หลายคนอาจเคยใช้บริการโอนเงินทั้งผ่านตู้เอทีเอ็ม Internet Banking
หรือจะผ่านทาง Mobile Banking เเล้วมักมีข้อผิดพลาดโอนเงินกันไปผิดบัญชี
ไม่ว่าจะเป็นเราที่ทำรายการผิดไปให้คนอื่น
หรือจะเป็นคนอื่นที่โอนเงินมาให้เราแต่ผิดบัญชี แล้วแบบนี้จะทำยังไงกันดี
เรามาดูกัน….
ถ้าเราโอนเงินผิดไปให้คนอื่น
เป็นความผิดที่เกิดจากตัวเราเองนั่นก็คือ เราได้ทำการโอนเงินไปให้คนอื่น ที่ไม่ใช่บัญชีของคนที่จะรับเงินจากเราจริงๆ ซึ่งเกิดจากการคีย์ตัวเลขบัญชีสลับกันบ้าง กดผิดบ้าง ถ้าเป็นแบบนี้ไม่ต้องตกใจ สิ่งที่ต้องทำ คือ
เก็บหลักฐานการโอนเงินต่างๆ ไว้ให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นสลิปการโอนเงินที่ออกมาจากตู้เอทีเอ็ม หรือจะเป็นหน้าจอการโอนเงินทาง Internet Banking และ Mobile Banking ต่อจากนั้นก็ต้องติดต่อไปที่ธนาคารของเราที่โอนเงินไปผิด เพื่อแจ้งปัญหาและสอบถามวิธีการขอคืนเงิน ซึ่งธนาคารแต่ละแห่งก็จะมีวิธีการปฏิบัติที่แตกต่างกันออกไป แต่ส่วนมากที่จะแนะนำก็คือ ให้เรานำเอกสารการโอนเงินรายการที่ผิดบัญชีและสำเนาบัตรประชาชนไปแจ้งความที่สถานีตำรวจไว้ก่อน ต่อจากนั้นก็ให้นำหลักฐานการแจ้งความทั้งหมดไปติดต่อกับธนาคารอีกครั้ง
แต่สิ่งที่ธนาคารต่างๆ จะช่วยเราได้ก็คือ จะช่วยประสานงานไปยังเจ้าของบัญชีอีกฝั่งหนึ่งที่เราโอนเงินของเราไปให้แต่ผิดบัญชีเพื่อติดต่อขอเงินคืนให้ แต่เราต้องเข้าใจธนาคารอย่างหนึ่งว่า ธนาคารไม่มีสิทธิที่จะไปตัดเงินจากบัญชีของลูกค้าโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นเมื่อธนาคารช่วยติดต่อประสานงานให้กับเราไปยังเจ้าของบัญชีอีกฝั่งหนึ่งแล้ว แต่ถ้าเจ้าของบัญชีรายนั้นไม่ยินยอมที่จะโอนเงินคืนกลับให้เรา ก็ถือได้ว่าหมดขอบเขตหน้าที่ของธนาคารแล้ว
สิ่งที่เราต้องทำต่อไป คือ เราจะต้องไปฟ้องร้องเพื่อขอเงินคืนด้วยตัวเองจากเจ้าของบัญชีอีกฝั่งหนึ่งเอง เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะกดโอนเงินไปให้ใครเราจะต้องตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนกดทำรายการ เพราะธนาคารจะถือว่ารายการโอนเงินที่เกิดขึ้นนั้นเราเป็นคนทำรายการด้วยตัวเอง ธนาคารก็เลยไม่มีหน้าที่ที่จะต้องมาจ่ายชดเชยเงินคืนให้เราแต่อย่างใด
ถ้าคนอื่นโอนเงินผิดมาให้เรา
