพื้นที่ตำบลศิลาแลงค่ะ เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารปัวที่มีวิวสวย ๆ ของท้องทุ่งนาให้ได้ชมกัน
เมนูอาหารส่วนใหญ่แน่นอนว่าจะต้องมีเห็ดชนิดต่าง ๆ
ผสมอยู่อย่างแน่นอน
ถ้าใครแพ้เห็ดประเภทไหนก็อย่าลืมถามพนักงานให้แน่ใจนะคะว่าใส่เห็ดอะไรบ้างในแต่ละเมนู
++ ช็อกโกแลตเมืองปัวจ๋า พี่มาแล้ว :)
หลังจากหนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน แต่เราจะมานั่งหลับไม่ได้ค่ะ เพราะเรามีอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจมาก ๆ ในบ่ายนี้ต้องไปทำกัน เรามุ่งหน้าไปที่ "Cocoa Valley Resort" เพื่อไปทำเวิร์กช็อปสบู่จากช็อกโกแลต
การมาทำเวิร์กช็อปที่นี่อยากบอกว่าสนุกและฟินมาก ๆ ค่ะ เพราะเราได้ไปลุยถึงต้นตอที่มาของช็อกโกแลตกันเลยทีเดียว โดยคุณมนูญ ทนะวัง และภรรยา (คุณจารุวรรณ จิณเสน) ได้พาเดินชมสวนต้นโกโก้ และชมวิธีคัดแยกเปลือกของเมล็ดโกโก้ เรารู้สึก "ว้าว" มาก ๆ เพราะไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าในเมืองไทยสามารถปลูกต้นโกโก้ ซึ่งเป็นแหล่งที่มาของช็อกโกแลตได้ด้วย (ความรู้น้อยแค่ไหน ถามใจเธอดู ฮ่า ๆๆ)
การคัดแยกเปลือกโกโก้ โดยใช้วิธีเดียวกับการฝัดข้าว
หลังจากเดินชมสวนแล้วก็ไปเริ่มกระบวนการทำสบู่กันค่ะ คุณจารุวรรณมาสอนเราด้วยตัวเองเลย เตรียมอุปกรณ์มาให้พร้อม อุปกรณ์หลัก ๆ ก็มีหม้อเพื่อเคี่ยวเนื้อสบู่, ช็อกโกแลต 100%, หัวน้ำหอม, กลีเซอรีน, แม่พิมพ์สบู่ ฯลฯ
เริ่มแรกต้องชั่งส่วนผสมตามสูตรก่อน
แล้วนำเนื้อกลีเซอรีนไปเคี่ยวในหม้อให้ละลาย พอละลายแล้วก็ใส่หัวน้ำหอม
ตามด้วยช็อกโกแลต พอทุกอย่างเข้ากันแล้วก็เทลงแม่พิมพ์ รอให้สบู่แข็งตัว
บอกเลยว่ากิจกรรมนี้ค่อนข้างฟิน เพราะทำไปชิมช็อกโกแลตไป
อ่อย...ดีงามเหลือเกิน
ระหว่างรอสบู่ให้แข็งตัว หลังจากนี้นี่ฟินของจริงค่ะ เพราะเราจะไปกินช็อกโกแลตกันแบบจัดเต็มที่ Cocoa Valley Cafe อย่างแรกที่ทำให้ใจเราเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ก็คือช็อกโกแลตฟองดูว์ โอ้โห...มันอลังการมากค่ะ มีผลไม้และขนมหวานเอาไว้ให้จิ้มกับช็อกโกแลตเพียบ ! แม่คะ...ขอกระเพาะเพิ่มให้ลูกอีกอันหนึ่งด่วนค่ะ 555
ยัง...ยังไม่สะใจ ยังมีเมนูช็อกโกแลตลาวา, วาฟเฟิลช็อกโกแลต, ช็อกโกแลตปั่นเย็น ๆ และอื่น ๆ จัดมาเสิร์ฟกันอย่างไม่หยุดหย่อน กินเข้าไปค่ะ พุงจะใหญ่พี่ก็ยอมมมมมม
Cocoa Valley Cafe
