ชาไทย ชาดำเย็น ชาเย็น เป็นของคู่คนไทยมานานแสนนาน แถมเดี๋ยวนี้ต่างชาติก็ชื่นชอบชาไทย จนมีผงชาไทยมาขาย
กันในต่างประเทศ หาซื้อง่าย เห็นฝรั่งทำวีดีโอ How to make Thai tea ดูแล้วชื่นใจค่ะ นั่นแสดงว่าฝรั่งเขานิยมดื่มชาไทย
ชาไทย หอมเย็นหวานมัน ได้ดื่มทีไรทำให้สดชื่นทุกที
แต่วันนี้มาชวนทำ พุดดิ้งชาไทยกันค่ะ หอม หวาน นุ่มละมุนลิ้น ทำง่าย ๆ ส่วนผสมก็หาได้ไม่ยากเลยค่ะ
ส่วนผสมและเครื่องปรุง
ผงชาไทย 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย
นมข้นหวาน 1/3 ถ้วย
นมข้นจืด 1/3 ถ้วย
ผงเจลลาติน 2 ชต.(2 ซอง)
น้ำเปล่า 2 ถ้วย (สำหรับต้มชา)
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย (สำหรับผสมเจลาติน)
วิธีทำ
วันนี้ใช้เจลาติน ชนดผง ก่อนอื่นเราต้องเตรียมเจลลาตินก่อน โดยใช้น้ำเปล่า เทผงเจลาตินลงไป แล้วคนให้เข้ากันพักไว้ซัก 5 นาที ให้เจลาตินเขาเซตตัว อิ่มน้ำพองตัว
คนแล้วพักไว้ ไม่ต้องใส่ตู้เย็นนะคะ
ต่อไปเรามาชงชากันค่ะ ต้มน้ำร้อนให้เดือดรอไว้ ตาใช้เข้าไมโครเวฟ จนเดือด แล้วเทผงชาไทย ลงในถุงชงชา ถ้าใครไม่มีถุงชงชา ใช้ที่กรองทำกาแฟ ก็ได้ หรือ จะใช้วิธี ต้มน้ำเดือดใส่หม้อ แล้วเทชาลงไปในหม้อ แช่ทิ้งไว้ 5 นาที แล้วค่อยมากรองก็ได้ แต่อย่าต้มชาด้วยการเปิดเตานะคะ
ขอบตาใช้ใส่ถุงกรองชา แล้วแช่ท้ิงไว้ 5 นาที เราจะได้ชาท่ี่สีเข้มข้น หอมมาก
พักไว้ 5 นาที
เสร็จแล้วกรองน้ำชาออกมา 1 1/2 ถ้วย
ตาเอาถ่ายมาใส่อ่างผสม มันง่ายดี ไม่มีแก้วใหญ่ ถ้าใครมีแก้วใหญ่อยู่แล้วก็ไม่ต้องถ่ายมาใส่อ่างก็ได้ค่ะ ใส่น้ำตาลทราย คนให้ละลายค่ะ
น้ำตาลทรายค่ะ
ใส่นมข้นหวาน ตอนนี้คนให้เข้ากัน จะเห็นสีเปลี่ยน
ตามด้วยนมข้นจืด หรือ นมสด เสร็จแล้วชิมรสดูค่ะ ชอบหวานมากกว่านี้ก็เติมน้ำตาลลงไป
นี่คือ เจลาตินที่่เราผสมและพักไว้ประมาณ 5 นาที คนให้เข้ากันอีกที
ใส่เจลาตินลงในชาไทยที่เราผสมไว้ แล้วคนให้เจลาตินละลายหมด
เมื่อทุกอย่างละลายเข้ากันดีแล้ว เดี๋ยวเราจะนำไปใส่แก้วค่ะ
จัดการหาแก้วสวย ๆ ตามต้องการ นำชาที่ผสมเจลาติน เทใส่แก้ว ไม่ต้องเต็มมากนะคะ เดี่ยวเราจะมาจัดแต่ง ใส่วิปครีมทีหลัง จะได้ไม่ล้น
ตาทำได้ 3 แก้ว เอาเข้าตู้เย็น ทิ้งไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมงค่ะ หรือ จนกว่าชาจะเซตตัว
หลังจากผ่านไป 2 ชั่วโมง พุดดิ้งของเราเซท ตัวแล้ว
พุดดิ้งเราจะเด้งดึ๋งๆ เลยค่ะ
ได้เวลาทานกันแล้ว ใส่วิปครีม ด้านบน ใส่ใบมิ้นให้สวยงามก็เป็นอันเสร็จค่ะ พุดดิ้งชาไทย
หน้าตาสวยงาม สีสวยน่ารับประทานมาก ทำเวลามี ปาร์ตี้ก็ดีค่ะ ทำถ้วยเล็ก ๆ ก็ได้
รับรองความอร่อย หวาน หอม มันค่ะ
ที่มา http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=tuktausa&month=08-2016&date=28&group=8&gblog=199