เลี่ยงได้ควรเลี่ยง 4วิธีผัดผักที่อาจจะทำให้คุณเป็นมะเร็งได้

หลายคนอาจจะคิดว่า “การกินผัก กินอย่างไรก็มีประโยชน์” ข้อเท็จจริงนี้อาจไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเสมอไป หากว่าการเราประทานผักของคุณนั้นผ่านกระบวนการปรุงด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะเมนูผัดผักที่หาทานได้ง่ายๆ เด็กทานได้ ผู้ใหญ่ทานดี ที่กลายเป็นเมนูก่อมะเร็งโดยที่คุณไม่รู้ตัว จะต้องหลีกเลี่ยงการผัดแบบไหน ร่างกายของเราจึงจะปลอดภัยมากที่สุด ตามมาหาคำตอบกันได้เลย

1 ล้างผักหลังจากหั่นเสร็จแล้ว

ผักที่หั่นแล้วเวลานำไปล้างพื้นผิวที่สัมผัสกับน้ำจะมากกว่าตอนที่ยังไม่ได้หั่นทำให้แร่ธาตุบางชนิด วิตามินบีและซีบางส่วนละลายไปกับน้ำ วิธีการที่ถูกต้องคือควรจะค่อยๆล้างผักให้สะอาดและสะเด็ดน้ำให้แห้งก่อนจึงนำไปหั่น และที่สำคัญก็คือผักที่หั่นเสร็จแล้วควรจะนำไปประกอบอาหารทันทีหรือไม่ควรทิ้งไว้นานกว่า 2 ชม. ไม่อย่างนั้นจะทำให้สารอาหารในผักสูญเสียไปเพราะออกซิเดชันกับอากาศ

2 รอมีควันขึ้นค่อยใส่ผัก

การรอให้น้ำมันร้อนจนควันขึ้นแล้วค่อยใส่ผักลงไปผัดนั้น หมายถึงการนำผักลงไปผัดในอุณภูมิน้ำมันที่สูงกว่า 200 องศาเซลเซียส ซึ่งจะทำให้สูญเสียสารอาหารและแร่ธาตุในผักแถมยังทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง วิธีการที่ถูกต้องนั้นควรจะใส่วัตถุดิบทุกอย่างลงไปก่อนที่น้ำมันจะมีควันขึ้นมา



3 ใส่น้ำมันเยอะๆ

ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันประเภทไหนก็มีปริมาณไขมันมากกว่า 98% ความสามารถในการดูดซับน้ำมันของผักนั้นสูงกว่าเนื้อสัตว์มาก ถ้าหากเราใส่น้ำมันมากไปเวลาผัดผักก็จะทำให้พื้นผิวของผักนั้นเคลือบเต็มไปด้วยน้ำมัน รสชาติของเครื่องปรุงที่ใส่ลงไปจะไม่เข้าไปในผักแถมยังทำให้ร่างกายของเราให้ดูดซึมแร่ธาตุและสารอาหารจากผักได้น้อยลงมาก วิธีที่เหมาะสมก็คือเวลาผัดผักไม่ควรใส่น้ำมันเกินกว่า 1 ช้อนโต๊ะ

4 ใส่เครื่องปรุงที่มีส่วนประกอบของเกลือเยอะเกินไป

ในซีอิ๊วมีส่วนประกอบของเกลือ 15-20% ในผงปรุงรสมีส่วนประกอบของเกลือ 10% ถ้าหากใส่เครื่องปรุงเหล่านี้แล้วก็ไม่ควรใส่เกลือหรือน้ำปลามากเกินไปเพราะจะทำให้ปริมาณโซเดียมในอาหารสูงมากเกินไป

4วิธีผัดผักนี้ทำให้สารอาหารในผักสูญเสียไปและหากทำเป็นประจำอาจจะทำให้มีผลเสียต่อสุขภาพของคุณอีกด้วย อย่าลืมส่งให้คนที่บ้านอ่านด้วยนะจ๊ะ

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก liekr