ความเชื่อเรื่องโบราณเป็นความเชื่อที่หลายคนพอจะรู้จักมาแล้วบ้างคนโบราณนั้นมีความเชื่อแปลกๆหลายอย่างแต่ทั้งหมดนั้นมักจะเกิดขึ้นจริงคนโบราณมักจะรู้อะไรหลายอย่างที่เรายังไม่รู้
เช่นเดียวกันกับการ
กินข้าวเสร็จแล้วอย่าพึ่งอาบน้ำเพราะจะทำให้เกิดอาการแบบนี้ต่อสุขภาพของเรา
วันนี้จึงนำความเชื่อของโบราณเรื่องนี้มาฝากว่าจะเกิดผลอะไรกับตัวเราถ้าเรากินข้าวเสร็จแล้วอาบน้ำทันที
เคยได้ยินใช่ไหมว่า กินข้าวเสร็จอย่าพึ่งรีบไปอาบน้ำ เพราความเชื่อของคนโบราณเชื่อว่า เพราะกระเพาะต้องใช้เลือดในการย่อยอย่างมาก หากไปอาบน้ำ เลือดจะวิ่งมาที่ผิว ไม่ช่วยกระเพาะย่อยอาหาร ท้องก็จะอืด..สุดท้ายก็เน่าใน(เพราะการย่อยไม่สมบูรณ์ อาหารที่เหลือไปหมักหมมที่ลำไส้) เมื่อเริ่มกินอาหารแล้ว..อย่าเพิ่งอาบน้ำ
วิธีการอาบน้ำที่ดีตามหลักของคนโบราณก็คือ
ตอนเช้าให้อาบน้ำเย็น(อุณหภูมิปกติ)เพื่อให้ร่างกายสดชื่น และควรอาบก่อนกินอาหารเช้าด้วยจะช่วยให้รูขุมขนปิด พลังชี่("ชี่" หรือ ลมปราณ ในทางการแพทย์แผนจีน คือ พลังแฝงอยู่ในสิ่งมีชีวิตทุกชนิด) ถูกเก็บไว้ในกาย พร้อมกับทำงานได้ตลอดทั้งวัน สังเกตได้เลยว่าจะรู้สึกมีกำลังมากขึ้น ไม่อ่อนเพลีย
ส่วนตอนเย็นให้อาบน้ำอุ่น ทำให้ร่างกายผ่อนคลาย หลับสบาย ความเครียดจากกิจกรรม ระหว่างวันจะถูกระบายออกไปทางรูขุมขน ไม่เก็บกักไว้ในหัวใจ
"หากความเครียด เก็บกักไว้ในหัวใจ"" จะทำให้เป็นคนนอนหลับยาก ตื่นเช้ามาก็จะเพลีย นอนไม่อิ่ม แต่ถ้าตอนเช้าหากไปอาบน้ำอุ่น ก็จะทำให้เลือดถูกดึงมาที่ผิวมาก และระบายออกทางรูขุมขนที่เปิด เสียพลังงานแต่เช้า จะรู้สึกไม่สดชื่นแต่กลับผ่อนคลาย ไม่อยากทำอะไร ซึ่งจริงๆ แล้วในตอนเช้า เป็นเวลาที่กระเพาะทำงานได้สูงสุด ย่อยอาหารได้สูงที่สุด เมื่อทำเป็นประจำเรื่อยๆ จะกินอาหาร แล้วย่อยยาก ท้องอืด มีอาการเพลียหลังกินข้าว ต้องกินกาแฟ ตามลงไปจึงทำให้รู้สึกตื่นขึ้น สุดท้ายก็ติดกาแฟอีกด้วย อาหารที่ย่อยไม่หมด จะเน่าที่ภายในลำไส้ ก่อให้เกิดสิวฝ้า เพราะของเสียต้องถูกระบายออกทางรูขุมขนเเทน"
