สิ่งที่ควรรู้ก่อนไตวาย 10 อาการฟ้องว่า ไต ของคุณไม่ไหวแล้ว รีบไปพบแพทย์ ก่อนจะรักษายาก เกินเยียวยา!
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกาะไต้หวันถือได้ว่าเป็น “เมืองแห่งการล้างไต” และยังเป็นประเทศที่มีความหนาแน่นในการล้างไตสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 ของโลก ในเมืองนี้ผู้สูงอายุที่มีอายุเกินกว่า 60 ปี มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคไต,โรคความดันโลหิตสูง,โรคเบาหวานมาก แต่คนหนุ่มสาวก็ชะล่าใจไป แม้ว่าจะมีการตรวจสุขภาพเพื่อตรวจสอบว่ามีโรคไตหรือไม่
แต่ยังมีสัญญาณหลายอย่างที่สามารถย้อนกลับมาเกิดขึ้นอีกได้!! วันนี้ไลค์เกอร์ขอนำเสนอ 10 วิธีสังเกตเกี่ยวกับ “โรคไต”
1.ปัญหาเรื่องการนอน
หากไตไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ โดยการขับสารพิษต่างๆ ออกทางปัสสาวะ แต่ยังคั้งค้างอยู่ตามเส้นเลือดในร่างกาย เมื่อสารพิษมีมากขึ้น จะทำให้คุณนอนหลับยาก นี้จึงเป็นสาเหตุที่ทำไตทำงานได้น้อยลง เมื่อคุณนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังอาจมีอาการหยุดหายใจขณะนอนหลับ การหยุดพักหายใจอย่างน้อยหนึ่งครั้งและจะหยุดต่อไปสักครู่เป็นเวลา 1 นาทีหลังจากหยุดพักแต่ละครั้งจะทำให้เกิดอาการกรน ดังนั้นหากคุณมักมี อาการอย่างนี้ ทางที่ดีควรรีบไปพบแพทย์ด่วน!
2.ปวดหัวบ่อยๆ เหนื่อยง่าย ร่างกายไม่มีเรี่ยวแรง
ไตที่แข็งแรงจะเปลี่ยนวิตามินดีให้เป็นกระดูกที่แข็งแรงและผลิตฮอร์โมน Erythroprietin (EPO) ช่วยในการการสร้างเม็ดเลือดแดง เมื่อไตไม่ทำงานอย่างถูกต้อง การหลั่ง EPO ก็จะลดลง เซลล์เม็ดเลือดแดงที่รับผิดชอบในการพกพาออกซิเจนก็จะลดลงด้วย ทำให้เกิดความเมื่อยล้ากล้ามเนื้อและสมองอย่างรวดเร็ว
ภาวะโลหิตจางเป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังและอาจเกิดภาวะโลหิตจาง การทำงานของไตก็จะเหลือเพียง 20% หรือ 50% เท่านั้น แต่ถ้าหากคุณนอนหลับอย่างเพียงพอ แต่ยังคงรู้สึกอ่อนเพลียอ่อนแอคุณควรพบแพทย์ทันที!
3.ผิวหนังมีอาการคันแห้ง
ไตที่แข็งแรง จะช่วยขจัดของเสียและของเหลวส่วนเกินออกจากกระแสเลือด และช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงและรักษาสมดุลของแร่ธาตุในร่างกาย ถ้าผิวของคุณมักจะแห้งคันอาจเป็นเพราะไตไม่สามารถรักษาความสมดุลของแร่ธาตุได้ อาจส่งผลร้ายแรงนำไปสู่โรคกระดูกและโรคไตได้
ถ้าผิวของคุณแห้งและคันทันทีให้ลองดื่มน้ำให้มากๆ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
4.มีกลิ่นปากหรือปากที่มีรสโลหะ
เมื่อของเสียเข้าไปอุดตันในเลือด ส่งผลให้สามารถเปลี่ยนรสชาติของอาหาร และทำให้ปากมีรสโลหะได้ หากมีสารพิษหรือของเสียที่มากเกินไปในเลือด ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักรู้สึกเบื่ออาหารและทำให้น้ำหนักลดลง
แต่ถ้าคุณได้รับการรักษาแล้ว ยังมีรสชาติโลหะในปากอยู่อีก แนะนำให้ไปหาหมอเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป!
5. หายใจถี่
เมื่อระบบการทำงานของไตผิดปกติ น้ำส่วนเกินในร่างกายก็จะเข้าสู่ปอด ในขณะเดียวกันโรคโลหิตจางก็จะใช้ออกซิเจนในร่างกายไปหมด ทำให้หายใจลำบากได้ อย่างไรก็ตามความล้มเหลวของไตวาย,โรคมะเร็งปอดหรือหัวใจล้มเหลวอาจทำให้หายใจถี่ได้ หากคุณมักจะหายใจไม่ออกคุณควรไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด!
