ผมเป็นเด็กต่างจังหวัด เนื่องจากฐานะทางบ้านผมไม่ค่อยดี
ผมจึงเรียนจบแค่มัธยมปลายเพียงเท่านั้น
หลังจากผมจบมัธยมปลายผมก็ต้องออกไปหางานทำอย่างหนัก
และผมก็มักจะทำงานล่วงเวลาจนดึกดื่นอยู่เสมอ
เนื่องจากผมต้องทำงานที่ค่อนข้างจะต้องใช้แรงงาน
จึงไม่ค่อยมีโอกาสได้รู้จักกับผู้หญิงสักเท่าไรนัก
และแฟนคนแรกของผมก็รู้จักกันโดยเพื่อนแนะนำให้รู้จัก
เธอเป็นนักศึกษามหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดที่ผมอาศัยอยู่
ตอนที่เรารู้จักกันนั้น จัดว่าเป็นบุพเพสันนิวาสเลยก็ว่าได้
เราทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างดึงดูดซึ่งกันและกัน
แล้วพวกเราก็ได้คบกันมาจนถึงทุกวันนี้
สมัยเธอเรียนมหาลัยเธอเป็นผู้หญิงที่ดีและห่วงความรู้สึกผมมาก แม้จะออกมาทานข้าวด้วยกันเธอยังไม่ค่อยออกมาเจอผมเลย เพราะหากเจอกันผมก็จะเป็นคนเลี้ยงเธอตลอด เธอจึงไม่อยากให้ผมใช้เงินเยอะ
เพราะรักผมจึงทนมาได้ถึงทุกวันนี้ ใครจะไปคิดว่าหลังจากนั้นเพียงไม่นาน เธอจะบอกเลิกผมอย่างไร้เยื่อใย ผมพยายามสงบสติอารมณ์เอาไว้ แล้วถามเธอถึงเหตุผลว่าทำไมถึงอยากเลิกกับผม เธอบอกกับผมว่าเพราะผมจน ทำงานมาตั้งนานแล้ว ไม่เห็นจะมีความก้าวหน้าในชีวิตเลย เธอหัวเราะเยาะผมพร้อมกับพูดว่า “สมัยนี้อ่ะอะไรๆก็ต้องใช้เงินกันทั้งนั้น หากคุณมีเงินคนถึงจะยอมเคารพคุณ แต่คุณมันไม่มีอะไรเลย” เธอพูดด้วยความโมโห ผมได้แต่ยิ้มแหยๆกลับไปให้เธอ แล้วเธอก็พูดอีกว่า “ยังจะมีหน้ามายิ้มอีก”
ผมไม่ได้พูดอะไรตอบกลับเธอทั้งนั้น แล้วผมก็เดินไปหยิบสมุดบัญชีเงินฝากที่ผมพยายามเก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิตมาให้เธอดู เมื่อเธอเห็นตัวเลขเธอถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก เธอรีบเปลี่ยนสีหน้าทันที พร้อมพูดกับผมด้วยเสียงอ่อนลงว่า”ทำไมคุณถึงมีเงินเยอะขนาดนี้ ?” ผมเลยตอบเธอไปว่า “ที่ช่วงนี้ผมกลับบ้านดึกบ่อยๆ เพราะผมได้เข้าศึกษาการลงทุนระยะยาวในอนาคต เพื่อจะเก็บเงินไว้ใช้สำหรับงานแต่งงานของเรา แต่…มันคงไม่มีโอกาสอีกแล้วล่ะ” เธอรีบคุกเข่าขอโทษผม พร้อมกับพูดว่า “เมื่อกี๊ฉันแค่ล้อเล่นเพียงเท่านั้น ฉันยังรักคุณเหมือนเดิม” ผมเห็นภาพนี้แล้วช่างนับถือในการแสดงละครของเธอเสียจริง ผมบอกเธอว่ารีบเก็บข้าวของแล้วออกไปจากบ้านผมซะ
“ไม่! ฉันไม่ไป ฉันขอโทษนะที่เข้าใจคุณผิดไป ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าคุณจะมีเงินเยอะขนาดนี้ ฉันเลย….” ออกไปจากบ้านผมเถอะ ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณอีกแล้ว เธอนั่งคุกเข่าขอร้องให้ผมยกโทษให้เธออยู่นาน แต่แล้วสุดท้ายเธอก็ถอดใจและยอมจากไปแต่โดยดี นับเป็นโชดดีของผม ที่ผมยังไม่ได้มอบแหวนเพชรที่ผมแอบไปซื้อมาเพื่อขอเธอแต่งงาน ไม่งั้นผมอาจจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต หากต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ !
