รักษาส้นเท้าแตก..ด้วยวิธีที่แสนง่ายและเห็นผลชัวร์!
ส้นเท้าแตก อีกหนึ่งปัญหาปวดหัวที่สร้างความรำคาญใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่กำลังเจอกับปัญหาส้นเท้าแตกแห้ง เป็นลายแผนที่โลก อย่ามัวนิ่งนอนใจอยู่เลยค่ะ รีบมาหางทางรักษากันดีกว่า ไม่ควรปล่อยให้ลุกลาม เพราะมันจะทำ ทำให้เท้าหมดคุณความสวยงาม และที่สำคัญคือทำให้ขาดความมั่นใจ แต่อย่าเพิ่งเครียดกันค่ะ วันนี้เราจึงจะพาเพื่อนๆมายุติกับปัญหานี้ จึงขออนุญาตนำวิธีแก้ส้นเท้าแตกมาฝากค่ะ ถ้าพร้อมแล้ว.. ไปดูกันเลยค่า
ส้นเท้าแตกคืออะไร
ส้นเท้าแตกเป็นภาวะที่หนังกำพร้าบริเวณส้นเท้าขาดความชุ่มชื้น แห้ง แตกลายงา เพราะส้นเท้านั้นเป็นบริเวณที่ค่อนข้างหนาและต้องรับน้ำหนักตัวของเรา แถมต้องใช้งานเกือบตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะในคนอ้วนมักประสบพบเจอภาวะส้นเท้าแตกได้ง่ายกว่าคนผอม รวมทั้งผู้ที่ชอบเดินเท้าเปล่าไม่ใส่รองเท้าไปย่ำกับพื้นแข็งๆ ตลอดจนกรรมพันธุ์ก็เป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะส้นเท้าแตกได้เช่นเดียวกัน
อาการของส้นเท้าแตก
ในระยะแรกนั้นส้นเท้ามักจะเริ่มบวมแดง เมื่อปล่อยทิ้งไว้นานเข้าก็จะเริ่มแตกเป็นรอยเล็กๆ และเริ่มมีร่องลึก หรืออาจถึงขั้นแตกเป็นรอยเลือดและแสบจนเดินไปไหนไม่ได้เลยทีเดียว ดังนั้น อย่าได้นิ่งนอนใจคิดว่าเป็นเพียงเรื่องเล็กๆกับอาการส้นเท้าแตก เพราะหากปล่อยไว้เนิ่นนานจะสร้างความทรมานบั่นทอนจิตใจได้
สาเหตุของส้นเท้าแตกกันเถอะ!!
1. สภาพอากาศ สภาพอากาศที่แห้ง ทำให้ส้นเท้าแตกได้ง่าย
2. น้ำ การแช่เท้าในน้ำเป็นเวลานาน ส่งผลให้ผิวหนังขาดสมดุล เหี่ยว และแตกได้ง่าย
3. อายุ เนื่องจากอายุที่มากขึ้น ส่งผลให้ผิวขาดความชุ่มชื้น เป็นสาเหตุหนึ่งของส้นเท้าแตก
4.ส้นเท้ารับน้ำหนักมากเกินไป เนื่องจากการทิ้งน้ำหนักลงที่ส้นเท้าบ่อยๆ หรือน้ำหนักตัวที่เยอะเกินไป
5.เกิดจากโรคบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน
วิธีการรักษาเท้าแตก
1. มะนาว
นำน้ำมะนาวมาผสมกับน้ำสะอาด จากนั้นแช่เท้าทิ้งไว้สักพัก จะช่วยให้คืนความชุ่มชื้นให้เท้าได้
2. เปลือกกล้วย
นำเปลือกกล้วยมาถูบริเวณส้นเท้าที่แตก จากนั้นทิ้งไว้เป็นเวลา 10 – 15 นาที จะช่วยสมานส้นเท้าแตกได้
3. น้ำอุ่น
เพียงแช่เท้าในน้ำอุ่นที่ผสมน้ำส้มสายชูและน้ำยาบ้วนปากเล็กน้อย โยแช่ทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาที อาการส้นเท้าแตกก็บรรเทาลงได้
