มีประโยชน์! เปลือกมังคุด อุดมไปด้วยสารแทนนิน มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้
เปลือกมังคุด..ประโยชน์เกินคาด!
“มังคุด” ผลไม้ที่มีความโดเด่นทางด้านรสชาติอันหวานฉ่ำเป็นเอกลักษณ์และรูปทรงที่โดดเด่น มีขั้วผลปกคลุมคล้ายมงกุฏ ทำให้ถูกขนานนามว่าเป็น ราชินีแห่งผลไม้ นอกจากรสชาติแล้วมังคุดถือเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์อย่างมาก สามารถนำมาสกัดเป็นยาได้หลายชนิด แต่ทว่าคุณสมบัตินี้ไม่ได้มีอยู่เฉพาะในส่วนเนื้อที่เรานำมารับประทานเท่านั้น หากแต่ยังอยู่ในส่วนของเปลือกมังคุดอีกด้วย
ส่วนการเพาะปลูกมังคุดก็ไม่ยุ่งยากสามารถปลูกได้ด้วยเมล็ด เมล็ดควรมีขนาดใหญ่สดและใหม่ ไม่ควรแกะเมล็ดจากผลทิ้งไว้เพราะจะทำให้งอกช้าหรือไม่งอกเลย ก่อนเพาะควรล้างเนื้อออกจากเมล็ดเสียก่อนเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา ควรเพาะในที่ร่มและมีความชื้นสูง ให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ เมล็ดจะงอกภายใน 3-4 สัปดาห์ เมื่อมังคุดมีใบ ควรแยกใส่ถุงเพาะชำถุงละ 1 ต้น หลังจากชำไว้ 1 ปีควรเปลี่ยนถุงเพาะชำให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อถึงปีที่ 2 ต้นมังคุดจะแตกกิ่งข้างให้เริ่มนำลงปลูกในแปลงได้ มังคุดเป็นพืชคายน้ำ พื้นที่ที่ปลูกต้องเป็นที่ที่มีความชื้นสูง มีอากาศร้อน มังคุดเป็นพืชที่ต้องการน้ำตลอดปี ยกเว้นช่วงก่อนออกดอกประมาณ 1 เดือนต้องมีหน้าดินลึกและระบายน้ำได้ดี
มังคุดเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำจึงเหมาะที่จะเป็นผลไม้สำหรับผู้ลดน้ำหนัก นอกจากนั้นยังมีกากใยที่ช่วนในเรื่องของการขับถ่ายได้เป็นอย่างดี แถมมีวิตามินและเกลือแร่อีกหลายชนิด เช่น น้ำตาล กรดอินทรีย์ แคลเซียมฟอสฟอรัส และเหล็ก ฯลฯ นอกจากเนื้อที่ใช้รับประทานแล้ว เปลือกมังคุดยังเป็นยาชั้นดี ในสมัยโบราณใช้เปลือกมังคุดเป็นยาแก้ท้องเสีย แก้ท้องร่วงเรื้อรัง และยังใช้เป็นยาสมานแผล รักษาแผลผุพอง แผลเกินหนอง แผลอักเสบ แถมมีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อราอีกด้วย
ในเปลือกมังคุดอุดมไปด้วย “สารแทนนิน” เป็นสารที่ช่วยในการสมานแผล มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย แถมยังช่วยเรื่องท้องเสียได้เป็นอย่างดี และยังมี “สารแซนโทน” เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดชนิดหนึ่งมากกว่าในน้ำผักและผลไม้อื่นถึง 20-30 เท่า เป็นสารที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย มีส่วนช่วยลดอาการช้ำบวม ลดอาการปวดข้อที่พบมากในกลุ่มผู้สูงอายุ สารแซนโทนสามารถยับยั้งการทำงานของ เอนไซม์ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดการอักเสบบวมขึ้นในร่างกาย แซนโทนยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น และลดอาการปวดข้อต่อในร่างกาย และยังช่วยลดอาการภูมิแพ้ได้อีกด้วย
ส่วนเรื่องของความสวยความงาม เปลือกมังคุดยังเป็นตัวเลือกที่ดีอีกอย่างหนึ่ง เพราะพบว่ามีสรรพคุณช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส แข็งแรง มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอวัยและการเกิดริ้วรอย รักษาสิวรักษาฝ้า บรรเทาอาการของโรคผิวหนังปัญหาสภาพผิวเรื้อรังจากสิวและอาการแพ้ ช่วยระงับกลิ่นกาย สมานผิว กระชับรูขุมขน ลดผดผื่นคัน
