หลายๆคนชอบทานอาหารเหนือ บางครั้งบางทีเป็นคนเหนือแท้ๆแต่พอมาอยู่เมืองกรุงก็ไม่สามารถหาอาหารเหนือรับประทานได้อย่างถูกปากเลย วันนี้เราจึงมีเมนูของอาหารเหนือที่คนในภาคใดๆก็ต่างชอบที่จะรับประทานกันอย่างแน่นอน นั้นก็คือ น้ำพริกอ่อง นั่นเอง
และแน่นอนว่าในวันนี้เราได้มีสูตรน้ำพริกอ่องสูตรเด็ด มาส่งต่อให้กับเพื่อนทุกคนได้ทำตามกัน รับรองว่าใครทำก็อร่อย ใครทำเก่งๆสามารถนำสูตรนี้ไปขายได้เลย
ส่วนผสม และเครื่องปรุงที่ต้องเตรียม
1. หมูสับ 250 กรัม
2. มะเขือเทศลูกใหญ่ 3-4 ลูก
3. พริกแห้งบางช้างหั่นเป็นท่อน (เอาเมล็ดออก แล้วแช่น้ำ 3 เม็ด)
4. ข่า 2 แว่น
5. กะปิปิ้งไฟ หรือถั่วเน่า 1 ช้อนชา
6. หอมแดง 2 หัว
7. กระเทียมกลีบเล็ก 4 กลีบ
8. รากผักชี 2 ราก
9. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
10. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
11. น้ำปลา พอประมาณ
12. น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
13. รสดีรสหมู 1 ช้อนชา
14. ต้นหอมซอย
15. ผักชีซอย
วิธีทำน้ำพริกอ่อง
1. นำต้นหอมผักชีมาซอยรอไว้ และนำมะเขือเทศมาหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ แต่ไม่ต้องซอยเพราะใช้แค่สี่เหลี่ยมเล็กๆก็พอ
2. ในส่วนของเครื่องน้ำพริก ให้นำหอมแดง พริกแห้ง กระเทียม ข่า รากผักชี กะปิหรือถั่วเน่า (ถั่วเน่าบางคนก็ไม่ชอบใส่ ซึ่งเป็นความชอบของแต่ละคน แต่สูตรนี้แนะนำให้ใส่จะได้ครบรสนะจ๊ะ) มาตำให้ละเอียดให้ส่วนผสมต่างๆเข้ากันได้ดี
3. จากนั้นให้เอาหมูสับไปคลุกเคล้ากับส่วนของพริกแกงให้เข้ากัน
4. ใส่มะเขือเทศที่เราหั่นเป็นชิ้นลูกเต๋าเล็กๆที่เตรียมไว้นำไปใส่ในครก คลุกเคล้าให้เข้ากัน แต่อย่าแรงนักเพราะไม่ต้องการให้มะเขือเทศละเอียดมากต้องการมะเขือเทศที่ยังคงความเป็นชิ้นลูกเต๋าอยู่
5. จากนั้นให้ตั้งน้ำมันโดยใช้ไฟปานกลางจนกระทั้งกะทะเริ่มร้อน จึงนำกระเทียมไปผัดให้น้ำมันกับกระเทียมเข้ากันและมีกลิ่นหอมกระเทียม
6. ต่อจากนี้เป็นส่วนสำคัญให้นำหมูที่เคล้าด้วยเครื่องแกงลงไปผัดและตามด้วยรสดีปรุงรสอย่าใช้ไฟแรงมากนักระวังอย่าให้ใหม้ มิฉะนั้นจะส่งกลิ่งเหม็นใหม้ตามรสชาติอาหารมาด้วย
7. จากนั้นใส้น้ำปลาปรุงรส และค่อยๆเคี่ยวใส่มะเขือเทศลงไปให้มะเขือเทศแตกเปื่อย
8. เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ตักใส่พร้อมเสริฟแต่หน้าด้วยการโรยต้นหอมผักชีน่ารับประทาน ยิ่งเสิร์ฟคู่กับผักสด แคบหมู ผักต้ม หรือข้าวร้อนๆ อย่างเหนียวหรือข้าวสวยสักจานอร่อยแน่นอน
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะเป็นขั้นตอนง่ายๆที่เราสามารถทำได้เองที่บ้าน ทำทานกันเองในครอบครัวหรือจะทำขายสร้างเป็นอาชีพก็ยังได้
ขอบคุณข้อมูลจาก : ครัวบ้านพิม, spound