(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)
ที่มา: http://www.siamdrama.com/view-4660.html
สมัยเธอเรียนมหาลัยเธอเป็นผู้หญิงที่ดีและห่วงความรู้สึกผมมาก แม้จะออกมาทานข้าวด้วยกันเธอยังไม่ค่อยออกมาเจอผมเลย เพราะหากเจอกันผมก็จะเป็นคนเลี้ยงเธอตลอด เธอจึงไม่อยากให้ผมใช้เงินเยอะ
เพราะรักผมจึงทนมาได้ถึงทุกวันนี้ ใครจะไปคิดว่าหลังจากนั้นเพียงไม่นาน เธอจะบอกเลิกผมอย่างไร้เยื่อใย ผมพยายามสงบสติอารมณ์เอาไว้ แล้วถามเธอถึงเหตุผลว่าทำไมถึงอยากเลิกกับผม เธอบอกกับผมว่าเพราะผมจน ทำงานมาตั้งนานแล้ว ไม่เห็นจะมีความก้าวหน้าในชีวิตเลย เธอหัวเราะเยาะผมพร้อมกับพูดว่า “สมัยนี้อ่ะอะไรๆก็ต้องใช้เงินกันทั้งนั้น หากคุณมีเงินคนถึงจะยอมเคารพคุณ แต่คุณมันไม่มีอะไรเลย” เธอพูดด้วยความโมโห ผมได้แต่ยิ้มแหยๆกลับไปให้เธอ แล้วเธอก็พูดอีกว่า “ยังจะมีหน้ามายิ้มอีก”
ผมไม่ได้พูดอะไรตอบกลับเธอทั้งนั้น แล้วผมก็เดินไปหยิบสมุดบัญชีเงินฝากที่ผมพยายามเก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิตมาให้เธอดู เมื่อเธอเห็นตัวเลขเธอถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก เธอรีบเปลี่ยนสีหน้าทันที พร้อมพูดกับผมด้วยเสียงอ่อนลงว่า”ทำไมคุณถึงมีเงินเยอะขนาดนี้ ?” ผมเลยตอบเธอไปว่า “ที่ช่วงนี้ผมกลับบ้านดึกบ่อยๆ เพราะผมได้เข้าศึกษาการลงทุนระยะยาวในอนาคต เพื่อจะเก็บเงินไว้ใช้สำหรับงานแต่งงานของเรา แต่…มันคงไม่มีโอกาสอีกแล้วล่ะ” เธอรีบคุกเข่าขอโทษผม พร้อมกับพูดว่า “เมื่อกี๊ฉันแค่ล้อเล่นเพียงเท่านั้น ฉันยังรักคุณเหมือนเดิม” ผมเห็นภาพนี้แล้วช่างนับถือในการแสดงละครของเธอเสียจริง ผมบอกเธอว่ารีบเก็บข้าวของแล้วออกไปจากบ้านผมซะ
“ไม่! ฉันไม่ไป ฉันขอโทษนะที่เข้าใจคุณผิดไป ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าคุณจะมีเงินเยอะขนาดนี้ ฉันเลย….” ออกไปจากบ้านผมเถอะ ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณอีกแล้ว เธอนั่งคุกเข่าขอร้องให้ผมยกโทษให้เธออยู่นาน แต่แล้วสุดท้ายเธอก็ถอดใจและยอมจากไปแต่โดยดี นับเป็นโชดดีของผม ที่ผมยังไม่ได้มอบแหวนเพชรที่ผมแอบไปซื้อมาเพื่อขอเธอแต่งงาน ไม่งั้นผมอาจจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต หากต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ !
(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)
ที่มา: http://www.siamdrama.com/view-4660.html