Cocoa Valley Cafe
Cocoa Valley Cafe
Cocoa Valley Cafe
Cocoa Valley Cafe
ที่พักของ Cocoa Valley Resort
ที่พักของ Cocoa Valley Resort
ที่พักของ Cocoa Valley Resort
ที่พักของ Cocoa Valley Resort
ที่พักของ Cocoa Valley Resort
ที่พักของ Cocoa Valley Resort
ที่พักของ Cocoa Valley Resort
อาหารเย็นกับบรรยากาศสวย ๆ ของเมืองปัว
++ ไหว้พระ ชมวิวหมื่นแสน ณ วัดพระธาตุเบ็งสกัด
พอฟินกับช็อกโกแลตกันไปแล้วก็ต้องไปหาที่ย่อยกันหน่อยค่ะ
ในอำเภอปัวยังมีแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ ให้ได้ไปเที่ยวอีกเพียบเลยค่ะ
หนึ่งในนั้นก็คือ "วัดพระธาตุเบ็งสกัด" วัดเก่าแก่แห่งอำเภอปัว
มีอายุราว ๆ 700 ปี
องค์พระธาตุมีลักษณะเป็นรูปทรงระฆังคว่ำย่อมุมแปดเหลี่ยม
สีเหลืองทองสวยงามอร่าม ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
ข้าง ๆ กันนั้นเป็นวิหารหลวง มีหลังคา 2 ชั้น 2 ตับ
มุงด้วยแป้นเกล็ด ประตูด้านหน้ามีการแกะสลักอย่างสวยงาม
ด้านในมีพระประธานให้ได้ไปกราบไหว้ขอพรด้วย
บริเวณด้านหน้าของวิหารหลวงจะมีจุดชมวิวทุ่งนาเมืองปัวในมุมสูง
ซึ่งสามารถมองเห็นทุ่งนากว้างใหญ่ เบื้องหลังเป็นภูเขาสวยงาม อากาศเย็นสบาย
และบรรยากาศยังเงียบสงบอีกด้วย ได้ทั้งไหว้พระทำบุญ ชมวิวสวย ๆ
และสูดอากาศบริสุทธิ์
แบบนี้เติมทั้งพลังกายและใจได้อีกหลายเปอร์เซ็นต์เลยค่ะ ^^
++ เมืองปัว เมืองแห่งนาข้าว
เช้าวันนี้ทุกคนพร้อมใจกันตื่นแต่เช้าเพื่อไปทำบุญใส่บาตรกันในตัวเมือง เราแวะซื้ออาหารคาวและหวานกันที่ตลาดเทศบาลตำบลปัว มีอาหารและขนมพื้นเมืองให้เลือกซื้อเยอะแยะเลย ราคาไม่แพงด้วย
หมอกบาง ๆ ช่วงประมาณ 06.00 น. ของเมืองปัวในช่วงหน้าหนาว
ใส่บาตรทำบุญเรียบร้อย แสงพระอาทิตย์ก็เริ่มมาแล้วค่ะ
ไกด์ของเราก็เลยพาไปตะลุยชมวิวสวย ๆ ของทุ่งนาเมืองปัวกันต่อ
ตำแหน่งถ่ายรูปทุ่งนาสวย ๆ ของเมืองปัวก็จะอยู่บนถนนเส้นทางหลวงหมายเลข
1256 ผ่านเลยหมู่บ้านเข้าไปก็จะมีทุ่งนากว้าง ๆ
และวิวของภูเขาสูงใหญ่ภายในอุทยานแห่งชาติดอยภูคาให้ได้ชมกันอย่างจุใจ
สามารถจอดรถหลบข้างทางเพื่อถ่ายภาพกันได้เลยค่ะ วิวก็สวย อากาศก็เย็นฉ่ำใจ ตกหลุมรักปัวจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วตอนนี้ <3
++ แต่งกายเป็นสาวเย้า เรียนรู้การทำเครื่องเงิน ณ ดอยซิลเวอร์แฟคตอรี่
