
อยู่บ้านเฉยๆ ก็ทำได้ “วิธีบริจาคร่างกายออนไลน์” บอกบุญต่อให้ทั่วกัน
การทำบุญช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์มีอยู่หลายวิธี
ถ้าอยากบริจาคเลือด เราต้องเดินทางไปที่โรงพยาบาล
หรือสภากาชาดไทยอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ถ้าอยากทำบุญด้วยการบริจาคเงิน
ก็สามารถโอนเข้าบัญชีได้จากที่ไหนบนโลกก็ได้เช่นกัน
แล้วการบริจาคอวัยวะล่ะ? หลายคนคงคิดว่า ต้องไปที่เคาท์เตอร์ของโรงพยาบาล
หรือสภากาชาดไทยอีกแน่ แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว แต่อันที่จริง การบริจาคอวัยวะ
รวมไปถึงการบริจาคร่างกาย เพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่ให้แก่นักศึกษาแพทย์
เราสามารถทำได้ผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ที่บ้าน หรือที่ไหนก็ได้ที่มีคอมพิวเตอร์
และอินเตอร์เน็ต
การบริจาคร่างกาย
เพื่อการศึกษา ผู้บริจาคเป็นผู้เสียสละที่ยิ่งใหญ่
ยอมสละร่างกายของตนเอง
ให้ผู้ที่ไม่เคยได้รู้จักมาก่อนได้ศึกษาโดยเพียงแต่มุ่งหวังว่า
ผู้ที่ศึกษาร่างของตนจะนำความรู้ที่ได้รับนั้นไปช่วยมวลมนุษย์ชาติต่อไป
ผู้อุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาได้สร้างกุศลทานครั้งสุดท้ายของชีวิตที่ยิ่ง
ใหญ่ที่สุด โดยได้แต่หวังว่า
ผู้อยู่เบื้องหลังจะไม่ต้องทนทุกข์จากอาการเจ็บป่วย
ตนเองมิได้หวังสิ่งตอบแทนใดใด นอกจากได้เป็นผู้ “ให้” เท่านั้น
ร่างกายของผู้บริจาค สามารถสร้างประโยชน์เพื่อการศึกษา การวิจัย และการรักษาทางการแพทย์ ได้ดังนี้
– เพื่อการศึกษาของนิสิตแพทย์ และแพทย์ประจำบ้าน
– เพื่อการฝึกอบรมหัตถการต่างๆ และงานวิจัยทางการแพทย์
– เพื่อการศึกษาของนักศึกษาด้านการแพทย์และสาธารณสุขอื่นๆ
– เพื่อเก็บเนื้อเยื่อบางส่วนสำหรับการรักษาทางการแพทย์
– เพื่อให้แพทย์เฉพาะทางฝึกผ่าตัด
– เพื่อเก็บโครงกระดูกเพื่อการศึกษาตลอดไป
ขั้นตอนการบริจาคร่างกายเพื่อการศึกษา
ผู้มีความประสงค์อุทิศร่างกายสามารถยื่นความจำนงได้ 3 วิธี คือ
1. ยื่นความจำนงผ่านช่องทางออนไลน์ที่ chulalongkornhospital
2.
ยื่นความจำนงโดยตรงที่ ศาลาทินฑัต โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
โดยกรอกข้อความลงในแบบฟอร์มของโรงพยาลบาล 1 ฉบับ
เจ้าหน้าที่จะออกบัตรประจำตัวผู้อุทิศร่างกายให้ไว้เป็นหลักฐาน
3.
ยื่นความจำนงทางไปรษณีย์ โดยกรอกข้อความลงในแบบฟอร์ม แล้วส่งมาทางไปรษณีย์ 1
ฉบับ
เจ้าหน้าที่จะส่งบัตรประจำตัวผู้อุทิศร่างกายให้ภายหลังเมื่อผู้อุทิศร่างกายถึงแก่กรรม
ทายาท
มีสิทธิ์คัดค้านไม่มอบผู้เสียให้กับโรงพยาบาลได้โดยต้องแจ้งการคัดค้านไม่มอบกับโรงพยาบาลฯภายใน
24 ชั่วโมง
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมการอุทิศร่างกายได้ที่
ศาลาทินทัต โทรศัพท์ 02 256 4397 , 02 256 4281 ต่อ 0 หรือ 4 หรือ 7
ฝ่ายกายวิภาคศาสตร์ ศูนย์ฝึกผ่าตัด โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
โทรศัพท์ 02 256 4281 ต่อ 1405 , 02 256 4737
การบริจาคดวงตา
เป็นการแสดงความจำนงตั้งแต่ยังมีชีวิต
เพื่อมอบดวงตาของตนเองภายหลังจากเสียชีวิตแล้ว
ซึ่งทางศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทยจะได้นำไปเปลี่ยนให้กับผู้ป่วย
เพื่อให้สามารถกลับมามองเห็นได้เป็นปกติอีกครั้ง
ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่รอการเปลี่ยนกระจกตาอยู่จำนวนมากถึง
11,027 ราย แต่ในปี พ.ศ.2559 ที่ผ่านมา
ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทยได้รับการบริจาคดวงตาจากผู้เสียชีวิตเพียง 847 ราย
และมีผู้ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาเพียง 763 ราย เท่านั้น
ขั้นตอนการบริจาคดวงตา
1.
ผู้ที่สนใจบริจาคดวงตาสามารถแสดงความจำนงในการบริจาคดวงตาได้คนทุกเพศทุกวัย
ตั้งแต่อายุ 2 ขวบ เป็นต้นไป โดยสามารถแสดงความจำนงได้ที่
eyebank.redcross
2.เมื่อบริจาคดวงตาแล้วจะได้รับบัตรประจำตัวผู้บริจาคดวงตา
ควรพกบัตรผู้บริจาคติดตัวไว้และแจ้งให้ญาติรับทราบว่าได้ทำเรื่องบริจาคดวงตาไว้ในระหว่างมีชีวิต
3.
ในกรณีบริจาคอวัยวะแทนญาติ
กรุณาโทรแจ้งศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทยทันทีที่ผู้บริจาคเสียชีวิต ที่หมายเลข
081 902 5938, 081 836 4927 ตลอด 24 ชั่วโมง
ภายหลังเสีย..ดวงตาจะเริ่มเสื่อมสภาพ
ดังนั้นเพื่อให้ดวงตาที่มีสภาพดีที่สุด
ญาติของผู้แสดงความจำนงในการบริจาคควรโทรแจ้งศูนย์ดวงตาทันทีหลังผู้บริจาคเสียชีวิต
เพื่อให้ศูนย์ดวงตาได้จัดเก็บดวงตาโดยเร็วที่สุด
ซึ่งควรจัดเก็บให้เรียบร้อยภายใน 6-8 ชั่วโมง
ข้อควรปฏิบัติภายหลังการอุทิศดวงตา
1. แจ้งสมาชิกในครอบครัวหรือญาติใกล้ชิดให้รับทราบ
2. เก็บบัตรอุทิศดวงตาไว้กับตัวหรือในที่หาง่าย
3. ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับดวงตาควรปรึกษาจักษุแพทย์
ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย
อาคารเทิดพระเกียรติสมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฒโน) ชั้น 7 ถนนอังรีดูนังต์ ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โทรศัพท์ 0-2252-8131-9 , 0-2258-8181-9, 0-2256-4039 และ 0-2256-4040 ต่อศูนย์ดวงตา ตลอด 24 ชั่วโมง
หากเพื่อนๆต้องการ บริจาคสามารถติดต่อไปที่เว็บไซค์ได้เลยครับ https://www.redcross.or.th/