ขนมจีนน้ำยาปู (น้ำยาปักษ์ใต้) ปูเน้น ๆ จัดเต็ม

น้ำยาปู ปูเป็นปู เนื้อปูเน้น ๆ ไม่ใช่กลิ่นสังเคราะห์ปู 





สวัสดีคะเพื่อน ๆ ชาวบล๊อกแกงค์ แม่ครัวบี๊มาพร้อมบรรยากาศที่ชาวไทยกำลังโศกเศร้าอาลัย 

คงจะไม่กล่าวถึงเหตุการณ์และเรื่องราวที่ยังความโศกเศร้ามาให้พวกเราชาวไทยทั่วโลกนะคะ
แม่ครัวช่วงแรก ๆ ก็ทำใจไม่ได้ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ จะอย่างไรชีวิตก็ต้องดำเนินกันไปนะคะ
ในเมื่อเขาได้มอบตำแหน่งหน้าที่ "แม่ครัว" อันทรงเกียรติให้แล้ว ก็ต้องทำหน้าที่แม่ครัวต่อไป 

หลายวันก่อนช่วงดึกดื่นมืดค่ำ เกิดอยากจะกินขนมจีนน้ำยาปลาใส่ซุปเปอร์(ตีนไก่) มากๆๆ
นำภาพไปแปะในหน้าเฟสบุ๊ค เพื่อน ๆ เห็นภาพแล้วอยากให้เราทำขนมจีนน้ำยาปูให้ชมอีก
ได้เห็นคอมเม้นท์แล้วเกิดอาการอยากกินน้ำยาปูปักษ์ใต้แทนไอ้ที่อยากกินก่อนหน้าซ๊ะแล้ว

ดีงาม(ชามตราไก่) จึงได้ฤกษ์ลงมือทำน้ำยาปู คือหาเรื่องเอาพริกแกงที่ซื้อไว้ออกมาใช้งาน
ขนมจีนน้ำยาปลาอยากกินเมื่อใดทำได้ทันที เพราะคลังแสงมีปลาทูน่ากระป๋องและกะทิพร้อม
แต่ถ้าอยากกินน้ำยาปูปักษ์ใต้ ต้องหาเวลาไปซื้อเนื้อปูจากเจ้าประจำ ถ้าขาจรมักจะผิดหวังคะ
เนื้อปูเจ้าประจำอยู่ที่ตลาด อตก. ใครสนใจไปอุดหนุนได้ เนื้อปูเจ้านี้ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลย
เรียกว่าของดีตามท้องเรื่อง ไม่มีการเอาของไม่ดีมาย้อมแมวแน่นอน สนนราคาก็ทั่ว ๆ ไปคะ

มาเข้าเรื่องการทำขนมจีนน้ำยาปูกันดีกว่า ชักคันไม้คันมืออยากโขลกพริกแกงแล้วสินะ
อ่ะ ไหนว่ามีพริกแกงแล้วไง คือว่าซื้อพริกแกงอร่อย ๆ แต่อย่างไรก็ต้องมาเพิ่มส่วนผสมคะ
แบบว่าเพิ่มกระเทียมไทยกลีบเล็ก เพิ่มผิวมะกรูด ใส่ข่า ตะไคร้ เย้อออ งั้นตำใหม่เถอะ อิอิ 
ซื้อพริกแกงสำเร็จก็ใช้ได้ แต่เหมือนจะยังไม่หอมเว่อวัง ต้องมาปรุงเพิ่มกระเทียมอีกนิด 
ปรุงเพิ่มลงไปอย่างละนิดละหน่อย ออกมาแจ่ม อร่อยที่สุดในแปดโลกยันชาติหน้ากันเลยเชียว



ขนมจีนน้ำยาปู (น้ำยาปักษ์ใต้)
------------------------------

ส่วนพริกแกง

* พริกขี้หนูแห้งแช่น้ำจนนิ่ม 15 เม็ด
* พริกชี้ฟ้าเหลือง 4 เม็ด
* พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
* ข่าแก่หั่นซอย 1+½ ช้อนโต๊ะ
* ตะไคร้ซอย 3 ต้น
* ผิวมะกรูดซอย 1 ช้อนโต๊ะ
* กระเทียมไทยซอย 3 ช้อนโต๊ะ
* หอมแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ
* ขมิ้นสด 2 ช้อนโต๊ะ
* กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ







ส่วนผสมน้ำยา

* หัวกะทิถ้วย
* หางกะทิ 2 ถ้วย
* เนื้อปูม้า 400 กรัม
* เกลือสมุทร 2 ช้อนโต๊ะ
* ใบมะกรูด 3 ใบ






