บางแสน เมืองท่องเที่ยวยอดฮิตที่สุดแห่งหนึ่งของไทย นอกจากมีที่เที่ยวธรรมชาติสวย ๆ แล้ว บางแสนก็มักจะได้รับการเลือกให้จัดงานเทศกาลหรืองานประชาสัมพันธ์สำคัญ ๆ อยู่เสมอ บอกกับการเดินทางที่ไม่ไกลและสะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยว จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงถูกเลือกเป็นโปรแกรมอันดับต้น ๆ สำหรับคนที่อยากจะเดินทางเที่ยวต่างจังหวัดใกล้ ๆ เราก็เลยอยากที่จะสนองตอบด้วยการจัดทริปพาเที่ยวบางแสน 2 วัน 1 คืน อ๊ะ ๆ แต่โปรแกรมที่เราจะนำเสนอนั้น สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของเวลา และการเดินทางของคุณเองได้โดยสะดวกนะคะ
จากกรุงเทพฯ ขับรถหรือนั่งรถประจำทางไปบางแสน ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง วันแรกสำหรับการเที่ยวบางแสน เราอยากให้คุณเที่ยวกันแบบชิล ๆ ไม่ต้องรีบร้อน จุดหมายแรกที่เราอยากให้คุณแวะก่อนเข้าตัวเมืองบางแสน คือ "ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ" ตั้งอยู่ที่ตำบลอ่างศิลา ศาลเจ้าจีน มีลักษณะเป็นตึกอาคารทรงจีน 4 ชั้น ภายในตระการตาด้วยสถาปัตยกรรมแบบจีน พร้อมด้วยศิลปวัตถุสำคัญต่าง ๆ ได้แก่ รูปปั้นมังกร กระถางธูปศักดิ์สิทธิ์ เสาฟ้าดิน และองค์ไท้ส่วยเอี้ย เป็นต้น
ที่นี่ยังเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับคนที่ต้องการมาแก้ปีชง งานนี้ไม่ว่าใครจะเกิดปีชงนักษัตรปีไหน ก็สามารถเดินทางมาสักการะองค์ไท้ส่วยเอี้ยประจำปีเกิดได้เลย ซึ่งภายในบริเวณศาลเจ้าจะมีเจ้าหน้าที่นำชุดถวายเจ้าแก้ชงมาจำหน่าย และยังมีเจ้าหน้าที่ยืนให้คำแนะนำตามจุดต่าง ๆ รวมถึงบอกขั้นตอนว่าจะตั้งแก้อย่างไร เริ่มไหว้จากตรงไหน รับรองว่าไม่มีงงเด็ดขาด
หลังจากไหว้ขอพรเอาฤกษ์เอาชัยกันเสร็จแล้ว จากนั้นก็ขับรถตรงดิ่งเข้าบางแสน (ขับตรงยาวถนนมิตรสัมพันธ์ แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนลงหาดบางแสน) ก็จะเจอกับอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว นั่นคือ "สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล" หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ "พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำบางแสน" ที่นี่ได้จัดแสดงองค์ความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ทางทะเล สิ่งมีชีวิตและความเป็นอยู่ของสัตว์ทะเลชนิดต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ในเขตน่านน้ำของไทยเอาไว้มากมาย (อัตราค่าเข้าชม เด็ก 40 บาท /ผู้ใหญ่ 80 บาท, ชาวต่างชาติ เด็ก 120 บาท, ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 220 บาท หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ site.bims.buu.ac.th)
จากนั้นเราแนะนำให้คุณขับรถไปเที่ยว "เขาสามมุข" กันต่อ โดยขับไปตามถนนเลียบชายหาด คราวนี้คุณจะลองลดกระจกรับลมทะเลชิล ๆ ระหว่างทางก็ไม่มีใครว่า ที่เขาสามมุขจะมีลิงป่าอยู่เป็นจำนวนมาก (นักท่องเที่ยวอย่าได้ไว้ใจเด็ดขาด เพราะบางตัวก็ดุไม่น้อย) กิจกรรมท่องเที่ยวบนเขาสามมุข ได้แก่ การชื่นชมวิวทิวทัศน์ของหาดบางแสนและทะเลอ่างศิลา แถมยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินสวย ๆ พลาดไม่ได้กับการสักการะศาลเจ้าแม่สามมุข ศาลเจ้าที่เป็นเหมือนอนุสรณ์ตำนานความรักที่ผิดหวังของหญิงสาวที่ชื่อสามมุข นักท่องเที่ยวหลายคนนิยมเดินทามมาขอพระกับเจ้าแม่ และนำของมาแก้บน เมื่อพรที่ขอสมตามความปรารถนา
ภาพจาก FS11 / Shutterstock.com
บ่าย ๆ ก็ได้เวลาลงเล่นน้ำกันแล้ว กิจกรรมท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นที่ "ชายหาดบางแสน" คงหนีไม่พ้นการเล่นน้ำทะเล เล่นบานาน่า โบ๊ท นั่งทานอาหารริมทะเล บนเก้าอี้ผ้าใบ ใต้ร่ม ที่ทางร้านอาหารจัดไว้ให้ ซึ่งจะมีพ่อค้า แม่ค้า เดินหิ้วของมาขายกันมากมาย โดยเฉพาะอาหารทะเล เช่น กุ้งชุบแป้งทอด ปูชุบแป้งทอด ปลาหมึกย่าง หรือกุ้งเผา เป็นต้น เลือกซื้อกันได้แล้วแต่ชอบใจ
