ใครว่ารอแก่ก่อนถึงจะป่วยได้
วัยทำงานนี่ล่ะที่มีความเสี่ยงที่จะป่วยด้วยโรคภัยไข้เจ็บหนักๆ พอๆ
กับวัยชราเลยล่ะ เพราะวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ
นั่งหน้าคอมพิวเตอร์นานๆ ทานอาหารไม่เป็นเวลา และอื่นๆ อีกมากมาย
ที่จะทำให้วัยทำงานมีสิทธิ์จะเสียชีวิตด้วยโรคร้ายก่อนที่จะเข้าสู่วัยชราเสียอีก
ทำอย่างไรให้มีร่างกายแข็งไม่เจ็บป่วยก่อนวัยอันควร มาดูคล็ดลับง่ายๆ 5
ข้อกันค่ะ
1. พักผ่อนไม่เพียงพอ >> แบ่งเวลาทำงานให้ชัดเจน, แจ้งปัญหากับผู้บังคับบัญชา, เปลี่ยนงาน
เสี่ยงโรคร้าย >> ความดันต่ำ ปวดศีรษะ โรคหัวใจ ฯลฯ
หลายคนมีปัญหาว่างานเยอะ ต้องปั่นงานจนดึกดื่น จนทำให้นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ วิธีแก้มีมากมาย ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเลือกทางไหน อันดับแรกมองตัวเองก่อนว่า ตัวเองจัดเวลาในชีวิตถูกต้องหรือไม่ เรากำลังอู้งานตอนเช้า แล้วไปปั่นงานตอนดึกหรือเปล่า ถ้าตอบว่าไม่ เราทำงานหัวปั่นตั้งแต่เช้ายันเย็น เราอาจจะต้องแจ้งผู้บังคับบัญชาของเราว่าปริมาณงานที่เราทำอยู่มันมากกว่าที่คนๆ หนึ่งจะทำไหว อาจทำให้ร่างกายเราพัง และผลงานไม่มีประสิทธิภาพได้ แต่หากวิธีนี้ไม่ได้ผล อาจจะต้องถึงเวลาที่คุณจะต้องเลือกสุขภาพมาก่อนงานที่รักแล้วล่ะ เพราะถ้าเราสุขภาพไม่แข็งแรงดี เราก็ทำงานได้ไม่ดีเช่นกัน
2. ทานอาหารไม่เป็นเวลา >> เตรียมอาหารล่วงหน้า
เสี่ยงโรคร้าย >> โรคกระเพาะอาหาร กรดไหลย้อน โรคอ้วน
หลายคนตื่นไม่ทันข้าวเช้า หรือแม้กระทั่งนั่งทำงานติดเก้าอี้จนไม่สามารถลุกไปทานอาหารกลางวัน และเย็นในเวลาที่ควรทานได้ หากนานๆ เกิดขึ้นครั้งหนึ่งด้วยเหตสุดวิสัยก็ไม่เป็นไรหรอก แต่หากเป็นแบบนี้อยู่ประจำล่ะก็ เราก็ต้องหาเวลามาเตรียมอาหารล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นมื้อไหนๆ ก็สำคัญทั้งนั้น แน่นอนรวมถึงมื้อเย็นด้วย หากคุณยังต้องใช้สมองทำงานต่อ ก็ต้องงทานอาหารเย็นด้วย จะซื้อเตรียมไว้ตั้งแต่ตอนกลางคืน หรือจะซื้ออาหารเย็นเตรียมไว้ตั้งแต่ตอนเช้า หรือกลางวัน ก็ได้ทั้งนั้น
3. นั่งติดเก้าอี้หลายชั่วโมงไม่ยอมลุก >> ลุกขึ้นมายืดส้นยืดสายบ้าง, เดินแทนการนั่งขณะเดินทาง
เสี่ยงโรคร้าย >> ออฟฟิศซินโดรม ปวดเมื่อยบ่า คอ ไหล่ ข้อมือ ไขมันอุดตันเส้นเลือด เบาหวาน อ้วน