อำเภอปัว มีชื่อเสียงอีกหนึ่งอย่างก็คือ "เครื่องเงิน" โดยเฉพาะที่ "ดอยซิลเวอร์แฟคตอรี่" ศูนย์หัตถกรรมเครื่องเงินที่ได้มาตรฐานสากล ซึ่งมีการออกแบบเครื่องเงินให้เป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มากมาย ยิ่งเครื่องประดับก็ยิ่งมีให้เลือกหลากหลายแบบ
และเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็จะพลาดไม่ได้กับการแต่งกายเป็นเจ้าสาวเผ่าเย้า
ซึ่งมีเอกลักษณ์ในการแต่งกายที่โดดเด่นมาก
จะมีเครื่องประดับเงินมากมายหลายชิ้น
ชุดที่เราได้สวมใส่ในวันนี้ราคาก็ไม่แพงเท่าไร แค่ประมาณ 600,000 บาทเอง
อย่าได้ให้ชิ้นใดหลุดเชียว ไม่งั้นคงต้องกินแกลบ 555
กิจกรรมต่อไปที่เราสามารถมาทำที่นี่ได้ก็คือการตอกเครื่องเงินค่ะ อยากให้มาลองทำกันจริง ๆ สักครั้งเพราะเมื่อคุณได้ลองแล้วจะไม่อยากต่อราคาเครื่องเงินเลยล่ะ เพราะกว่าจะได้เป็นชิ้นงานที่งดงามสักชิ้น ต้องใช้ความอดทน พยายาม และความสามารถพิเศษเฉพาะตัว แค่ตอกดาวดวงเดียวเรายังใช้เวลานานพอสมควรเลยค่ะ
++ ปั้นดิน ให้กลายเป็นดาว
กิจกรรมเวิร์กช็อปในเมืองปัวที่เด่น ๆ ก็มีดังข้างต้นที่เราได้พาไปตะลุยมา แต่ยังมีอีกกิจกรรมของเมืองน่านที่เราไม่อยากให้พลาดค่ะ เรามุ่งหน้าไปที่อำเภอเมืองน่าน เพื่อไปแหล่งเตาเผาและเครื่องปั้นดินเผา "บ้านบ่อสวก" อันเป็นสถานที่สำคัญที่มีการขุดค้นพบเตาเผาโบราณ
วันนี้เราจะไปลองปั้นดินกันค่ะ โดยมีคุณน้าวิไลและชาวบ้านสุดน่ารักเป็นผู้สอนให้ ซึ่งดินที่นำมาปั้นก็เป็นดินเหนียวจากพื้นที่ของตำบลสวกนี่เอง ดินเหนียวที่นี่จะมีคุณสมบัติพิเศษกว่าที่อื่น ๆ เมื่อนำมาทำเป็นภาชนะต่าง ๆ ก็จะมีความแข็งแรงทนทาน ใช้งานได้นาน
การทำเครื่องปั้นดินเผาไม่ง่ายเลยค่ะ ต้องปั้นแล้วปั้นอีก ต้องเรียนรู้ท่าปั้นต่าง ๆ ต้องรู้น้ำหนักมือ กว่าจะขึ้นรูปได้ก็แทบถอดใจกันเลยล่ะ แต่เมื่อทำได้เราก็จะภูมิใจสุด ๆ เลยค่ะ ^^
ลายดั้งเดิมของบ้านบ่อสวก
ข้อมูลการติดต่อสถานที่ต่าง ๆ ในอำเภอปัว
1. ตูบนาไทลื้อ
โทรศัพท์ : 08 5199 0255
เฟซบุ๊ก : ตูบนาไทลื้อ & ตูบนากาแฟ หน้าวัดภูเก็ต อ.ปัว จ.น่าน
2. บ้านป้าหลอม
โทรศัพท์ : 08 1180 2964
เฟซบุ๊ก : ป้าหลอม ผ้าทอโบราณ
3. ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ
โทรศัพท์ : 0 5479 2252
เฟซบุ๊ก : ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำโฮมสเตย์
4. Cocoa Valley Resort
โทรศัพท์ : 09 7186 6116
เฟซบุ๊ก : Cocoa Valley Resort
5. ดอยซิลเวอร์แฟคตอรี่
