
เข้าใจกันใหม่! ไม่ต้องเห็นใครแก้ผ้า ก็เป็น “ตากุ้งยิง” ได้
หลายๆ คนอาจเคยได้ยินความเชื่อในวัยเด็ก
ว่าหากใครแอบดูคนอื่นที่อยู่ในชุดวันเกิด (ไม่ใส่เสื้อผ้า) อาจทำให้เป็น
“ตากุ้งยิง” ได้ พอเราโตขึ้นแล้วกลับมามองที่ความเชื่อเดิมๆ
ก็กลับฉุกคิดได้ว่า ความเชื่อนี้มันเป็นอะไรที่ดูจะเกินจริงไปหน่อย
ในเมื่อเขาโป๊ เราผ่านไปเห็น หรืออาจตั้งใจไปเห็น
ทำไมโรคนั้นจึงมาตกที่เราได้ล่ะ?
จริงๆ แล้ว ตากุ้งยิง นั้นเป็นอาการอักเสบที่บริเวณฐานของตา
เมื่อเป็นแล้วก็จะมีอาการบวมแดงจนเห็นได้ชัด แล้วก็จะปวดอยู่หน่อยๆ
แต่ในบางรายก็ดูจะไม่หน่อยสักเท่าไหร่ ในอดีต
หากใครที่เป็นตากุ้งยิงละก็มักจะถูกล้อว่าไปแอบดูใครอาบน้ำมาหรือเปล่า
เป็นความเชื่อที่พูดกันจนติดปาก
ซึ่งในความเชื่อนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะผิดไปทั้งหมด
ลองนึกสภาพห้องน้ำที่ล้อมด้วยสังกะสี หรือเป็นกำแพงอิฐ หิน
ปูนธรรมดาเนี่ยล่ะ ก็จะมีรูเล็กๆ จากผนังฟากใดฟากหนึ่งให้มองเห็นได้
เมื่อใครไปแอบดู ก็มักจะเอาตาเข้าไปทาบกับรูเล็กๆ นั้นที่มีพวกฝุ่น
สิ่งสกปรก เชื้อรา บางครั้งสิ่งเหล่านั้นเข้าไปในตาและทำให้อักเสบได้ จริงๆ
ผู้ใหญ่แค่อยากจะเตือนเราเท่านั้นเอง
ไม่อยากให้โตขึ้นไปเป็นมนุษย์โรคจิตวิตถาร เลยเตือนกันไว้ตั้งแต่เด็กๆ
ซะเลย
สาเหตุที่แท้จริงของการเกิดตากุ้งยิง
โรคตากุ้งยิง เกิดจากการอุดตันของต่อมไขมันบริเวณโคนขนตา
เมื่อเป็นเข้าก็ทำให้เชื้อโรคแทรกซ้อนเข้าไปได้ง่าย
อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคนี้ได้ มาจากการที่ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ
รับประทานอาหารไม่เป็นเวลา หรือออกกำลังกายน้อย ไม่สม่ำเสมอ
เป็นเหตุทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ต่ำลงจนร่างกายอ่อนแอ
อีกทั้งคนที่ต้องทำงานแล้วใช้สายตามากๆ
หรือคนที่มีสายตาผิดปกติแต่ไม่ได้รับการแก้ไข ในบางรายขยี้ตาบ่อยจนเกินไป
ทำให้เปลือกตาไม่สะอาด การใช้เครื่องสำอางแล้วล้างออกไม่สะอาด
ทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรค หรือสารเคมี ไปจนถึงการใส่
หรือถอดคอนแทคเลนส์ด้วยมือก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดตากุ้งยิงได้เช่นกัน
ตากุ้งยิง เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เป็นเชื้อหนอง Staphylococcus aureus
ซึ่งในบางรายที่เป็นตากุ้งยิงแล้วไม่ได้รับการรักษา หนองอาจจะหายเอง
หรืออาจแตกออก
หรืออาจจะทำให้เกิดการสะสมจนเป็นก้อนขนาดใหญ่รบกวนการมองเห็นของเราได้
ตากุ้งยิง แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด
ตากุ้งยิงชนิดหัวผุด :
ตากุ้งยิงชนิดแรกนี้เป็นการอักเสบของต่อมไขมันที่บริเวณผิวหนังตรงโคนขนตา
มีลักษณะเป็นหัวฝีผุดให้เห็นได้อย่างชัดเจนบริเวณขอบตา มีสีเหลืองตรงกลาง
รอบจะนูนแดง เมื่อกดจะรู้สึกเจ็บ
ตากุ้งยิงชนิดหัวหลบใน :
ตากุ้งยิงชนิดนี้เป็นการอักเสบของต่อมไขมันบริเวณเยื่อบุเปลือกตาตรงเนื้อเยื่อสีชมพูที่อยู่ลึกจากขอบตาเข้าไป
ต้องปลิ้นเปลือกตาออกมาจึงจะเห็น เมื่อเป็นแล้วจะมีอาการปวดที่บริเวณดวงตา
หากใช้นิ้วคลำดูก็จะพบตุ่มแข็งและเจ็บ
หากปลิ้นเปลือกตาด้านในออกมาก็จะเห็นหัวฝีเหลืองๆ
ซึ่งการที่ต่อมไขมันอุดตันนี้ อาจจะมีการอุดตันของรูเปิดเล็กๆ