เพราะแค่เรื่องนั่งติดเก้าอี้นี่แหละที่จะทำให้คุณเสี่ยงสารพัดโรคนับสิบๆ ไล่ไปตั้งแต่อาการเจ็บปวดภายนอก ปวดศีรษะ คอ ไหล่ แขน ข้อมือ หรือที่เรียกว่า “ออฟฟิศซินโดรม” หรืออาจจะมาจากการที่เรานั่งติดเก้าอี้จนแทบไม่ได้ใช้พลังงานเลย จนทำให้อาหารที่เราทานให้พลังงานมากกว่าที่เราใช้ไปในแต่ละวัน ก่อให้เกิดโรคอ้วนขึ้นได้ง่ายๆ ทางแก้ง่ายนิดเดียว ลุกขึ้นยืน-เดินทุกๆ 2-3 ชั่วโมง หรือเลือกที่จะเดินขึ้นลงบันได หรือเดินกลับบ้านในระยะทางสั้นๆ 500-800 เมตร แทนการนั่งมอไซค์กลับบ้านก็ช่วยได้มากแล้วล่ะ
4. ของทอดของมันเต็มตลาด >> พกข้าวกล่องไปจากบ้าน, เลือกซื้อแต่อาหารที่ไขมันน้อย น้ำตาลน้อย
เสี่ยงโรคร้าย >> ไขมันอุดตันเส้นเลือด ไขมันพอกตับ อ้วน เบาหวาน
อาหารตามตลาดนัดข้างสถานที่ทำงานไม่ได้อร่อยดีมีประโยชน์ไปเสียทุกอย่าง นานๆ ทานทีก็ไม่ได้ให้โทษอะไรมากมาย แต่หากเราทานบ่อยๆ เอะอะก็ไก่ทอด ไส้กรอกอีสาน น้ำหวานชงแก้ว ผัดไทย แกงเขียวหวาน และอื่นๆ อีกมากมายที่เราเชื่อว่าทุกคนรู้อยู่แล้วแหละว่าทานมากๆ มันไม่ดี แต่ก็ยังจะทานเพราะห้ามความอยากไม่ได้ หรืออาจจะเพราะมันไม่มีอะไรผักๆ ขาย หากแถวที่ทำงานของคุณอาหารไม่ค่อยดีต่อสุขภาพ เราก็ขอแนะนำให้คุณนำข้าวกล่องไปทานเองดีกว่า ถ้าพอจะมีเวลา 30 นาทีก่อนนอน เสาร์-อาทิตย์ไปตลอดซื้อวัตถุดิบไว้ จันทร์ถึงศุกร์ปรุงอาหารง่ายๆ ใส่กล่องเตรียมไว้ก็ดีนะ อร่อย ประหยัด และดีต่อสุขภาพแน่นอน
5. ไม่มีเวลาออกกำลังกาย >> จัดเวลาวันที่ยุ่งน้อยที่สุด แล้วตั้งให้วันนั้นเป็นวันออกกำลังกาย
เสี่ยงโรคร้าย >> สารพัดโรค อย่าให้เราต้องบอก
การไม่ออกกำลังกาย เป็นสาเหตุของสารพัดโรคที่แทบจะเรียกได้ว่า เกือบจะทุกโรคบนโลกใบนี้เลยทีเดียว (ที่ไม่เกี่ยวกับอาหารการกิน) เพราะหากร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานที่ดี ร่างกายของเราก็จะต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ได้ดีขึ้น นอกจากนี้การออกกำลังกายยังช่วยลดความตึงเครียด ช่วยให้หลับสบาย สุขภาพจิตก็ดีขึ้นอีกด้วย หากคุณเป็นคนหนึ่งที่บอกตัวเองตลอดว่า “ทำงานยุ่งมากจนไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย” เราอยากให้คุณคิดใหม่ ใน 1 สัปดาห์ เราต้องการแค่ 2-3 วันเป็นอย่างต่ำเท่านั้นในการออกกำลังกาย ปักหมุดไว้เลยว่าวันไหนที่งานยุ่ง “น้อยที่สุด” แล้วหาเวลาออกกำลังกาย 1-2 ชั่วโมง เลือกเวลา สถานที่ และวิธีออกกำลังกายได้ตามใจชอบ แม้กระทั่งนอนอยู่บนเตียงในบ้านก็ยังออกกำลังกายได้ เพราะฉะนั้นลดเวลาที่จะใช้ในกิจกรรมอื่นๆ ลง แล้วปันเวลามาออกกำลังกายสักนิด เพื่อสุขภาพที่ดีกันดีกว่า