โทรศัพท์ : 0 5479 1650, 08 1568 2434, 08 1884 6352
เฟซบุ๊ก : เครื่องเงินน่าน by Doi Silver - ดอยซิลเวอร์
6. เครื่องปั้นดินเผาบ้านบ่อสวก
โทรศัพท์ : 09 0232 9515 (ป้าวิไล), 08 5912 7945 (ป้าบุญทอง), 08 4702 3691 (ป้าพิณ), 08 4524 0339 (ป้าวริตา)
ถ้าใครกำลังวางแผนไปเที่ยวปัว แล้วอยากไปร่วมกิจกรรมสุดสนุกแบบ Creative Tourism แบบนี้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยที่เฟซบุ๊ก Creative District Thailand วันหยุดหน้าเจอกันที่ปัว จังหวัดน่าน นะคะ :)
ขอขอบคุณ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, Creative District Thailand
ที่ผ่านมาใครหลายคนอาจจะคิดว่าการเดินทางออกท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่เราใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แต่นั่นอาจจะไม่จริงซะทีเดียว เพราะการออกเดินทางท่องเที่ยวมันได้อะไรมากกว่าเงินที่เสียไปแน่นอน โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในปัจจุบันที่มีการพลิกโฉมรูปแบบใหม่ ให้กลายเป็นการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น เน้นให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้และสัมผัสถึงแก่นของแหล่งท่องเที่ยวจริง ๆ อย่างการเดินทางไปเที่ยวปัว จังหวัดน่าน ครั้งนี้ เราไม่ได้ไปเที่ยวถ่ายรูปตามที่เที่ยวปัวเท่านั้นนะคะ เรายังได้ทำกิจกรรมสนุกสนานมากมาย ตามโครงการ Creative Tourism District ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในเส้นทางแฮนด์คราฟต์ (Handcraft) จึงอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การเที่ยวปัว 2 วัน 1 คืน ที่ไม่เหมือนใครให้ทุกคนได้ลองตามรอยกันค่ะ
จากสนามบินน่าน เราสามารถเช่ารถขับไปยังอำเภอปัวได้เลย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ไม่ต้องรีบค่ะ ค่อย ๆ ขับไปปลอดภัยกว่าเยอะ ^^ ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 ยิงยาวไปอำเภอปัวกันเลย
ระหว่างทางไปอำเภอปัว ตลอดเส้นทางส่วนใหญ่จะเป็นป่าเขาเขียวขจีไปหมดทั้งสองข้างทางเลยค่ะ บางช่วงไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เพราะมันทำให้เราได้เงยหน้าขึ้นมามองวิวสองข้างทาง และยังได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมทางอีกด้วย :)
++ ไหว้พระทำบุญ ชมวิวทุ่งนา ทำผ้ามัดย้อม ณ ปัว
