พนง.เก่าแก่ลางานไปดูแลแม่ป่วย โดนปรับ 3 พัน-เถ้าแก่ท้าให้ออก แต่ต่อมาเถ้าแก่กลับต้องเสียเงิน 9 ล้าน!
เรื่องราวของชาวเน็ตท่านหนึ่ง โดยเรื่องราวมีอยู่ว่า.. จางเทียนซี ทำงานที่บริษัทนี้มา 10 ปีแล้ว ถือได้ว่าเป็นคนมีฝีมือมากคนหนึ่ง ลักษณะนิสัยเป็นคนเงียบๆ ซื่อ 10 ปีที่ผ่านมาเขาตั้งใจทำงาน รับผิดชอบ อดทน
เขาช่วยเทรนพนักงานมาแล้วอย่างน้อยสี่รุ่น ตอนนี้เขาเป็นเหมือนกระดูกสันหลังของทีมเทคนิคเรียกง่ายๆว่าตอนนี้พนักงานของทีมผลิตเกือบทั้งหมดโดนฝึกโดยอาจาง ซึ่งมีถึง 3 คนที่ได้ขึ้นไปถึงตำแหน่งรองผู้อำนวยการ อาจางเป็นคนไม่คิดอะไรมาก เอาแค่ฝีมือที่ตนมีสามารถทำงานเลี้ยงดูครอบครัวได้ก็เพียงพอแล้ว
แต่หลังจากวันปีใหม่ ทางตอนใต้หิมะตกหนักมาก แม่ของอาจางล้มป่วย เขาร้อนใจมาก ก็เลยขอลา 3 วันกับเถ้าแก่เพื่อกลับไปดูแม่ ถ้าอาการแม่ดีขึ้น ก็จะรีบกลับมาทำงานทันที เถ้าแก่แสดงความไม่พอใจออกมาทางสีหน้า บอกว่า “คุณทำแบบนี้ทำให้ผมลำบาก อีกไม่กี่วันจะมีลูกค้าใหญ่เถ้าแก่ปิงจะมาดูโรงงาน คุณต้องมาแสดงเทคโนโลยีในการผลิตหลักให้เขาดู แถมออเดอร์ลูกค้ารายนี้ใหญ่มากต้องพึ่งฝีมือคุณ”
แต่อาจางก็ยังตอบกลับไปว่า “เถ้าแก่วางใจ อาลีกับอาหลินที่ผมเป็นคนฝึก ทำได้ทุกอย่าง ไม่มีปัญหาแน่ๆ แม้ว่าพวกเขาจะยังเด็กแต่ก็กระตือรือร้น ครั้งนี้ผมลาแค่ 3 วัน เถ้าแก่ปิงก็อีก 3-4 วันถึงจะมาไม่ใช่หรอครับ ผมน่าจะกลับมาทัน แม่ผมปีนี้ 79 แล้ว แถมไม่ค่อยได้เจอท่าน หลายปีมานี้ ผมไม่ค่อยลา ผมขอล่ะ” แล้วเถ้าแก่ก็เซ็นต์อนุญาตแบบเสียมิได้
อาจางรีบกลับบ้านไปหาแม่ มองเห็นแม่นอนป่วยอยู่บนเตียง ก็รู้สึกผิด และสงสารแม่เป็นอย่างมาก ในช่วงนั้นเถ้าแก่ก็โทรมาหาเขาถึง 3 ครั้ง โดยไม่ถามถึงอาการของแม่เขาสักนิด ทุกครั้งจะแค่ถามว่าเมื่อไหร่อาจางจะกลับมา อาจางทำได้แค่ให้น้องสาวมาดูแลแม่ และเนื่องจากเขาซื้อตั๋วกลับมาวันที่ 3 ไม่ทัน ก็เลยกลับมาช้าไป 1 วัน
ตอนที่อาจางไปถึงโรงงาน เถ้าแก่ปิงก็เข้ามาดูงานแล้ว เถ้าแก่เห็นอาจางกระหืดกระหอบมา ก็ทำหน้าไม่สนใจ รุ่นน้อง 2 คนของอาจางสาธิตและแนะนำงานได้อย่างคล่องแคล่ว ตอนนั้นเองเถ้าแก่ปิงถามว่า จะสามารถพัฒนาเทคนิคนี้ ให้ลดต้นทุนลงอีก 2% ได้มั้ย รุ่นน้อง 2 คนก็บอกว่าได้