ส่วนขนมจีน
* ขนมจีน 
* ผักสดต่าง ๆ ถั่วฝักยาวหั่นท่อน แตงกวาหั่นชิ้น 
ยอดผักกระเฉดเด็ด ลูกสะตอสด และสะตอดอง
ผักกาดดอง ถั่วงอกดอง ผักบุ้งไทยดอง ยอดมันปู 
ยอดผักติ้ว ยอดมะม่วงหิมพานต์ ผักสดอื่น ๆ
พริกขี้หนูแห้งคั่วป่น หรือพริกแห้งทอดกรอบ ไข่ต้มยางมะตูม





วิธีทำ
1. ทำพริกแกงโดยน้ำส่วนผสมทั้งหมดข้างต้นโขลกรวมกันให้ละเอียด พักไว้

2. นำหัวกะทิ 1 ถ้วย และหางกิทะ 2 ถ้วยผสมรวมกันในหม้อ เมื่อเดือดปุดๆ 
ใส่พริกแกงที่โขลกไว้ลงไป คนผสมให้เข้ากัน ยกขึ้นตั้งเตาไฟกลาง ๆ 
หมั่นคนจนส่วนผสมเดือด เคี่ยวแกงจนมีกลิ่นหอม
3. ปรุงรสด้วยเกลือป่น น้ำตาลปีบ เติมหัวกะทิส่วนที่เหลือจนหมดหมั่นคนเพื่อไม่ให้
กะทิแตกมัน ชิมให้มีรสเค็มและเผ็ดนำ (น้ำยาปักษ์ใต้ส่วนใหญ่จะไม่หวาน) 

4. แบ่งใส่เนื้อปูลงไป (คนเบาๆ อย่าให้เนื้อปูแตกกระจาย) เนื้อปูอีกส่วนไว้โรยหน้า
5. ก่อนดับไฟ ฉีกๆ ใบมะกรูดใส่ไป ปิดไฟเตาได้ เป็นอันเสร็จ




แนะนำให้ใช้เนื้อส่วนก้ามแบบนี้ แกะส่วนแข็ง ๆ ด้านในออกหมดแล้ว
ถ้าเนื้อปูสดมาก ๆ ตอนคนแกง คนแรง ๆ เนื้อก็ไม่แตกกระจาย




นำหัวกะทิบางส่วนใส่ในหม้อ ใส่พริกแกงลงไปผัดให้แตกมันเล็กน้อย
หมั่นคน ๆ อย่าให้กะทิจับตัวเป็นก้อน แล้วเติมกะทิส่วนที่เหลือลงไป 





ปรุงรสด้วยน้ำตาลปีบ เกลือป่น รอให้กะทิเดือดจึงใส่เนื้อปูลงไป
ใส่เนื้อปูลงไปแล้วคนเบา ๆ อย่าคนแรงจนเนื้อปูแตกกระจาย 
ก่อนดับไฟใส่ตะไคร้ซอย ใส่ข่าหั่นแว่น ใบมะกรูด ปิดไฟได้





ใส่เนื้อปูแบบจัดหนัก จัดเต็ม ให้คนกินประทับใจ





ช้อนเนื้อปูขึ้นมาดูให้เห็นกันชัด ๆ ปูเป็นปู





ทำกินเองก็ต้องจัดเต็ม ใส่เนื้อปูไปเยอะ ๆ นาน ๆ กินทีไม่เป็นไรคะ





เราหั่นข่า ตะไคร้ และใบมะกรูดใสไปเยอะ ๆ ช่วยดับกลิ่นคาวได้ดีทีเดียว





วิธีเสริฟ

จัดขนมจีนใส่จานราดด้วยน้ำยาปู โรยเนื้อปูก้อน (เนื้อปูก้อนตัดออกได้)
รับประทานกับไข่ต้มยางมะตูมและผักสด ผักดองต่าง ๆ ที่จัดเตรียมไว้






ถ้าไปซื้อกินจานนี้ 180-200 บาท แพง ทำกินเองดีกว่า ไม่เสียอารมณ์ 





ถ้าได้ผักบุ้งดอง ถั่วงอกดอง ผักสดของทางใต้ คงจะแหล่มเชียว





ตัวแม่ครัวไม่กินใบแมงลัก ชอบกลิ่นแต่กินไม่เป็นคะ




แกงไทยก็ต้องใส่หม้อไทย หม้อเคลือบทรงโบราณอันเป็นเอกลักษณ์



ที่มา http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=jazzy-bong&month=23-10-2016&group=19&gblog=39