สะพานไม้ข้ามคลองเล็ก ๆ ไปยังท้องนากว้างใหญ่ บริเวณหน้าบ้านป้าหลอม ผ้าทอโบราณ
สะพานไม้ข้ามคลองเล็ก ๆ ไปยังท้องนากว้างใหญ่ บริเวณหน้าบ้านป้าหลอม ผ้าทอโบราณ
จากตูบนาไทลื้อลองเดินย้อนกลับมาทางชุมชนนิดหนึ่งค่ะ เราจะเจอกับ "บ้านป้าหลอม ผ้าทอโบราณ"
ถ้าเดินไปไม่ถูกถามคนแถวนั้นได้เลยค่ะ บ้านป้าหลอม (ศดานันท์ เนตรทิพย์)
เป็นบ้านหลังเล็ก ๆ ด้านหน้าเปิดเป็นร้านขายผ้าทอโบราณ มีผ้าทอลายสวย ๆ
เพียบเลยค่ะสะพานไม้ข้ามคลองเล็ก ๆ ไปยังท้องนากว้างใหญ่ บริเวณหน้าบ้านป้าหลอม ผ้าทอโบราณ
อุปกรณ์การทำผ้ามัดย้อมมีไม่เยอะ ทำไม่ยาก แต่จะทำให้ออกมาสวยนั้นยากมากค่ะ 555 (ขำทั้งน้ำตา) เริ่มแรกก็เอาผ้าผืนสีขาวมามัดด้วยก้อนหิน ตามมุมต่าง ๆ ลองจินตนาการกันเอานะคะว่าถ้ามัดแล้วมันจะออกมาเป็นลายไหน ของเราไม่ได้จินตนาการเลยค่ะ เป็นคนไม่มีศิลปะในหัวใจ ก็เลยมัดไปตามแบบที่ตัวเองคิดว่าน่าจะออกมาสวยเหมือนหน้าตา (เหรอ !?)
มัดผ้าแล้ว ก็เอามาแช่น้ำ รอลงไปต้มกับน้ำคราม
พอมัดเสร็จแล้วก็เอาผ้ามาแช่น้ำเปล่าให้ผ้าเปียกค่ะ
รอให้ใบครามที่กำลังต้มอยู่ในหม้อออกสีเข้มข้น ก็ค่อยเอาผ้าลงไปต้มค่ะ
ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ป้าหลอมบอกว่ากำลังดีเลย สีจะได้เข้มและติดทนนาน :)
มาดูลายของเรากัน เราตั้งชื่อว่า "ลายอะมีบา" ฮ่าๆๆๆๆ
หลังจากขำขันจนท้องแข็งกับลายผ้าของแต่ละคน ท้องไส้ก็เริ่มทำงานค่ะ ร้องเสียงดังเชียว สงสัยจะดังจนชาวบ้านได้ยิน เลยจัดยำหมาน้อยมาให้ เขียนไม่ผิดแน่นอนค่ะ มันคือเมนูชื่อ "ยำหมาน้อย" ซึ่งทำมาจากวุ้นของพืชที่ชื่อว่าหมาน้อยนั่นแหละ เป็นสมุนไพรอย่างหนึ่งค่ะ เนื้อของวุ้นจะเย็น ๆ มีรสชาติเปรี้ยวและเผ็ดนิด ๆ กินแล้วเย็นสบายท้องดีนะคะ ^^
ยำหมาน้อย
++ ช็อกโกแลตเมืองปัวจ๋า พี่มาแล้ว :)
หลังจากหนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน แต่เราจะมานั่งหลับไม่ได้ค่ะ เพราะเรามีอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจมาก ๆ ในบ่ายนี้ต้องไปทำกัน เรามุ่งหน้าไปที่ "Cocoa Valley Resort" เพื่อไปทำเวิร์กช็อปสบู่จากช็อกโกแลต
การมาทำเวิร์กช็อปที่นี่อยากบอกว่าสนุกและฟินมาก ๆ ค่ะ เพราะเราได้ไปลุยถึงต้นตอที่มาของช็อกโกแลตกันเลยทีเดียว โดยคุณมนูญ ทนะวัง และภรรยา (คุณจารุวรรณ จิณเสน) ได้พาเดินชมสวนต้นโกโก้ และชมวิธีคัดแยกเปลือกของเมล็ดโกโก้ เรารู้สึก "ว้าว" มาก ๆ เพราะไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าในเมืองไทยสามารถปลูกต้นโกโก้ ซึ่งเป็นแหล่งที่มาของช็อกโกแลตได้ด้วย (ความรู้น้อยแค่ไหน ถามใจเธอดู ฮ่า ๆๆ)