ความเชื่อของคนโบราณส่วนมากจะเกิดขึ้นจากความจริงเพราะในสมัยก่อนไม่มีเครื่องมือทดสอบที่ทันสมัยเหมือนในปัจจุบัน จึงทดลองอะไรด้วยตัวเองจึงรู้ว่าสิ่งนี้เป็นยังไง บวกกับหมอในยุคโบราณจึงทำให้เกิดความเชื่อนี้ขึ้นมา
ที่มา https://kaijeaw.com
เคยได้ยินใช่ไหมว่า กินข้าวเสร็จอย่าพึ่งรีบไปอาบน้ำ เพราความเชื่อของคนโบราณเชื่อว่า เพราะกระเพาะต้องใช้เลือดในการย่อยอย่างมาก หากไปอาบน้ำ เลือดจะวิ่งมาที่ผิว ไม่ช่วยกระเพาะย่อยอาหาร ท้องก็จะอืด..สุดท้ายก็เน่าใน(เพราะการย่อยไม่สมบูรณ์ อาหารที่เหลือไปหมักหมมที่ลำไส้) เมื่อเริ่มกินอาหารแล้ว..อย่าเพิ่งอาบน้ำ
วิธีการอาบน้ำที่ดีตามหลักของคนโบราณก็คือ
ตอนเช้าให้อาบน้ำเย็น(อุณหภูมิปกติ)เพื่อให้ร่างกายสดชื่น และควรอาบก่อนกินอาหารเช้าด้วยจะช่วยให้รูขุมขนปิด พลังชี่("ชี่" หรือ ลมปราณ ในทางการแพทย์แผนจีน คือ พลังแฝงอยู่ในสิ่งมีชีวิตทุกชนิด) ถูกเก็บไว้ในกาย พร้อมกับทำงานได้ตลอดทั้งวัน สังเกตได้เลยว่าจะรู้สึกมีกำลังมากขึ้น ไม่อ่อนเพลีย
ส่วนตอนเย็นให้อาบน้ำอุ่น ทำให้ร่างกายผ่อนคลาย หลับสบาย ความเครียดจากกิจกรรม ระหว่างวันจะถูกระบายออกไปทางรูขุมขน ไม่เก็บกักไว้ในหัวใจ
"หากความเครียด เก็บกักไว้ในหัวใจ"" จะทำให้เป็นคนนอนหลับยาก ตื่นเช้ามาก็จะเพลีย นอนไม่อิ่ม แต่ถ้าตอนเช้าหากไปอาบน้ำอุ่น ก็จะทำให้เลือดถูกดึงมาที่ผิวมาก และระบายออกทางรูขุมขนที่เปิด เสียพลังงานแต่เช้า จะรู้สึกไม่สดชื่นแต่กลับผ่อนคลาย ไม่อยากทำอะไร ซึ่งจริงๆ แล้วในตอนเช้า เป็นเวลาที่กระเพาะทำงานได้สูงสุด ย่อยอาหารได้สูงที่สุด เมื่อทำเป็นประจำเรื่อยๆ จะกินอาหาร แล้วย่อยยาก ท้องอืด มีอาการเพลียหลังกินข้าว ต้องกินกาแฟ ตามลงไปจึงทำให้รู้สึกตื่นขึ้น สุดท้ายก็ติดกาแฟอีกด้วย อาหารที่ย่อยไม่หมด จะเน่าที่ภายในลำไส้ ก่อให้เกิดสิวฝ้า เพราะของเสียต้องถูกระบายออกทางรูขุมขนเเทน"
ความเชื่อของคนโบราณส่วนมากจะเกิดขึ้นจากความจริงเพราะในสมัยก่อนไม่มีเครื่องมือทดสอบที่ทันสมัยเหมือนในปัจจุบัน จึงทดลองอะไรด้วยตัวเองจึงรู้ว่าสิ่งนี้เป็นยังไง บวกกับหมอในยุคโบราณจึงทำให้เกิดความเชื่อนี้ขึ้นมา
ที่มา https://kaijeaw.com