วันนี้เลยสรรหาสูตรสมุนไพรเพื่อดูแลตัวเองที่ทำได้ง่าย ๆ ด้วยเปลือกมังคุดมาฝากกัน จะเป็นตัวสมุนไพรที่หาได้ตามธรรมชาติ มี 2 สูตร คือ “น้ำเปลือกมังคุดช่วยเรื่องท้องเสีย” กับ “สบู่เปลือกมังคุด” เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้นำไปใช้ เป็นการช่วยให้เปลือกมังคุดที่เหลือทิ้ง สามารถนำกลับมามีมูลค่าและคุณค่าอีกครั้งได้
“น้ำเปลือกมังคุด” หยุดท้องเสียชะงัก ดื่มแก้อาการ ท้องเสีย ท้องบิด มูกเลือด
วิธีการทำ : เพียงนำเปลือกผลมังคุดแห้ง ฝนหรือต้มกับน้ำปูนใส
วิธีการใช้ : เด็กรับประทาน ½ ช้อนชา ทุก 4 ชั่วโมง ส่วนผู้ใหญ่ 4 ช้อนโต๊ะ ทุก 4 ชั่วโมง จนกว่าจะหายเป็นปกติ
“สบู่เปลือกมังคุด”หยุดกลิ่นกาย รักษาสิวหาย ผิวดี ซึ่งสรรพคุณของเปลือกมังคุดช่วยในเรื่องระงับกลิ่นกาย รักษาสิว แก้ผดผื่น กระชับรูขุมขน แถมยังลดหน้ามันได้ดีอีกด้วย
สิ่งที่ต้องเตรียม
การทำสบู่ : หั่นกรีเซอลีน (หัวเชื้อสบู่) ลงในหม้อจนละลายเป็นของเหลว นำน้ำมังคุดที่คั้นไว้ใส่ลงไปในหม้อ ในปริมาณที่ไม่มากเกินไปเพราะสบู่จะเหลวเป็นน้ำ ไม่แข็ง คนจนละลายเข้ากันดีปิดไฟ ใช้ผ้าขาวบางกรอง เทลงพิมพ์ รอ 24 ชั่วโมง นำมาหั่นเป็นก้อนนำไปใช้ได้เลย
สูตรที่ให้ไปเป็นสูตรที่ทำได้ง่าย ๆ อุปกรณ์ในการทำก็ไม่ยาก ในปัจจุบันนี้สูตรการทำสบู่เปลือกมังคุด ก็มีให้เลือกซื้อในท้องตลาดอย่างหลากหลาย เป็นสารสกัดที่ได้มาจากธรรมชาตินำมาทำใหม่เพิ่มมูลค่า แถมยังสร้างรายได้ให้เกษตรกรไทยได้อีกทางหนึ่ง หวังเหลือเกินว่าข้อมูลดี ๆ ที่นำมาฝากในวันนี้จะเป็นประโยชน์แก่เกษตรกรไม่มากก็น้อย
ขอขอบคุณเนื้อหาจาก : เกษตรกรก้าวหน้า
เปลือกมังคุด..ประโยชน์เกินคาด!
“มังคุด” ผลไม้ที่มีความโดเด่นทางด้านรสชาติอันหวานฉ่ำเป็นเอกลักษณ์และรูปทรงที่โดดเด่น มีขั้วผลปกคลุมคล้ายมงกุฏ ทำให้ถูกขนานนามว่าเป็น ราชินีแห่งผลไม้ นอกจากรสชาติแล้วมังคุดถือเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์อย่างมาก สามารถนำมาสกัดเป็นยาได้หลายชนิด แต่ทว่าคุณสมบัตินี้ไม่ได้มีอยู่เฉพาะในส่วนเนื้อที่เรานำมารับประทานเท่านั้น หากแต่ยังอยู่ในส่วนของเปลือกมังคุดอีกด้วย
ส่วนการเพาะปลูกมังคุดก็ไม่ยุ่งยากสามารถปลูกได้ด้วยเมล็ด เมล็ดควรมีขนาดใหญ่สดและใหม่ ไม่ควรแกะเมล็ดจากผลทิ้งไว้เพราะจะทำให้งอกช้าหรือไม่งอกเลย ก่อนเพาะควรล้างเนื้อออกจากเมล็ดเสียก่อนเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา ควรเพาะในที่ร่มและมีความชื้นสูง ให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ เมล็ดจะงอกภายใน 3-4 สัปดาห์ เมื่อมังคุดมีใบ ควรแยกใส่ถุงเพาะชำถุงละ 1 ต้น หลังจากชำไว้ 1 ปีควรเปลี่ยนถุงเพาะชำให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อถึงปีที่ 2 ต้นมังคุดจะแตกกิ่งข้างให้เริ่มนำลงปลูกในแปลงได้ มังคุดเป็นพืชคายน้ำ พื้นที่ที่ปลูกต้องเป็นที่ที่มีความชื้นสูง มีอากาศร้อน มังคุดเป็นพืชที่ต้องการน้ำตลอดปี ยกเว้นช่วงก่อนออกดอกประมาณ 1 เดือนต้องมีหน้าดินลึกและระบายน้ำได้ดี
มังคุดเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำจึงเหมาะที่จะเป็นผลไม้สำหรับผู้ลดน้ำหนัก นอกจากนั้นยังมีกากใยที่ช่วนในเรื่องของการขับถ่ายได้เป็นอย่างดี แถมมีวิตามินและเกลือแร่อีกหลายชนิด เช่น น้ำตาล กรดอินทรีย์ แคลเซียมฟอสฟอรัส และเหล็ก ฯลฯ นอกจากเนื้อที่ใช้รับประทานแล้ว เปลือกมังคุดยังเป็นยาชั้นดี ในสมัยโบราณใช้เปลือกมังคุดเป็นยาแก้ท้องเสีย แก้ท้องร่วงเรื้อรัง และยังใช้เป็นยาสมานแผล รักษาแผลผุพอง แผลเกินหนอง แผลอักเสบ แถมมีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อราอีกด้วย
ในเปลือกมังคุดอุดมไปด้วย “สารแทนนิน” เป็นสารที่ช่วยในการสมานแผล มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย แถมยังช่วยเรื่องท้องเสียได้เป็นอย่างดี และยังมี “สารแซนโทน” เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดชนิดหนึ่งมากกว่าในน้ำผักและผลไม้อื่นถึง 20-30 เท่า เป็นสารที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย มีส่วนช่วยลดอาการช้ำบวม ลดอาการปวดข้อที่พบมากในกลุ่มผู้สูงอายุ สารแซนโทนสามารถยับยั้งการทำงานของ เอนไซม์ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดการอักเสบบวมขึ้นในร่างกาย แซนโทนยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น และลดอาการปวดข้อต่อในร่างกาย และยังช่วยลดอาการภูมิแพ้ได้อีกด้วย
ส่วนเรื่องของความสวยความงาม เปลือกมังคุดยังเป็นตัวเลือกที่ดีอีกอย่างหนึ่ง เพราะพบว่ามีสรรพคุณช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส แข็งแรง มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอวัยและการเกิดริ้วรอย รักษาสิวรักษาฝ้า บรรเทาอาการของโรคผิวหนังปัญหาสภาพผิวเรื้อรังจากสิวและอาการแพ้ ช่วยระงับกลิ่นกาย สมานผิว กระชับรูขุมขน ลดผดผื่นคัน
วันนี้เลยสรรหาสูตรสมุนไพรเพื่อดูแลตัวเองที่ทำได้ง่าย ๆ ด้วยเปลือกมังคุดมาฝากกัน จะเป็นตัวสมุนไพรที่หาได้ตามธรรมชาติ มี 2 สูตร คือ “น้ำเปลือกมังคุดช่วยเรื่องท้องเสีย” กับ “สบู่เปลือกมังคุด” เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้นำไปใช้ เป็นการช่วยให้เปลือกมังคุดที่เหลือทิ้ง สามารถนำกลับมามีมูลค่าและคุณค่าอีกครั้งได้
“น้ำเปลือกมังคุด” หยุดท้องเสียชะงัก ดื่มแก้อาการ ท้องเสีย ท้องบิด มูกเลือด
วิธีการทำ : เพียงนำเปลือกผลมังคุดแห้ง ฝนหรือต้มกับน้ำปูนใส
วิธีการใช้ : เด็กรับประทาน ½ ช้อนชา ทุก 4 ชั่วโมง ส่วนผู้ใหญ่ 4 ช้อนโต๊ะ ทุก 4 ชั่วโมง จนกว่าจะหายเป็นปกติ
“สบู่เปลือกมังคุด”หยุดกลิ่นกาย รักษาสิวหาย ผิวดี ซึ่งสรรพคุณของเปลือกมังคุดช่วยในเรื่องระงับกลิ่นกาย รักษาสิว แก้ผดผื่น กระชับรูขุมขน แถมยังลดหน้ามันได้ดีอีกด้วย
สิ่งที่ต้องเตรียม
การทำสบู่ : หั่นกรีเซอลีน (หัวเชื้อสบู่) ลงในหม้อจนละลายเป็นของเหลว นำน้ำมังคุดที่คั้นไว้ใส่ลงไปในหม้อ ในปริมาณที่ไม่มากเกินไปเพราะสบู่จะเหลวเป็นน้ำ ไม่แข็ง คนจนละลายเข้ากันดีปิดไฟ ใช้ผ้าขาวบางกรอง เทลงพิมพ์ รอ 24 ชั่วโมง นำมาหั่นเป็นก้อนนำไปใช้ได้เลย
สูตรที่ให้ไปเป็นสูตรที่ทำได้ง่าย ๆ อุปกรณ์ในการทำก็ไม่ยาก ในปัจจุบันนี้สูตรการทำสบู่เปลือกมังคุด ก็มีให้เลือกซื้อในท้องตลาดอย่างหลากหลาย เป็นสารสกัดที่ได้มาจากธรรมชาตินำมาทำใหม่เพิ่มมูลค่า แถมยังสร้างรายได้ให้เกษตรกรไทยได้อีกทางหนึ่ง หวังเหลือเกินว่าข้อมูลดี ๆ ที่นำมาฝากในวันนี้จะเป็นประโยชน์แก่เกษตรกรไม่มากก็น้อย
ขอขอบคุณเนื้อหาจาก : เกษตรกรก้าวหน้า