การคัดแยกเปลือกโกโก้ โดยใช้วิธีเดียวกับการฝัดข้าว
ผลโกโก้
หลังจากเดินชมสวนแล้วก็ไปเริ่มกระบวนการทำสบู่กันค่ะ คุณจารุวรรณมาสอนเราด้วยตัวเองเลย เตรียมอุปกรณ์มาให้พร้อม อุปกรณ์หลัก ๆ ก็มีหม้อเพื่อเคี่ยวเนื้อสบู่, ช็อกโกแลต 100%, หัวน้ำหอม, กลีเซอรีน, แม่พิมพ์สบู่ ฯลฯ
ระหว่างรอสบู่ให้แข็งตัว หลังจากนี้นี่ฟินของจริงค่ะ เพราะเราจะไปกินช็อกโกแลตกันแบบจัดเต็มที่ Cocoa Valley Cafe อย่างแรกที่ทำให้ใจเราเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ก็คือช็อกโกแลตฟองดูว์ โอ้โห...มันอลังการมากค่ะ มีผลไม้และขนมหวานเอาไว้ให้จิ้มกับช็อกโกแลตเพียบ ! แม่คะ...ขอกระเพาะเพิ่มให้ลูกอีกอันหนึ่งด่วนค่ะ 555
ยัง...ยังไม่สะใจ ยังมีเมนูช็อกโกแลตลาวา, วาฟเฟิลช็อกโกแลต, ช็อกโกแลตปั่นเย็น ๆ และอื่น ๆ จัดมาเสิร์ฟกันอย่างไม่หยุดหย่อน กินเข้าไปค่ะ พุงจะใหญ่พี่ก็ยอมมมมมม
Cocoa Valley Cafe
Cocoa Valley Cafe
Cocoa Valley Cafe
Cocoa Valley Cafe
Cocoa Valley Cafe
ที่พักของ Cocoa Valley Resort
ที่พักของ Cocoa Valley Resort
ที่พักของ Cocoa Valley Resort
ที่พักของ Cocoa Valley Resort
ที่พักของ Cocoa Valley Resort
ที่พักของ Cocoa Valley Resort
ที่พักของ Cocoa Valley Resort
อาหารเย็นกับบรรยากาศสวย ๆ ของเมืองปัว
++ เมืองปัว เมืองแห่งนาข้าว
เช้าวันนี้ทุกคนพร้อมใจกันตื่นแต่เช้าเพื่อไปทำบุญใส่บาตรกันในตัวเมือง เราแวะซื้ออาหารคาวและหวานกันที่ตลาดเทศบาลตำบลปัว มีอาหารและขนมพื้นเมืองให้เลือกซื้อเยอะแยะเลย ราคาไม่แพงด้วย
อาหารเช้า :)
หมอกบาง ๆ ช่วงประมาณ 06.00 น. ของเมืองปัวในช่วงหน้าหนาว
ธนาคารที่มีสถาปัตยกรรมสวยเก๋แห่งหนึ่งของเมืองไทย อยู่ที่เมืองปัวนี่เอง :)
++ แต่งกายเป็นสาวเย้า เรียนรู้การทำเครื่องเงิน ณ ดอยซิลเวอร์แฟคตอรี่
อำเภอปัว มีชื่อเสียงอีกหนึ่งอย่างก็คือ "เครื่องเงิน" โดยเฉพาะที่ "ดอยซิลเวอร์แฟคตอรี่" ศูนย์หัตถกรรมเครื่องเงินที่ได้มาตรฐานสากล ซึ่งมีการออกแบบเครื่องเงินให้เป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มากมาย ยิ่งเครื่องประดับก็ยิ่งมีให้เลือกหลากหลายแบบ