ถ้าเป็นกรณีแบบนี้ก็ไม่ต้องรีบร้อนเป็นคนดีโอนเงินคืนให้เขาทันที อย่างน้อยเราต้องสอบถามคนที่โทรมาก่อนว่า โทรมาจากธนาคารอะไร มีรายการผิดปกติอะไรเกิดขึ้น แล้วก็บอกปลายสายไปว่าขอตรวจสอบรายการกับธนาคารก่อนที่จะทำการโอนเงินกลับไปให้คนที่โทรมาหา และที่สำคัญที่เราจะต้องสังเกตอีกอย่างหนึ่ง คือ คนที่โทรมาจะต้องแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นจากการโอนเงิน มากกว่าการสอบถามข้อมูลส่วนตัวของเรา และแจ้งให้เราตรวจสอบรายการบัญชีของตัวเราก่อน ไม่ใช่มาบอกให้เราทำรายการโอนเงินคืนให้เพียงอย่างเดียว แล้วอย่าลืมถามชื่อและเบอร์โทรติดต่อกลับ ที่จะต้องเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารเท่านั้น
หลังจากที่เราได้รับโทรศัพท์มาแจ้งว่ามีคนโอนเงินมาให้เราผิดบัญชีไปแล้วนั้น เราก็ต้องตรวจสอบบัญชีของเราก่อนว่ามีเงินโอนเข้ามาตามที่มีคนโทรมาแจ้งหรือเปล่า ซึ่งถ้าเรามี Internet Banking หรือ Mobile Banking เราก็สามารถเข้าไปตรวจสอบรายการได้เลยทันที แต่ถ้าบัญชีของเราไม่มี Internet Banking หรือ Mobile Banking เราก็สามารถตรวจสอบการโอนเงินเข้ามาได้โดยโทรกลับไปที่ Call Center หรือจะไปติดต่อที่สาขาของธนาคาร เพื่อดูรายการโอนเงินที่เข้ามาได้ ซึ่งถ้าหากเราตรวจสอบแล้วเป็นการโอนเงินผิดบัญชีจริงๆ และไม่ใช่เงินของเราจริงๆ เราก็ค่อยโอนเงินกลับไปให้เจ้าของบัญชี
ดังนั้นก่อนทำรายการโอนเงินต่างๆ จะต้องตรวจสอบความถูกต้องทั้งเลขที่บัญชี ชื่อบัญชี และจำนวนเงินให้ดีก่อนกดทำรายการ และถ้าหากมีการโอนเงินมาให้เราผิดก็ต้องกลับไปตรวจสอบก่อนว่ามีการโอนเงินมาผิดจริงๆ แล้วค่อยโอนเงินกลับคืนให้เจ้าของ
ที่มา thaijobsgov.com
ถ้าเราโอนเงินผิดไปให้คนอื่น
เป็นความผิดที่เกิดจากตัวเราเองนั่นก็คือ เราได้ทำการโอนเงินไปให้คนอื่น ที่ไม่ใช่บัญชีของคนที่จะรับเงินจากเราจริงๆ ซึ่งเกิดจากการคีย์ตัวเลขบัญชีสลับกันบ้าง กดผิดบ้าง ถ้าเป็นแบบนี้ไม่ต้องตกใจ สิ่งที่ต้องทำ คือ
เก็บหลักฐานการโอนเงินต่างๆ ไว้ให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นสลิปการโอนเงินที่ออกมาจากตู้เอทีเอ็ม หรือจะเป็นหน้าจอการโอนเงินทาง Internet Banking และ Mobile Banking ต่อจากนั้นก็ต้องติดต่อไปที่ธนาคารของเราที่โอนเงินไปผิด เพื่อแจ้งปัญหาและสอบถามวิธีการขอคืนเงิน ซึ่งธนาคารแต่ละแห่งก็จะมีวิธีการปฏิบัติที่แตกต่างกันออกไป แต่ส่วนมากที่จะแนะนำก็คือ ให้เรานำเอกสารการโอนเงินรายการที่ผิดบัญชีและสำเนาบัตรประชาชนไปแจ้งความที่สถานีตำรวจไว้ก่อน ต่อจากนั้นก็ให้นำหลักฐานการแจ้งความทั้งหมดไปติดต่อกับธนาคารอีกครั้ง