4. วาสลีน
นำวาสลีนมาทาให้ทั่วบริเวณส้นเท้าที่แตกอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยคืนความชุ่มชื่นให้กับผิว และอาการส้นเท้าแตกก็จะค่อยๆจางลง
5. น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันงา
สามารถช่วยรักษาส้นเท้าแตกได้อย่างรวดเร็ว เพียงนำน้ำมันมานวดบริเวณเท้าประมาณ 15-20 นาที โดยไม่ต้องล้างออก
6. ยางมะละกอ
โดยนำเอายางมะละกอสดมาทาบริเวณส้นเท้าแตกก่อนนอนทุกคืน ส้นเท้าที่แตกจะค่อยๆ จางหายไป
7.ยางของต้นรัก
นำยางของต้นรักมาทาส้นเท้าที่แตกทุกวัน เค้าว่าประมาณ 1-2 อาทิตย์ จะเห็นผลค่ะ
8. สารส้ม
ต้องเป็นสารส้มอย่างดี นำมาผสมน้ำแล้วเอาสำลีชุบถูตามที่แตก ทิ้งไว้นานๆ ส้นเท้าที่แตกก็ดีขึ้น
9.ขัดส้นเท้าตอนอาบน้ำ
ในขณะที่เราอาบน้ำ ให้เอาสบู่มาขัดส้นเท้า ถ้าเป็นไปได้ให้ใช้สบู่ลายค่ะ เมื่อถูสบู่เสร็จแล้ว ก็ให้เอาแปรงมาขัดได้เลย ทำแบบนี้ทุกครั้งที่อาบน้ำ แล้วหลัจากอาบน้ำเสร็จ ให้ทาด้วยโลชั่นที่ใช้ทาผิวนั่นแหล่ะค่ะ รับรองว่าได้ผลแน่นอน
10. ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย
ร่างกายของเรานั้น มีความต้องการน้ำในปริมาณที่เหมาะสมอยู่ทุกวัน เพื่อที่จะให้อวัยวะและระบบต่างๆ ของร่างกายนั้น เป็นไปอย่างปกติ ดังนั้นการที่เราดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ก็จะช่วยให้เท้าของเราไม่แห้ง มีความชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา
วิธีป้องกันส้นเท้าแตก
1.ควรใส่รองเท้าหรือถุงเท้าเป็นประจำ นอกจากช่วยปกปิดส้นเท้าไม่ให้คราบสกปรกสะสมแล้ว ยังช่วยลดการสูญเสียน้ำจากผิวหนังได้
2. ทำความสะอาดเท้าพอสมควร อย่าใช้สบู่แช่น้ำนานๆ ผิวเท้าที่แตกแห้งจะยิ่งอาการหนักมากขึ้น
3. หลังทำความสะอาดโดยการขัดหรือแปรง ควรทาครีมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นทุกครั้ง ทางที่ดี ควรใส่รองเท้าปิดส้นจนกว่าผิวจะปกติ
4. ถ้าเป็นร่องลึกเจ็บ อาจปิดร่องด้วยกาวตราช้างเพื่อทุเลาอาการเจ็บ กาวจะหลุดออกเองภายหลัง
5. ควรลดน้ำหนัก (หากอ้วนมีน้ำหนักเยอะ หรือน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ส้นเท้าต้องรับน้ำหนักมาก จึงทำให้ส้นเท้าแตกได้
6. เมื่ออยู่ในบ้าน ก็ควรใส่ถุงเท้าหรือรองเท้าหุ้มส้น เพื่อช่วยทุเลาอาการส้นเท้าแตก