6. มือและเท้าข้อเท้าบวม
ผู้ป่วยที่เป็นโรคไตไม่สามารถถ่ายเทของเหลวส่วนเกินในร่างกายได้ ทำให้โซเดียมยังคงตกค้างอยู่ในร่างกาย ทำให้เกิดอาการบวมที่มือและเท้าและข้อเท้า อาการบวมที่ส่วนล่างของร่างกายอาจเกิดจากโรคหัวใจ, ตับ หรือเส้นเลือดขอดได้ บางครั้งยาสามารถลดระดับเกลือและล้างของเหลวส่วนเกินในร่างกายได้ หากไม่เกิดประโยชน์ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาด้วยวิธีอื่นต่อไป!
7. ปวดหลัง
ความล้มเหลวของไตอาจทำให้เกิดอาการปวดที่บริเวณขาหนีบหรือบริเวณที่มีสะโพก อาการปวดหลังและอาการปวดขาอาจเกิดจากซีสต์ในไต ซีสต์ไตส่วนใหญ่เกิดจากบนผิวของไตมีตุ่มน้ำเกิดขึ้น ข้างในมีของเหลว เพราะฉะนั้นหากคุณมีอาการปวดหลังที่เกิดจากความผิดปกติของไต จะมาพร้อมกับอาการคลื่นไส้,อาเจียน,อุณภูมิร่างกายสูง และอาการปัสสาวะบ่อยๆ ถ้าคุณปวดหลัง เมื่อรับประทานยาแก้ปวดก็ไม่ได้ผล ให้รีบไปที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจเช็คร่างกายอย่างละเอียด!!
8. ตาบวม
หากการทำงานของไตได้รับผลกระทบ จะทำให้เกิดภาวะโปรตีนในปัสสาวะ มีผลข้างเคียงคือมีอาการบวมน้ำรอบดวงตา,อาการบวมน้ำในดวงตา แสดงถึงความสามารถของไตที่ไม่สามารถเก็บและกระจายโปรตีนภายในร่างกาย ทำให้โปรตีนไหลเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะ
หากคุณมีการพักผ่อนอย่างเพียงพอ และยังมีการเสริมโปรตีน แต่ยังมีปัญหาเรื่องเปลือกตาบวม คุณควรขอความช่วยเหลือจากแพทย์ทันที!!
9. ความดันโลหิตสูง
ระบบไหลเวียนโลหิตของมนุษย์และไตมีการเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด แยกจากกันไม่ได้ ไตมีความสามารถในการกรองของเสียและของเหลวส่วนเกินจากเลือดได้ หากหลอดเลือดเสียหาย ไตก็จะไม่สามารถรับสารอาหารและออกซิเจนที่เพียงพอได้ ซึ่งนี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้มีความดันโลหิตสูง ก่อให้เกิดภาวะไตวาย
ขอแนะนำให้กินอาหารที่อุดมไปด้วยกรดโฟลิกเพื่อช่วยในการก่อตัวของเม็ดเลือดแดง ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคโลหิตจางและความดันโลหิตสูงได้
10.การเปลี่ยนแปลงของปัสสาวะ
ไตมีหน้าที่ในการผลิตปัสสาวะและกำจัดของเสีย ดังนั้นควรสังเกตกลิ่น สีและลักษณะของปัสสาวะรวมทั้งความถี่ในการถ่ายปัสสาวะ ถ้าคุณปัสสาวะถี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืน ให้ระวังมากขึ้น!
และถ้าคุณพบเลือดในปัสสาวะคุณควรไปพบแพทย์ทันที เนื่องจากไตที่มีสุขภาพดีจะกรองของเสียของเลือดและผลิตปัสสาวะหากไตชำรุดเซลล์เม็ดเลือดแดงจะเข้าสู่ปัสสาวะ
สุดท้าย โปรตีนในปัสสาวะเป็นสัญญาณความผิดปกติของไต ถ้าหากต้องกดชักโครกหลายครั้งถึงจะชะล้างฟองปัสสาวะให้หายไป นั้นแสดงว่ามีโปรตีนที่ไม่พึงประสงค์มากเกินไปในร่างกาย
10 สัญญาณเหล่านี้ ง่ายต่อการสังเกต อ่านเสร็จแล้ว อย่าลืมที่จะแบ่งปันให้เพื่อนและครอบครัวเพื่อหลีกเลี่ยงการเสี่ยงเป็นโรตไต!
