Home »
ความรัก
»
6 สิ่งที่ คู่รักห่างกัน เท่านั้นจะเข้าใจ
6 สิ่งที่ คู่รักห่างกัน เท่านั้นจะเข้าใจ
6 สิ่งที่ คู่รักห่างกัน เท่านั้นจะเข้าใจ
ถ้าความรักเป็นเรื่องที่เลือกได้
หลายคนก็อยากเลือกที่จะให้แฟนมาอยู่ใกล้ ๆ ทำอะไรได้ดั่งใจเราทุกอย่าง
แต่เพราะความรักมันไม่ใช่เรื่องที่ควบคุมได้
และคนรักก็ไม่ใช่ทาสรับใช้นี่สิ มันเลยยากตรงนี้!
แต่ก็ใช่ว่าความรักที่เลือกไม่ได้
อย่างเช่นรักระยะไกลจะเป็นเรื่องที่แย่เสมอไปนะจ๊ะสาวๆ
จริงอยู่ที่เรารู้สึกเหงากว่าคนอื่น จะทำอะไร จะไปไหน
ส่วนใหญ่ต้องทำเหมือนตัวคนเดียว ต้องอดใจรอ ร๊อ รอ
อีกนานกว่าที่จะนัดเจอกันอีก แต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่มีข้อดีเสียเลย
หรือเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่ใช่รักแท้ (
คู่รักบางคนที่คบกันจนถึงขั้นแต่งงานกัน ก็เคยเป็น long distance กันมาก่อน
)
เกริ่นซะยาวขนาดนี้ มามะ มาดูข้อดีกันทีละข้อ เผื่อว่าสาวคนไหนที่กำลังห่อเหี่ยวใจที่แฟนไกลกันจะได้ชื่นใจ พอมีหวังกันอยู่บ้าง
#1 ระยะห่างทำให้เรารักตัวเองเป็น
ถึงจะอยู่ตัวเดียว มีเหงาบ้าง แต่ก็ใช่ว่าจะถึงขั้นอ้างว้าง วังเวง
เรายังมีกิจกรรมอีกมากที่รอเราอยู่ ( เล่น เรียน ไปเที่ยวกับเพื่อน
ทำงานพาร์ทไทม์ ฯลฯ ) เจ๋งจะ ต า ย
ที่เราสามารถทำอะไรได้เองโดยไม่ต้องรอความช่วยเหลือคนอื่น
เป็นคนเก่งสารพัดด้านเพราะฝึกทำอะไรด้วยตัวเองไปหมด
จุดนี้ถือว่าเป็นข้อดีที่แฟนจะภูมิใจมากๆ นะ
ที่เราไม่ต้องมีเรื่องให้กังวลใจอะไรมาก ” ฉันดูแลตัวเองได้ ยังไหวนะ
เธอไม่ต้องคิดมากหรอก แค่คิดถึงกันก็พอ ”
#2 ระยะห่างมันทำให้เราเข้าใจถึงความเชื่อใจและไว้ใจกันเป็นอย่างดี
ถ้าเราเป็นคู่รักที่ใกล้กันมาก ห่างกันแค่ไม่กี่ชั่วโมง หรือไม่กี่วัน
มันก็ต้องมีบ้างละที่เริ่มถามว่า “แน่ะ! จะไปไหน? ไปกับกิ๊กรึเปล่า? ”
ถามกันเล่นๆ ไม่กี่ครั้งมันก็พอเป็นเรื่องสนุก
แต่ถ้าถามมากไปบางทีก็เหมือนชี้โพรงให้กระรอก
ไม่นำไปสู่การทะเลาะกันเพราะไม่เชื่อใจกัน ก็นำไปสู่การมีกิ๊กกันจริงๆ
ในที่สุด
แต่สำหรับคู่รักที่ไกลกัน ถึงแม้จะเหงาบ้าง อาจมีรู้สึกแว้บมาบ้างว่า ”
เขาจะไปทำอะไรไม่ดีรึเปล่า? ” จุดนี้ก็ทำได้แต่ปลงและปล่อยวาง
ถ้ารักกันมากพอ จับมือกันแน่นพอ อย่างไรเสีย
เรื่องที่ไม่ดีก็ไม่เกิดขึ้นหรอก
เราต้องเชื่อใจและไว้ใจกันให้มากในสิ่งที่เราต่างคนต่างก็มองไม่เห็นกัน
พอถึงวันที่ได้ใกล้กันกว่านี้ เขาจะออกไปไหน เราจะไปทำอะไร
เรื่องพวกนี้จะกลายเป็นเรื่องเล็กไปทันทีเลย
#3 ระยะห่างมันทำให้เราต่างคนต่างรู้หน้าที่ของตัวเอง
ถ้าได้อยู่ใกล้กัน หลายคนก็เลือกที่จะเจอกันหน้าทุกวัน
ไปไหนมาไหนด้วยกันทุกวัน จนบางทีก็มีจุดอิ่มตัว เบื่อขี้หน้ากันบ้าง
ทะเลาะกันบ้าง เริ่มก้าวก่ายชีวิตกันบ้าง
ยิ่งสำหรับวัยเรียนแล้วมันไม่โอเคเอาซะเลย ( เดี๋ยวเรียนไม่รู้เรื่องเนาะ
มีแต่เรื่องรักมารังควาน )
แต่พอได้อยู่ไกลกันปุ๊บ!