กิจกรรมต่อไปที่เราสามารถมาทำที่นี่ได้ก็คือการตอกเครื่องเงินค่ะ อยากให้มาลองทำกันจริง ๆ สักครั้งเพราะเมื่อคุณได้ลองแล้วจะไม่อยากต่อราคาเครื่องเงินเลยล่ะ เพราะกว่าจะได้เป็นชิ้นงานที่งดงามสักชิ้น ต้องใช้ความอดทน พยายาม และความสามารถพิเศษเฉพาะตัว แค่ตอกดาวดวงเดียวเรายังใช้เวลานานพอสมควรเลยค่ะ
++ ปั้นดิน ให้กลายเป็นดาว
กิจกรรมเวิร์กช็อปในเมืองปัวที่เด่น ๆ ก็มีดังข้างต้นที่เราได้พาไปตะลุยมา แต่ยังมีอีกกิจกรรมของเมืองน่านที่เราไม่อยากให้พลาดค่ะ เรามุ่งหน้าไปที่อำเภอเมืองน่าน เพื่อไปแหล่งเตาเผาและเครื่องปั้นดินเผา "บ้านบ่อสวก" อันเป็นสถานที่สำคัญที่มีการขุดค้นพบเตาเผาโบราณ
วันนี้เราจะไปลองปั้นดินกันค่ะ โดยมีคุณน้าวิไลและชาวบ้านสุดน่ารักเป็นผู้สอนให้ ซึ่งดินที่นำมาปั้นก็เป็นดินเหนียวจากพื้นที่ของตำบลสวกนี่เอง ดินเหนียวที่นี่จะมีคุณสมบัติพิเศษกว่าที่อื่น ๆ เมื่อนำมาทำเป็นภาชนะต่าง ๆ ก็จะมีความแข็งแรงทนทาน ใช้งานได้นาน
การทำเครื่องปั้นดินเผาไม่ง่ายเลยค่ะ ต้องปั้นแล้วปั้นอีก ต้องเรียนรู้ท่าปั้นต่าง ๆ ต้องรู้น้ำหนักมือ กว่าจะขึ้นรูปได้ก็แทบถอดใจกันเลยล่ะ แต่เมื่อทำได้เราก็จะภูมิใจสุด ๆ เลยค่ะ ^^
ลายดั้งเดิมของบ้านบ่อสวก
ข้อมูลการติดต่อสถานที่ต่าง ๆ ในอำเภอปัว
1. ตูบนาไทลื้อ
โทรศัพท์ : 08 5199 0255
เฟซบุ๊ก : ตูบนาไทลื้อ & ตูบนากาแฟ หน้าวัดภูเก็ต อ.ปัว จ.น่าน
2. บ้านป้าหลอม
โทรศัพท์ : 08 1180 2964
เฟซบุ๊ก : ป้าหลอม ผ้าทอโบราณ
3. ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ
โทรศัพท์ : 0 5479 2252
เฟซบุ๊ก : ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำโฮมสเตย์
4. Cocoa Valley Resort
โทรศัพท์ : 09 7186 6116
เฟซบุ๊ก : Cocoa Valley Resort
5. ดอยซิลเวอร์แฟคตอรี่
โทรศัพท์ : 0 5479 1650, 08 1568 2434, 08 1884 6352
เฟซบุ๊ก : เครื่องเงินน่าน by Doi Silver - ดอยซิลเวอร์
6. เครื่องปั้นดินเผาบ้านบ่อสวก
โทรศัพท์ : 09 0232 9515 (ป้าวิไล), 08 5912 7945 (ป้าบุญทอง), 08 4702 3691 (ป้าพิณ), 08 4524 0339 (ป้าวริตา)
ถ้าใครกำลังวางแผนไปเที่ยวปัว แล้วอยากไปร่วมกิจกรรมสุดสนุกแบบ Creative Tourism แบบนี้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยที่เฟซบุ๊ก Creative District Thailand วันหยุดหน้าเจอกันที่ปัว จังหวัดน่าน นะคะ :)
ขอขอบคุณ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, Creative District Thailand