ที่มา :siamnews.com
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกาะไต้หวันถือได้ว่าเป็น “เมืองแห่งการล้างไต” และยังเป็นประเทศที่มีความหนาแน่นในการล้างไตสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 ของโลก ในเมืองนี้ผู้สูงอายุที่มีอายุเกินกว่า 60 ปี มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคไต,โรคความดันโลหิตสูง,โรคเบาหวานมาก แต่คนหนุ่มสาวก็ชะล่าใจไป แม้ว่าจะมีการตรวจสุขภาพเพื่อตรวจสอบว่ามีโรคไตหรือไม่
แต่ยังมีสัญญาณหลายอย่างที่สามารถย้อนกลับมาเกิดขึ้นอีกได้!! วันนี้ไลค์เกอร์ขอนำเสนอ 10 วิธีสังเกตเกี่ยวกับ “โรคไต”
1.ปัญหาเรื่องการนอน
หากไตไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ โดยการขับสารพิษต่างๆ ออกทางปัสสาวะ แต่ยังคั้งค้างอยู่ตามเส้นเลือดในร่างกาย เมื่อสารพิษมีมากขึ้น จะทำให้คุณนอนหลับยาก นี้จึงเป็นสาเหตุที่ทำไตทำงานได้น้อยลง เมื่อคุณนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังอาจมีอาการหยุดหายใจขณะนอนหลับ การหยุดพักหายใจอย่างน้อยหนึ่งครั้งและจะหยุดต่อไปสักครู่เป็นเวลา 1 นาทีหลังจากหยุดพักแต่ละครั้งจะทำให้เกิดอาการกรน ดังนั้นหากคุณมักมี อาการอย่างนี้ ทางที่ดีควรรีบไปพบแพทย์ด่วน!
2.ปวดหัวบ่อยๆ เหนื่อยง่าย ร่างกายไม่มีเรี่ยวแรง
ไตที่แข็งแรงจะเปลี่ยนวิตามินดีให้เป็นกระดูกที่แข็งแรงและผลิตฮอร์โมน Erythroprietin (EPO) ช่วยในการการสร้างเม็ดเลือดแดง เมื่อไตไม่ทำงานอย่างถูกต้อง การหลั่ง EPO ก็จะลดลง เซลล์เม็ดเลือดแดงที่รับผิดชอบในการพกพาออกซิเจนก็จะลดลงด้วย ทำให้เกิดความเมื่อยล้ากล้ามเนื้อและสมองอย่างรวดเร็ว
ภาวะโลหิตจางเป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังและอาจเกิดภาวะโลหิตจาง การทำงานของไตก็จะเหลือเพียง 20% หรือ 50% เท่านั้น แต่ถ้าหากคุณนอนหลับอย่างเพียงพอ แต่ยังคงรู้สึกอ่อนเพลียอ่อนแอคุณควรพบแพทย์ทันที!
3.ผิวหนังมีอาการคันแห้ง
ไตที่แข็งแรง จะช่วยขจัดของเสียและของเหลวส่วนเกินออกจากกระแสเลือด และช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงและรักษาสมดุลของแร่ธาตุในร่างกาย ถ้าผิวของคุณมักจะแห้งคันอาจเป็นเพราะไตไม่สามารถรักษาความสมดุลของแร่ธาตุได้ อาจส่งผลร้ายแรงนำไปสู่โรคกระดูกและโรคไตได้
ถ้าผิวของคุณแห้งและคันทันทีให้ลองดื่มน้ำให้มากๆ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
4.มีกลิ่นปากหรือปากที่มีรสโลหะ
เมื่อของเสียเข้าไปอุดตันในเลือด ส่งผลให้สามารถเปลี่ยนรสชาติของอาหาร และทำให้ปากมีรสโลหะได้ หากมีสารพิษหรือของเสียที่มากเกินไปในเลือด ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักรู้สึกเบื่ออาหารและทำให้น้ำหนักลดลง
แต่ถ้าคุณได้รับการรักษาแล้ว ยังมีรสชาติโลหะในปากอยู่อีก แนะนำให้ไปหาหมอเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป!
5. หายใจถี่
เมื่อระบบการทำงานของไตผิดปกติ น้ำส่วนเกินในร่างกายก็จะเข้าสู่ปอด ในขณะเดียวกันโรคโลหิตจางก็จะใช้ออกซิเจนในร่างกายไปหมด ทำให้หายใจลำบากได้ อย่างไรก็ตามความล้มเหลวของไตวาย,โรคมะเร็งปอดหรือหัวใจล้มเหลวอาจทำให้หายใจถี่ได้ หากคุณมักจะหายใจไม่ออกคุณควรไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด!