ทำให้มีเนื้อเยื่อรวมกันอยู่ภายในต่อมกลายเป็นตุ่มนูน ไม่มีอาการเจ็บ
ในทางการแพทย์จะเรียกว่า คาลาเซียน แต่ภาษาชาวบ้านจะเรียกว่า ตาเป็นซีสต์
อาการของผู้ป่วยที่เป็นตากุ้งยิง
ผู้ป่วยจะมีอาการปวดที่หนังตา เวลากลอกตา หรือหลับตาจะทำให้รู้สึกปวด
ในบางรายอาจมีอาการบวมที่เปลือกตา เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นก้อน มีน้ำตาไหล
รู้สึกคันเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในตา ทั้งยังแพ้แสงแดด
โดยในผู้ป่วยบางรายอาจเกิดอาการบวมมากจนตาปิด
หรืออาจร้ายแรงถึงขั้นมีหนองไหลออกจากบริเวณเปลือกตา
ในกรณีที่หนองแตกในตาจะทำให้ขี้ตามีสีเขียว
รู้ได้อย่างไรว่าเป็นตากุ้งยิง
ตากุ้งยิง พบได้โดยมากในวัยรุ่นไปจนถึงผู้ใหญ่
ส่วนผู้สูงอายุนั้นพบได้น้อยกว่า
แต่ถ้าหากมีการพบในผู้สูงอายุก็จะต้องมีการตรวจร่างกาย โดยอาจตรวจพบ
โรคเบาหวาน
หรือโรคความดันโลหิตสูงซึ่งจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ต่ำลง
อีกทั้ง ตากุ้งยิง ก็ยังพบได้บ่อยในผู้ป่วยที่ชอบขยี้ตา
ไม่รักษาความสะอาดของใบหน้า ผู้ที่มีโรคผิวหนังใบหน้าและใบหน้ามัน
สำหรับการตรวจวินิจฉัยให้รู้ว่าเป็น ตากุ้งยิง หรือไม่นั้น
แพทย์ก็จะทำการตรวจว่ามีก้อนนูนที่บริเวณหนังตาหรือไม่ หากพบ
แล้วกดไปที่ก้อนนูนจะรู้สึกเจ็บ มีอาการตาแดง มีขี้ตาชัดเจน
แต่ถ้าเป็นไตแข็งๆ ก็จะเป็นเพียงก้อนนูน กดไม่เจ็บ ตาไม่แดงก็ไม่เป็นอะไร
เพียงแต่จะรบกวนการมองเห็น
หรืออาจทำให้ระคายเคืองเหมือนมีก้อนอะไรติดอยู่ในดวงตา
นับว่าเป็นโรคที่ไม่ร้ายแรง สามารถตอบสนองต่อการรักษาได้ดี
จะรักษา ตากุ้งยิง ได้อย่างไร?
รักษาด้วยยา : วิธีนี้เป็นวิธีการรักษาตากุ้งยิงในระยะเริ่มแรก
เป็นช่วงที่เปลือกตาเริ่มอักเสบ แต่ยังไม่เป็นหนอง
โดยแพทย์จะแนะนำให้ใช้ยาควบคู่ไปกับการประคบด้วยน้ำอุ่นเพื่อทำให้การอักเสบทุเลาลง
จนค่อยๆ หาย และเป็นปกติในที่สุด อย่างไรก็ตาม
การรักษาด้วยวิธีนี้ต้องได้รับการตรวจตาและสั่งจ่ายยาโดยแพทย์เท่านั้น
ไม่ควรซื้อยาใช้เองเด็ดขาด
รักษาด้วยการผ่าตัด :
วิธีนี้เป็นวิธีการรักษาตากุ้งยิงที่มีลักษณะเป็นตุ่ม
หรือมีก้อนแข็งเป็นไตขึ้นมา โดยแพทย์จะทำการผ่าและขูดออกจนสะอาดที่สุด
ซึ่งเมื่อทำการผ่าตัดแล้ว
แต่ยังมีหนองหลงเหลืออยู่จึงทำให้มีโอกาสที่จะเป็นซ้ำอีก
ผู้ป่วยจึงต้องดูแลตัวเองให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดการอักเสบ
หรือเกิดติดเชื้อขึ้นใหม่
ดูแลตัวเองอย่างไรเมื่อเป็นตากุ้งยิง
ล้างมือให้สะอาดอยู่เป็นประจำ
ห้ามบีบหนองออกด้วยตัวเอง
ประคบด้วยน้ำอุ่น
เลี่ยงการแต่งหน้า
งดใส่คอนแทคเลนส์
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว และไม่อยากเป็น ตากุ้งยิง
ก็ควรหมั่นดูแลความสะอาดบนใบหน้า ผิวรอบดวงตา และมือของเราอยู่เสมอ
หากหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีฝุ่นเยอะได้ก็แนะนำให้ทำ
เพราะมีเชื้อแบคทีเรีย หรือสิ่งสกปรกปะปนอยู่
ซึ่งเมื่อเราเกิดการระคายเคืองที่ผิวรอบดวงตาและขยี้เข้าก็เสี่ยงที่จะเป็นตากุ้งยิง
หรือตาอักเสบได้ ฉะนั้นต้องระวังกันให้มากๆ
#1แชร์=1ธรรมทาน แชร์ไปได้บุญ สร้างกุศลความดี
#ถ้าข้อมูลนี่เป็นประโยชน์และสามารถช่วยใครได้อีกหลายๆคน อย่าเก็บไว้อ่านคนเดียวน๊า!! อย่าลืมส่งให้คนที่คุณรัก ได้อ่านด้วยนะคะ