ภาพประกอบจาก istockphoto
1. พักผ่อนไม่เพียงพอ >> แบ่งเวลาทำงานให้ชัดเจน, แจ้งปัญหากับผู้บังคับบัญชา, เปลี่ยนงาน
เสี่ยงโรคร้าย >> ความดันต่ำ ปวดศีรษะ โรคหัวใจ ฯลฯ
หลายคนมีปัญหาว่างานเยอะ ต้องปั่นงานจนดึกดื่น จนทำให้นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ วิธีแก้มีมากมาย ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเลือกทางไหน อันดับแรกมองตัวเองก่อนว่า ตัวเองจัดเวลาในชีวิตถูกต้องหรือไม่ เรากำลังอู้งานตอนเช้า แล้วไปปั่นงานตอนดึกหรือเปล่า ถ้าตอบว่าไม่ เราทำงานหัวปั่นตั้งแต่เช้ายันเย็น เราอาจจะต้องแจ้งผู้บังคับบัญชาของเราว่าปริมาณงานที่เราทำอยู่มันมากกว่าที่คนๆ หนึ่งจะทำไหว อาจทำให้ร่างกายเราพัง และผลงานไม่มีประสิทธิภาพได้ แต่หากวิธีนี้ไม่ได้ผล อาจจะต้องถึงเวลาที่คุณจะต้องเลือกสุขภาพมาก่อนงานที่รักแล้วล่ะ เพราะถ้าเราสุขภาพไม่แข็งแรงดี เราก็ทำงานได้ไม่ดีเช่นกัน
2. ทานอาหารไม่เป็นเวลา >> เตรียมอาหารล่วงหน้า
เสี่ยงโรคร้าย >> โรคกระเพาะอาหาร กรดไหลย้อน โรคอ้วน
หลายคนตื่นไม่ทันข้าวเช้า หรือแม้กระทั่งนั่งทำงานติดเก้าอี้จนไม่สามารถลุกไปทานอาหารกลางวัน และเย็นในเวลาที่ควรทานได้ หากนานๆ เกิดขึ้นครั้งหนึ่งด้วยเหตสุดวิสัยก็ไม่เป็นไรหรอก แต่หากเป็นแบบนี้อยู่ประจำล่ะก็ เราก็ต้องหาเวลามาเตรียมอาหารล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นมื้อไหนๆ ก็สำคัญทั้งนั้น แน่นอนรวมถึงมื้อเย็นด้วย หากคุณยังต้องใช้สมองทำงานต่อ ก็ต้องงทานอาหารเย็นด้วย จะซื้อเตรียมไว้ตั้งแต่ตอนกลางคืน หรือจะซื้ออาหารเย็นเตรียมไว้ตั้งแต่ตอนเช้า หรือกลางวัน ก็ได้ทั้งนั้น
3. นั่งติดเก้าอี้หลายชั่วโมงไม่ยอมลุก >> ลุกขึ้นมายืดส้นยืดสายบ้าง, เดินแทนการนั่งขณะเดินทาง
เสี่ยงโรคร้าย >> ออฟฟิศซินโดรม ปวดเมื่อยบ่า คอ ไหล่ ข้อมือ ไขมันอุดตันเส้นเลือด เบาหวาน อ้วน