6. มือและเท้าข้อเท้าบวม
ผู้ป่วยที่เป็นโรคไตไม่สามารถถ่ายเทของเหลวส่วนเกินในร่างกายได้ ทำให้โซเดียมยังคงตกค้างอยู่ในร่างกาย ทำให้เกิดอาการบวมที่มือและเท้าและข้อเท้า อาการบวมที่ส่วนล่างของร่างกายอาจเกิดจากโรคหัวใจ, ตับ หรือเส้นเลือดขอดได้ บางครั้งยาสามารถลดระดับเกลือและล้างของเหลวส่วนเกินในร่างกายได้ หากไม่เกิดประโยชน์ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาด้วยวิธีอื่นต่อไป!
7. ปวดหลัง
ความล้มเหลวของไตอาจทำให้เกิดอาการปวดที่บริเวณขาหนีบหรือบริเวณที่มีสะโพก อาการปวดหลังและอาการปวดขาอาจเกิดจากซีสต์ในไต ซีสต์ไตส่วนใหญ่เกิดจากบนผิวของไตมีตุ่มน้ำเกิดขึ้น ข้างในมีของเหลว เพราะฉะนั้นหากคุณมีอาการปวดหลังที่เกิดจากความผิดปกติของไต จะมาพร้อมกับอาการคลื่นไส้,อาเจียน,อุณภูมิร่างกายสูง และอาการปัสสาวะบ่อยๆ ถ้าคุณปวดหลัง เมื่อรับประทานยาแก้ปวดก็ไม่ได้ผล ให้รีบไปที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจเช็คร่างกายอย่างละเอียด!!
8. ตาบวม
หากการทำงานของไตได้รับผลกระทบ จะทำให้เกิดภาวะโปรตีนในปัสสาวะ มีผลข้างเคียงคือมีอาการบวมน้ำรอบดวงตา,อาการบวมน้ำในดวงตา แสดงถึงความสามารถของไตที่ไม่สามารถเก็บและกระจายโปรตีนภายในร่างกาย ทำให้โปรตีนไหลเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะ
หากคุณมีการพักผ่อนอย่างเพียงพอ และยังมีการเสริมโปรตีน แต่ยังมีปัญหาเรื่องเปลือกตาบวม คุณควรขอความช่วยเหลือจากแพทย์ทันที!!
9. ความดันโลหิตสูง
ระบบไหลเวียนโลหิตของมนุษย์และไตมีการเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด แยกจากกันไม่ได้ ไตมีความสามารถในการกรองของเสียและของเหลวส่วนเกินจากเลือดได้ หากหลอดเลือดเสียหาย ไตก็จะไม่สามารถรับสารอาหารและออกซิเจนที่เพียงพอได้ ซึ่งนี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้มีความดันโลหิตสูง ก่อให้เกิดภาวะไตวาย
ขอแนะนำให้กินอาหารที่อุดมไปด้วยกรดโฟลิกเพื่อช่วยในการก่อตัวของเม็ดเลือดแดง ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคโลหิตจางและความดันโลหิตสูงได้
10.การเปลี่ยนแปลงของปัสสาวะ
ไตมีหน้าที่ในการผลิตปัสสาวะและกำจัดของเสีย ดังนั้นควรสังเกตกลิ่น สีและลักษณะของปัสสาวะรวมทั้งความถี่ในการถ่ายปัสสาวะ ถ้าคุณปัสสาวะถี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืน ให้ระวังมากขึ้น!
และถ้าคุณพบเลือดในปัสสาวะคุณควรไปพบแพทย์ทันที เนื่องจากไตที่มีสุขภาพดีจะกรองของเสียของเลือดและผลิตปัสสาวะหากไตชำรุดเซลล์เม็ดเลือดแดงจะเข้าสู่ปัสสาวะ
สุดท้าย โปรตีนในปัสสาวะเป็นสัญญาณความผิดปกติของไต ถ้าหากต้องกดชักโครกหลายครั้งถึงจะชะล้างฟองปัสสาวะให้หายไป นั้นแสดงว่ามีโปรตีนที่ไม่พึงประสงค์มากเกินไปในร่างกาย
10 สัญญาณเหล่านี้ ง่ายต่อการสังเกต อ่านเสร็จแล้ว อย่าลืมที่จะแบ่งปันให้เพื่อนและครอบครัวเพื่อหลีกเลี่ยงการเสี่ยงเป็นโรตไต!
ที่มา :siamnews.com