ช่องว่างระหว่างกันนี่แหละจะทำให้ต่างคนต่างปรับตัวอัตโนมัติเลยว่า ”
เราจะผ่านแต่ละวันด้วยกันได้อย่างไร ” เช่น เดี๋ยวไปเรียนก่อนนะ
แล้วเลิกเรียนจะไลน์หา เดี๋ยวทางนั้นทำงานก่อนนะ
เราก็หาอะไรทำระหว่างที่รอคุยกัน ซึ่งโดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นช่องว่างที่ ”
แฟร์ๆ ” กันดีทั้งสองคนเนอะ ต่างฝ่ายต่างรู้หน้าที่
หาเวลาว่างกันได้เมื่อไหร่ค่อยคุยกัน
ถือว่าเป็นการแยกความรักกับเรื่องส่วนตัวได้เป็นสัดส่วนดีมาก
#4 ทำให้เราเห็นคุณค่าของความรักที่มีมากกว่าเรื่องบนเตียง
” ขอแค่ได้คุยกันก็ชื่นใจแล้ว ” ไอ้เรื่องหวังว่าจะเจอกันน่ะ
ใครก็หวังทั้งนั้นแหละจ้ะ แต่สำหรับรักระยะไกลล่ะก็ …
มันจะมีกระบวนการยับยั้งชั่งใจในเรื่องบนเตียง
เกิดขึ้นมากกว่าคู่รักที่อยู่ใกล้กันซะอีก คืออย่างน้อยก็ช่วยกันคิดว่า
ถ้าทำลงไปแล้วเกิดเลิกกันในตอนหลังมันไม่โอเคหรอกนะที่ต้องทิ้งให้อีกฝ่ายรับผิดชอบคนเดียว
เอาไว้ได้ใกล้กันกว่านี้ดีกว่ามั้ย? ต่างจากคู่รักที่อยู่ใกล้กันทุกวัน
ที่แทบจะแยกไม่ออกเลยว่ารักกับเรื่องบนเตียง คืออะไร
ในเมื่อเห็นหน้ากันตลอด การใกล้ชิดกันมันก็เรื่องธรรมดาหนิ!?!?
#5 เรื่องที่เซอร์ไพรส์กันอยู่ในระดับที่ตื่นเต้นและลุ้นมากกว่าคู่รักใกล้กัน
ที่บอกกันไว้ว่าไม่ว่างจะมาเจอกัน
วันดีคืนดีเขาอาจจะมาดักรอเราที่หอพักก็ได้ หรือที่ทำเป็นแกล้งลืมวันสำคัญ
ก็อาจจะได้ของขวัญเป็นอะไรก็ได้ส่งมาทางไปรษณีย์
มันเหนือความคาดเดากว่าคู่รักใกล้กันที่เราสามารถเดาได้จากพิรุธต่างๆ เช่น
เพื่อนของเราที่รู้เห็นเป็นใจ, พิรุธของเขาที่ผิดสังเกตไปจากเมื่อวาน (
การันตีได้เลยว่า มุกเซอร์ไพรส์ของคนไกลไม่มีวันซ้ำซากให้เราเดาทางได้หรอก
ตื่นเต้นมั้ยล่ะ ^^ )
#6 ทำให้เราเป็นคนมีเป้าหมายร่วมกัน
คู่รักที่อยู่ใกล้กัน เจอหน้ากันทุกวัน ส่วนใหญ่มักจะติดอยู่กับ ”
ความเคยชิน ” จนลืมวางแผนอนาคตร่วมกันว่าจะเอายังไงต่อไปดี
แค่วันนี้ได้คุยกัน เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เจอกันละ งอนกันวันนี้
เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็หายเองแหละ ฯลฯ
แต่ถ้าเป็นคู่รักที่ไกลกันล่ะก็ … อย่างน้อยต้องมีจุดหมายร่วมกันว่า
พรุ่งนี้จะคุยกันกี่โมง? เดี๋ยวจะมาเจอกันอีกทีเดือนไหน?
ตอนที่เจอกันเราจะไปเที่ยวไหนบ้าง?
เราจะวางแผนอย่างไรดีให้มาใกล้กันกว่านี้?
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อสลายความกลัวในสิ่งที่เราต่างคนต่างมองไม่เห็น
คาดเดาไม่ได้ มีความหวังและกำลังใจร่วมกันว่าพรุ่งนี้ต้องดีกว่า
ถือว่าเป็นการฝึกการวางแผนอนาคตร่วมกันก็ไม่ผิดนัก
ความรักไม่ได้ขึ้นกับระยะทาง หากแต่เป็นเรื่องของหัวใจ
อยู่ใกล้กันก็เลิกกันได้ ถ้าใจไม่ตรงกัน
อยู่ไกล คุยกันทุกวันก็เลิกกันได้ ถ้าไม่มีใจให้กันแล้ว
ยังจับมือกันแน่นพอรึเปล่า?
บีบแรงไปมั้ย?
ปล่อยจนหลวมเกินไปมั้ย?
ถามใจตัวเองดีๆ อย่าโทษสิ่งแวดล้อมอื่นนอกจากตัวเรา และหัวใจของเรา