หลังจากแวะที่เที่ยวและลงเล่นน้ำทะเลกันเกือบตลอดทั้งวัน ก่อนออกไปหาอะไรอร่อย ๆ ทาน ก็อาจจะแวะเข้าที่พักอาบน้ำแต่งตัวกันเสียหน่อย และขึ้นชื่อว่าบางแสน เมืองแห่งการท่องเที่ยว ย่อมมีที่พักให้เลือกหลายหลาย ไม่ว่าจะเป็นบังกะโล โรงแรม หรือรีสอร์ท จิ้มนิ้วเลือกกันไม่หวาดไม่ไหว แต่เราแนะนำว่าก่อนไปเที่ยวบางแสน เพื่อน ๆ ควรที่จะโทรศัพท์จองให้เรียบร้อย อย่าไปหาเอาดาบหน้าเลย เพื่อน ๆ จะได้ไม่ต้องเที่ยวแบบกังวล และถ้าเกิดว่าหาที่พักไม่ได้ก็จะพลอยทำให้ทริปหมดสนุกเอาเสียเปล่า ๆ ลองเข้าไปเลือกที่พักบางแสนสวย ๆ ต่อได้ที่ "9 ที่พักบางแสนน่านอน บรรยากาศสบาย ชิลได้ไม่จำกัด"
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ คราวนี้คุณก็จะได้ออกไปเสาะหาของกินอร่อย ๆ กันแล้ว บางแสนเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งที่ที่อาหารการกินสมบูรณ์มาก ๆ บริเวณถนนบางแสนล่าง แถว ๆ หาดวอนนภา ที่นั่นนับเป็นแหล่งแฮงก์เอาท์ของวัยรุ่นบางแสนกันเลยทีเดียว เพราะมีทั้งร้านอาหาร ร้านนมเก๋ ๆ อยู่เต็มไปหมด ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะบางแสนยังมีร้านอาหารให้เลือกหลากหลาย ทั้งอาหารทะเลสด ๆ อาหารเกาหลี และอาหารนานาชาติมากมาย แถมแต่ละร้านก็เป็นที่ขึ้นชื่อในเรื่องความอร่อย ใครที่ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทานร้านไหนลองเข้าไปดูที่ "อิ่มท้องสำราญใจกับ 21 ร้านอาหารบางแสนที่ควรชิม" น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
วันที่ 2 : ช้อปแบบไม่อั้น
หลังจากที่พักผ่อนชาร์จแบตฯ เอาแรงกันมาทั้งคืน ก็ได้เวลาเตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ กันแล้ว การเที่ยวบางแสนในวันที่สองบอกเลยว่าจะเป็นวันแห่งการช้อปปิ้ง เริ่มต้นด้วย "ตลาดเก่าอ่างศิลา 133 ปี" สัญลักษณ์ของอ่างศิลาก็คือครกหิน ถ้าจะซื้อกลับบ้านหรือหอบหิ้วไปฝากใคร งานนี้อาจต้องใช้กำลังมากหน่อย เพราะครกแต่ละใบจัดได้ว่าหนักใช่เล่น
นอกจากครกแล้วที่นี่ก็ยังมีอาหารทะเลทั้งสดทั้งแห้ง สองข้างทางก็จะมีร้านขายของเต็มไปหมดทั้งของกินของใช้ของฝาก เผลอ ๆ อาจมีเลือกกันไม่ถูก มึนงงตาลายกันเป็นแถว แต่ที่นี่เปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้นนะ อย่าได้ไปผิดวันกันเด็ดขาดเชียว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Wat Chaikang Sripen
ภาพจาก ตลาดหนองมน ชลบุรี
ก่อนตีรถกลับกรุงเทพฯ พลาดไม่ได้กับอีกหนึ่งไฮไลท์ของการมาเที่ยวบางแสน นั่นคือการแวะมาที่ "ตลาดหนองมน" ที่นี่เป็นตลาดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงของ จังหวัดชลบุรี ละลานตาด้วยของกิน ของขาย มากมาย เช่น ขนมจาก ขนมหม้อแกง อาหารทะเลแห้ง อาหารทะเลแปรรูปอีกหลากหลายชนิด และสินค้ายอดนิยม ก็คือ "ข้าวหลาม"
ที่มีให้เลือกมากมายหลายร้าน เดินเลือกดูกันเพลิน ๆ อย่าเพิ่งใจเร็วด่วนได้ เพราะว่าอร่อยแทบทุกร้าน แต่ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์อย่างเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์นั้น ถนนสุขุมวิทหน้าตลาดหนองมนรถจะค่อนข้างติด เพราะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมามาก ดังนั้นใครแวะมาซื้อของฝากที่นี่ ก็อย่าใจร้อนเป็นดีที่สุด หลังจากช้อปปิ้งกันหนำใจ คราวนี้ก็ถึงเวลาโบกมือลาบางแสนแล้วตีรถกลับเข้ากรุงเทพฯ กันยาว ๆ
ทริปมาเที่ยวบางแสน 2 วัน 1 คืนทริปนี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทริปการเดินทางใกล้กรุงเทพฯ ที่คุ้มสุด ๆ เพราะเพื่อน ๆ จะได้ชิลแบบชิล ๆ แวะชิมของอร่อย แถมยังได้ของฝากติดไม้ติดมือกลับมาบ้านอีกด้วย ใครเบื่อกรุงเทพฯ แล้วอยากจะเปลี่ยนที่นอนดูสักคืน "บางแสน" น่าจะเป็นการเดินทางที่ตอบโจทย์คุณได้มากที่สุดเลยทีเดียวค่ะ ^ ^
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
thai.tourismthailand.org, เฟซบุ๊ก สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล, เฟซบุ๊ก Wat Chaikang Sripen, ตลาดหนองมน ชลบุรี, เว็บไซต์ site.bims.buu.ac.th, เฟซบุ๊ก Bangsaenwalkingstreet, เฟซบุ๊ก ศาลเจ้าหน่าจาไท้จื้อ อ่างศิลา ชลบุรี