เถ้าแก่เองก็รีบตอบว่า : ทำได้ครับ ทำได้ พนักงานช่างเทคนิคของเราเป็นบุคลากรที่มีค่าของบริษัท โรงงานอื่นทำไม่ได้แบบเราหรอกครับ พวกเรารับรองว่าทำได้แน่นอน อาจางได้ยินก็ร้อนใจ คิดในใจ : ถ้าพัฒนาการผลิตไปเป็นแบบนั้น วัตถุดิบอาจจะลดลงไปเล็กน้อย แต่จะกระทบกับกระบวนการผลิตมาก ถ้าแย่มากๆ อาจจะถึงขั้นผลิตภัณฑ์บกพร่อง ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นก็จะขายไม่ได้
อาจางจึงรีบเดินไปข้างหน้า แล้วแย้งว่า : “ถ้าทำแบบนั้นจะไม่ได้… ” โดยไม่รอให้อาจางพูดจบ เถ้าแก่ก็รีบดันเขาออกมา : คุณไม่เข้าใจงานด้านเทคนิค อย่างเข้ามายุ่ง พออาจางโดยไล่ออกมาต่อหน้าคนอื่น แถมโดนหาว่าไม่เข้าใจตัวงาน เขาก็หน้าแดงรู้สึกผิดหวังพอเถ้าแก่ปิงกลับไป เถ้าแก่ก็ระเบิดลง : จางเทียนซี คุณทำอย่างนี้เป็นการจงใจหักหน้า แถมคุณหยุดเลยวันลามา 1 วัน ผมจะหักเงินคุณ 3,000 แล้วก็หักโบนัสอีก 20% อาจางได้ยินก็พูดอะไรไม่ออก รู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว
อาจางเดินตามเถ้าแก่ไปในออฟฟิศ พร้อมขอร้อง : หักโบนัส 20% ผมรับไม่ได้ แม่ผมเพิ่งเข้าโรงพยาบาล เถ้าแก่พูดแบบรำคาญ คุณดูเองละกัน คุณบอกว่าทำไม่ได้ แต่รุ่นน้องคนมีความสามารถมากกว่าคุณแล้ว ถ้าคุณรับไม่ได้ก็ออกไป รุ่นน้องนายทำแทนนายได้ นายออกไปก็มีคนมากมายรอเข้ามาเสียบ
ได้ยินอย่างนั้น อาจางก็เข้าใจ พอมีคนทำงานได้ เถ้าแก่ก็พร้อมจะเตะเขาทิ้ง ตอนแรกเขาคิดว่าจะตั้งใจทำงานที่นี่ไปจนแก่ แต่วันนี้เถ้าแก่ทำให้เขาต้องคิดใหม่
อาจางกลับไปถึงหอพัก ก็โทรหาเถ้าแก่ปิง :ที่เถ้าแก่ผมรับปากว่าจะแก้ทางเทคนิคให้เป็นไปไม่ได้ครับ เพราะมันอาจจะทำให้ผลิตภัณฑ์เสียหาย นึกไม่ถึงว่าเถ้าแก่ปิงจะเชิญอาจางออกมาพบทันที : คุณเองก็เป็นผู้เชี่ยวชาญมานาน ตอนนั้นผมตั้งใจทดสอบเทคโนโลยีของบริษัทและความซื่อสัตย์ คุณพูดถูก ผลิตภัณฑ์อาจจะออกมาผิดพลาด แต่คนทำงานด้านเทคนิคไม่ควรจะพูดไปเรื่อย
เถ้าแก่ปิงบอกอาจางว่า : ผมอยากทำโรงงานของตัว ผลิตผลิตภัณฑ์ของตัวเอง จะได้ไม่ต้องไปสั่งเอาจากบริษัทอื่น คุณมาช่วยผมทำงานมาเป็นผู้จัดการโรงงาน ผมให้รายได้คุณปีละ 2 ล้าน คุณมีความสามารถ คุณเสนอเงินเดือนมาเองก็ได้ ถ้ามันเหมาะสม ผมก็จะโอเค เพราะผมเชื่อใจคุณ