เพราะแค่เรื่องนั่งติดเก้าอี้นี่แหละที่จะทำให้คุณเสี่ยงสารพัดโรคนับสิบๆ ไล่ไปตั้งแต่อาการเจ็บปวดภายนอก ปวดศีรษะ คอ ไหล่ แขน ข้อมือ หรือที่เรียกว่า “ออฟฟิศซินโดรม” หรืออาจจะมาจากการที่เรานั่งติดเก้าอี้จนแทบไม่ได้ใช้พลังงานเลย จนทำให้อาหารที่เราทานให้พลังงานมากกว่าที่เราใช้ไปในแต่ละวัน ก่อให้เกิดโรคอ้วนขึ้นได้ง่ายๆ ทางแก้ง่ายนิดเดียว ลุกขึ้นยืน-เดินทุกๆ 2-3 ชั่วโมง หรือเลือกที่จะเดินขึ้นลงบันได หรือเดินกลับบ้านในระยะทางสั้นๆ 500-800 เมตร แทนการนั่งมอไซค์กลับบ้านก็ช่วยได้มากแล้วล่ะ
4. ของทอดของมันเต็มตลาด >> พกข้าวกล่องไปจากบ้าน, เลือกซื้อแต่อาหารที่ไขมันน้อย น้ำตาลน้อย
เสี่ยงโรคร้าย >> ไขมันอุดตันเส้นเลือด ไขมันพอกตับ อ้วน เบาหวาน
อาหารตามตลาดนัดข้างสถานที่ทำงานไม่ได้อร่อยดีมีประโยชน์ไปเสียทุกอย่าง นานๆ ทานทีก็ไม่ได้ให้โทษอะไรมากมาย แต่หากเราทานบ่อยๆ เอะอะก็ไก่ทอด ไส้กรอกอีสาน น้ำหวานชงแก้ว ผัดไทย แกงเขียวหวาน และอื่นๆ อีกมากมายที่เราเชื่อว่าทุกคนรู้อยู่แล้วแหละว่าทานมากๆ มันไม่ดี แต่ก็ยังจะทานเพราะห้ามความอยากไม่ได้ หรืออาจจะเพราะมันไม่มีอะไรผักๆ ขาย หากแถวที่ทำงานของคุณอาหารไม่ค่อยดีต่อสุขภาพ เราก็ขอแนะนำให้คุณนำข้าวกล่องไปทานเองดีกว่า ถ้าพอจะมีเวลา 30 นาทีก่อนนอน เสาร์-อาทิตย์ไปตลอดซื้อวัตถุดิบไว้ จันทร์ถึงศุกร์ปรุงอาหารง่ายๆ ใส่กล่องเตรียมไว้ก็ดีนะ อร่อย ประหยัด และดีต่อสุขภาพแน่นอน
5. ไม่มีเวลาออกกำลังกาย >> จัดเวลาวันที่ยุ่งน้อยที่สุด แล้วตั้งให้วันนั้นเป็นวันออกกำลังกาย
เสี่ยงโรคร้าย >> สารพัดโรค อย่าให้เราต้องบอก
การไม่ออกกำลังกาย เป็นสาเหตุของสารพัดโรคที่แทบจะเรียกได้ว่า เกือบจะทุกโรคบนโลกใบนี้เลยทีเดียว (ที่ไม่เกี่ยวกับอาหารการกิน) เพราะหากร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานที่ดี ร่างกายของเราก็จะต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ได้ดีขึ้น นอกจากนี้การออกกำลังกายยังช่วยลดความตึงเครียด ช่วยให้หลับสบาย สุขภาพจิตก็ดีขึ้นอีกด้วย หากคุณเป็นคนหนึ่งที่บอกตัวเองตลอดว่า “ทำงานยุ่งมากจนไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย” เราอยากให้คุณคิดใหม่ ใน 1 สัปดาห์ เราต้องการแค่ 2-3 วันเป็นอย่างต่ำเท่านั้นในการออกกำลังกาย ปักหมุดไว้เลยว่าวันไหนที่งานยุ่ง “น้อยที่สุด” แล้วหาเวลาออกกำลังกาย 1-2 ชั่วโมง เลือกเวลา สถานที่ และวิธีออกกำลังกายได้ตามใจชอบ แม้กระทั่งนอนอยู่บนเตียงในบ้านก็ยังออกกำลังกายได้ เพราะฉะนั้นลดเวลาที่จะใช้ในกิจกรรมอื่นๆ ลง แล้วปันเวลามาออกกำลังกายสักนิด เพื่อสุขภาพที่ดีกันดีกว่า
ภาพประกอบจาก istockphoto