แต่สิ่งที่ธนาคารต่างๆ จะช่วยเราได้ก็คือ จะช่วยประสานงานไปยังเจ้าของบัญชีอีกฝั่งหนึ่งที่เราโอนเงินของเราไปให้แต่ผิดบัญชีเพื่อติดต่อขอเงินคืนให้ แต่เราต้องเข้าใจธนาคารอย่างหนึ่งว่า ธนาคารไม่มีสิทธิที่จะไปตัดเงินจากบัญชีของลูกค้าโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นเมื่อธนาคารช่วยติดต่อประสานงานให้กับเราไปยังเจ้าของบัญชีอีกฝั่งหนึ่งแล้ว แต่ถ้าเจ้าของบัญชีรายนั้นไม่ยินยอมที่จะโอนเงินคืนกลับให้เรา ก็ถือได้ว่าหมดขอบเขตหน้าที่ของธนาคารแล้ว
สิ่งที่เราต้องทำต่อไป คือ เราจะต้องไปฟ้องร้องเพื่อขอเงินคืนด้วยตัวเองจากเจ้าของบัญชีอีกฝั่งหนึ่งเอง เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะกดโอนเงินไปให้ใครเราจะต้องตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนกดทำรายการ เพราะธนาคารจะถือว่ารายการโอนเงินที่เกิดขึ้นนั้นเราเป็นคนทำรายการด้วยตัวเอง ธนาคารก็เลยไม่มีหน้าที่ที่จะต้องมาจ่ายชดเชยเงินคืนให้เราแต่อย่างใด
ถ้าคนอื่นโอนเงินผิดมาให้เรา
ถ้าเป็นกรณีแบบนี้ก็ไม่ต้องรีบร้อนเป็นคนดีโอนเงินคืนให้เขาทันที อย่างน้อยเราต้องสอบถามคนที่โทรมาก่อนว่า โทรมาจากธนาคารอะไร มีรายการผิดปกติอะไรเกิดขึ้น แล้วก็บอกปลายสายไปว่าขอตรวจสอบรายการกับธนาคารก่อนที่จะทำการโอนเงินกลับไปให้คนที่โทรมาหา และที่สำคัญที่เราจะต้องสังเกตอีกอย่างหนึ่ง คือ คนที่โทรมาจะต้องแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นจากการโอนเงิน มากกว่าการสอบถามข้อมูลส่วนตัวของเรา และแจ้งให้เราตรวจสอบรายการบัญชีของตัวเราก่อน ไม่ใช่มาบอกให้เราทำรายการโอนเงินคืนให้เพียงอย่างเดียว แล้วอย่าลืมถามชื่อและเบอร์โทรติดต่อกลับ ที่จะต้องเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารเท่านั้น
หลังจากที่เราได้รับโทรศัพท์มาแจ้งว่ามีคนโอนเงินมาให้เราผิดบัญชีไปแล้วนั้น เราก็ต้องตรวจสอบบัญชีของเราก่อนว่ามีเงินโอนเข้ามาตามที่มีคนโทรมาแจ้งหรือเปล่า ซึ่งถ้าเรามี Internet Banking หรือ Mobile Banking เราก็สามารถเข้าไปตรวจสอบรายการได้เลยทันที แต่ถ้าบัญชีของเราไม่มี Internet Banking หรือ Mobile Banking เราก็สามารถตรวจสอบการโอนเงินเข้ามาได้โดยโทรกลับไปที่ Call Center หรือจะไปติดต่อที่สาขาของธนาคาร เพื่อดูรายการโอนเงินที่เข้ามาได้ ซึ่งถ้าหากเราตรวจสอบแล้วเป็นการโอนเงินผิดบัญชีจริงๆ และไม่ใช่เงินของเราจริงๆ เราก็ค่อยโอนเงินกลับไปให้เจ้าของบัญชี
ดังนั้นก่อนทำรายการโอนเงินต่างๆ จะต้องตรวจสอบความถูกต้องทั้งเลขที่บัญชี ชื่อบัญชี และจำนวนเงินให้ดีก่อนกดทำรายการ และถ้าหากมีการโอนเงินมาให้เราผิดก็ต้องกลับไปตรวจสอบก่อนว่ามีการโอนเงินมาผิดจริงๆ แล้วค่อยโอนเงินกลับคืนให้เจ้าของ
ที่มา thaijobsgov.com