เถ้าแกปิงเป็นคนรอบคอบ : ผมเตรียมโรงงานไว้แล้ว คุณสามารถฟอร์มทีมมาทำงานได้เลย แล้วล็อตนี้มูลค่า 90 กว่าล้าน พวกเราทำกันเอง คุณกลับไปก่อน ไม่ต้องกระโตกกระตาก เตรียมตัวเงียบๆ ได้โบนัสแล้วค่อยออกมา เงินโบนัส 20% ที่คุณโดนหักผมจะเพิ่มให้เอง พอถึงปลายปีอาจางได้รับโบนัส ก็ยื่นใบลาออกทันที
อาจางเข้าไปคุยกับลูกน้องสนิทๆไม่กี่คนเพื่อชวนไปร่วมงาน เถ้าแก่ปิงได้รับของล็อตแรก ก็เชิญให้เถ้าแก่มาลองดู รุ่นน้องสองคนก็คิดว่าตนเองทำผลงานออกมาได้ดี แต่สุดท้ายกลับมีข้อผิดพลาด เถ้าแก่ปิงจึงไม่เซ็นต์รับของ เถ้าแก่ถึงกลับหน้าซีด ล็อตนี้เงิน 9 ล้านบินหายไปต่อหน้า
เถ้าแก่รีบโทรหาอาจาง แต่อาจางไม่พูดอะไร เอาหูโทรศัพท์หันไปทางอื่น ทั้งโรงงานบรรยากาศอึมครึม
เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า มีคนซื่อมากมาย ที่ใช้ฝีมือทำงานเพื่อให้ได้เงินมากินข้าว ถ้าไม่มีพวกเขาเป็นชิ้นส่วนเล็กมารวมกัน หากปราศจากเม็ดรากฐานก็จะไม่แข็งแรง เคารพพวกเขา พวกเขาก็จะตอบแทนคุณ
ขอขอบคุณ : liekr
เรื่องราวของชาวเน็ตท่านหนึ่ง โดยเรื่องราวมีอยู่ว่า.. จางเทียนซี ทำงานที่บริษัทนี้มา 10 ปีแล้ว ถือได้ว่าเป็นคนมีฝีมือมากคนหนึ่ง ลักษณะนิสัยเป็นคนเงียบๆ ซื่อ 10 ปีที่ผ่านมาเขาตั้งใจทำงาน รับผิดชอบ อดทน
เขาช่วยเทรนพนักงานมาแล้วอย่างน้อยสี่รุ่น ตอนนี้เขาเป็นเหมือนกระดูกสันหลังของทีมเทคนิคเรียกง่ายๆว่าตอนนี้พนักงานของทีมผลิตเกือบทั้งหมดโดนฝึกโดยอาจาง ซึ่งมีถึง 3 คนที่ได้ขึ้นไปถึงตำแหน่งรองผู้อำนวยการ อาจางเป็นคนไม่คิดอะไรมาก เอาแค่ฝีมือที่ตนมีสามารถทำงานเลี้ยงดูครอบครัวได้ก็เพียงพอแล้ว
แต่หลังจากวันปีใหม่ ทางตอนใต้หิมะตกหนักมาก แม่ของอาจางล้มป่วย เขาร้อนใจมาก ก็เลยขอลา 3 วันกับเถ้าแก่เพื่อกลับไปดูแม่ ถ้าอาการแม่ดีขึ้น ก็จะรีบกลับมาทำงานทันที เถ้าแก่แสดงความไม่พอใจออกมาทางสีหน้า บอกว่า “คุณทำแบบนี้ทำให้ผมลำบาก อีกไม่กี่วันจะมีลูกค้าใหญ่เถ้าแก่ปิงจะมาดูโรงงาน คุณต้องมาแสดงเทคโนโลยีในการผลิตหลักให้เขาดู แถมออเดอร์ลูกค้ารายนี้ใหญ่มากต้องพึ่งฝีมือคุณ”
แต่อาจางก็ยังตอบกลับไปว่า “เถ้าแก่วางใจ อาลีกับอาหลินที่ผมเป็นคนฝึก ทำได้ทุกอย่าง ไม่มีปัญหาแน่ๆ แม้ว่าพวกเขาจะยังเด็กแต่ก็กระตือรือร้น ครั้งนี้ผมลาแค่ 3 วัน เถ้าแก่ปิงก็อีก 3-4 วันถึงจะมาไม่ใช่หรอครับ ผมน่าจะกลับมาทัน แม่ผมปีนี้ 79 แล้ว แถมไม่ค่อยได้เจอท่าน หลายปีมานี้ ผมไม่ค่อยลา ผมขอล่ะ” แล้วเถ้าแก่ก็เซ็นต์อนุญาตแบบเสียมิได้
อาจางรีบกลับบ้านไปหาแม่ มองเห็นแม่นอนป่วยอยู่บนเตียง ก็รู้สึกผิด และสงสารแม่เป็นอย่างมาก ในช่วงนั้นเถ้าแก่ก็โทรมาหาเขาถึง 3 ครั้ง โดยไม่ถามถึงอาการของแม่เขาสักนิด ทุกครั้งจะแค่ถามว่าเมื่อไหร่อาจางจะกลับมา อาจางทำได้แค่ให้น้องสาวมาดูแลแม่ และเนื่องจากเขาซื้อตั๋วกลับมาวันที่ 3 ไม่ทัน ก็เลยกลับมาช้าไป 1 วัน
ตอนที่อาจางไปถึงโรงงาน เถ้าแก่ปิงก็เข้ามาดูงานแล้ว เถ้าแก่เห็นอาจางกระหืดกระหอบมา ก็ทำหน้าไม่สนใจ รุ่นน้อง 2 คนของอาจางสาธิตและแนะนำงานได้อย่างคล่องแคล่ว ตอนนั้นเองเถ้าแก่ปิงถามว่า จะสามารถพัฒนาเทคนิคนี้ ให้ลดต้นทุนลงอีก 2% ได้มั้ย รุ่นน้อง 2 คนก็บอกว่าได้
เถ้าแก่เองก็รีบตอบว่า : ทำได้ครับ ทำได้ พนักงานช่างเทคนิคของเราเป็นบุคลากรที่มีค่าของบริษัท โรงงานอื่นทำไม่ได้แบบเราหรอกครับ พวกเรารับรองว่าทำได้แน่นอน อาจางได้ยินก็ร้อนใจ คิดในใจ : ถ้าพัฒนาการผลิตไปเป็นแบบนั้น วัตถุดิบอาจจะลดลงไปเล็กน้อย แต่จะกระทบกับกระบวนการผลิตมาก ถ้าแย่มากๆ อาจจะถึงขั้นผลิตภัณฑ์บกพร่อง ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นก็จะขายไม่ได้
อาจางจึงรีบเดินไปข้างหน้า แล้วแย้งว่า : “ถ้าทำแบบนั้นจะไม่ได้… ” โดยไม่รอให้อาจางพูดจบ เถ้าแก่ก็รีบดันเขาออกมา : คุณไม่เข้าใจงานด้านเทคนิค อย่างเข้ามายุ่ง พออาจางโดยไล่ออกมาต่อหน้าคนอื่น แถมโดนหาว่าไม่เข้าใจตัวงาน เขาก็หน้าแดงรู้สึกผิดหวังพอเถ้าแก่ปิงกลับไป เถ้าแก่ก็ระเบิดลง : จางเทียนซี คุณทำอย่างนี้เป็นการจงใจหักหน้า แถมคุณหยุดเลยวันลามา 1 วัน ผมจะหักเงินคุณ 3,000 แล้วก็หักโบนัสอีก 20% อาจางได้ยินก็พูดอะไรไม่ออก รู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว
อาจางเดินตามเถ้าแก่ไปในออฟฟิศ พร้อมขอร้อง : หักโบนัส 20% ผมรับไม่ได้ แม่ผมเพิ่งเข้าโรงพยาบาล เถ้าแก่พูดแบบรำคาญ คุณดูเองละกัน คุณบอกว่าทำไม่ได้ แต่รุ่นน้องคนมีความสามารถมากกว่าคุณแล้ว ถ้าคุณรับไม่ได้ก็ออกไป รุ่นน้องนายทำแทนนายได้ นายออกไปก็มีคนมากมายรอเข้ามาเสียบ
ได้ยินอย่างนั้น อาจางก็เข้าใจ พอมีคนทำงานได้ เถ้าแก่ก็พร้อมจะเตะเขาทิ้ง ตอนแรกเขาคิดว่าจะตั้งใจทำงานที่นี่ไปจนแก่ แต่วันนี้เถ้าแก่ทำให้เขาต้องคิดใหม่
อาจางกลับไปถึงหอพัก ก็โทรหาเถ้าแก่ปิง :ที่เถ้าแก่ผมรับปากว่าจะแก้ทางเทคนิคให้เป็นไปไม่ได้ครับ เพราะมันอาจจะทำให้ผลิตภัณฑ์เสียหาย นึกไม่ถึงว่าเถ้าแก่ปิงจะเชิญอาจางออกมาพบทันที : คุณเองก็เป็นผู้เชี่ยวชาญมานาน ตอนนั้นผมตั้งใจทดสอบเทคโนโลยีของบริษัทและความซื่อสัตย์ คุณพูดถูก ผลิตภัณฑ์อาจจะออกมาผิดพลาด แต่คนทำงานด้านเทคนิคไม่ควรจะพูดไปเรื่อย
เถ้าแก่ปิงบอกอาจางว่า : ผมอยากทำโรงงานของตัว ผลิตผลิตภัณฑ์ของตัวเอง จะได้ไม่ต้องไปสั่งเอาจากบริษัทอื่น คุณมาช่วยผมทำงานมาเป็นผู้จัดการโรงงาน ผมให้รายได้คุณปีละ 2 ล้าน คุณมีความสามารถ คุณเสนอเงินเดือนมาเองก็ได้ ถ้ามันเหมาะสม ผมก็จะโอเค เพราะผมเชื่อใจคุณ
เถ้าแกปิงเป็นคนรอบคอบ : ผมเตรียมโรงงานไว้แล้ว คุณสามารถฟอร์มทีมมาทำงานได้เลย แล้วล็อตนี้มูลค่า 90 กว่าล้าน พวกเราทำกันเอง คุณกลับไปก่อน ไม่ต้องกระโตกกระตาก เตรียมตัวเงียบๆ ได้โบนัสแล้วค่อยออกมา เงินโบนัส 20% ที่คุณโดนหักผมจะเพิ่มให้เอง พอถึงปลายปีอาจางได้รับโบนัส ก็ยื่นใบลาออกทันที
อาจางเข้าไปคุยกับลูกน้องสนิทๆไม่กี่คนเพื่อชวนไปร่วมงาน เถ้าแก่ปิงได้รับของล็อตแรก ก็เชิญให้เถ้าแก่มาลองดู รุ่นน้องสองคนก็คิดว่าตนเองทำผลงานออกมาได้ดี แต่สุดท้ายกลับมีข้อผิดพลาด เถ้าแก่ปิงจึงไม่เซ็นต์รับของ เถ้าแก่ถึงกลับหน้าซีด ล็อตนี้เงิน 9 ล้านบินหายไปต่อหน้า
เถ้าแก่รีบโทรหาอาจาง แต่อาจางไม่พูดอะไร เอาหูโทรศัพท์หันไปทางอื่น ทั้งโรงงานบรรยากาศอึมครึม
เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า มีคนซื่อมากมาย ที่ใช้ฝีมือทำงานเพื่อให้ได้เงินมากินข้าว ถ้าไม่มีพวกเขาเป็นชิ้นส่วนเล็กมารวมกัน หากปราศจากเม็ดรากฐานก็จะไม่แข็งแรง เคารพพวกเขา พวกเขาก็จะตอบแทนคุณ
ขอขอบคุณ : liekr