เราจะเห็นว่าไม่ยากเลยใช่มั๊ยคะ..สำหรับวิธีรักษาส้นเท้าแตกที่สุดแสนจะง่ายและได้ผล เราสามารถทำเองได้ที่บ้าน ไข่เจียว.com อยากให้ทุกคนลองทำกันนะคะ เพื่อขจัดปัญหารอยแตกที่กวนใจ พิชิตเท้านุ่มชุ่มชื้น สวยสุขภาพดี
ปล.เมื่อรอยแตกหายดีแล้ว ก็ควรป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นอีกด้วยนะจ๊ะ เพราะหากส้นเท้าแตกก็อาจส่งผลให้คุณเสียบุคคลิกภาพอย่างมาก ดังนั้น การป้องกันส้นเท้าแตกก็ควรเป็นเรื่องที่ทุกคนควรใส่ใจนะคะ
ส้นเท้าแตก อีกหนึ่งปัญหาปวดหัวที่สร้างความรำคาญใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่กำลังเจอกับปัญหาส้นเท้าแตกแห้ง เป็นลายแผนที่โลก อย่ามัวนิ่งนอนใจอยู่เลยค่ะ รีบมาหางทางรักษากันดีกว่า ไม่ควรปล่อยให้ลุกลาม เพราะมันจะทำ ทำให้เท้าหมดคุณความสวยงาม และที่สำคัญคือทำให้ขาดความมั่นใจ แต่อย่าเพิ่งเครียดกันค่ะ วันนี้เราจึงจะพาเพื่อนๆมายุติกับปัญหานี้ จึงขออนุญาตนำวิธีแก้ส้นเท้าแตกมาฝากค่ะ ถ้าพร้อมแล้ว.. ไปดูกันเลยค่า
ส้นเท้าแตกคืออะไร
ส้นเท้าแตกเป็นภาวะที่หนังกำพร้าบริเวณส้นเท้าขาดความชุ่มชื้น แห้ง แตกลายงา เพราะส้นเท้านั้นเป็นบริเวณที่ค่อนข้างหนาและต้องรับน้ำหนักตัวของเรา แถมต้องใช้งานเกือบตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะในคนอ้วนมักประสบพบเจอภาวะส้นเท้าแตกได้ง่ายกว่าคนผอม รวมทั้งผู้ที่ชอบเดินเท้าเปล่าไม่ใส่รองเท้าไปย่ำกับพื้นแข็งๆ ตลอดจนกรรมพันธุ์ก็เป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะส้นเท้าแตกได้เช่นเดียวกัน
อาการของส้นเท้าแตก
ในระยะแรกนั้นส้นเท้ามักจะเริ่มบวมแดง เมื่อปล่อยทิ้งไว้นานเข้าก็จะเริ่มแตกเป็นรอยเล็กๆ และเริ่มมีร่องลึก หรืออาจถึงขั้นแตกเป็นรอยเลือดและแสบจนเดินไปไหนไม่ได้เลยทีเดียว ดังนั้น อย่าได้นิ่งนอนใจคิดว่าเป็นเพียงเรื่องเล็กๆกับอาการส้นเท้าแตก เพราะหากปล่อยไว้เนิ่นนานจะสร้างความทรมานบั่นทอนจิตใจได้
สาเหตุของส้นเท้าแตกกันเถอะ!!
1. สภาพอากาศ สภาพอากาศที่แห้ง ทำให้ส้นเท้าแตกได้ง่าย
2. น้ำ การแช่เท้าในน้ำเป็นเวลานาน ส่งผลให้ผิวหนังขาดสมดุล เหี่ยว และแตกได้ง่าย
3. อายุ เนื่องจากอายุที่มากขึ้น ส่งผลให้ผิวขาดความชุ่มชื้น เป็นสาเหตุหนึ่งของส้นเท้าแตก
4.ส้นเท้ารับน้ำหนักมากเกินไป เนื่องจากการทิ้งน้ำหนักลงที่ส้นเท้าบ่อยๆ หรือน้ำหนักตัวที่เยอะเกินไป
5.เกิดจากโรคบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน
วิธีการรักษาเท้าแตก
1. มะนาว
นำน้ำมะนาวมาผสมกับน้ำสะอาด จากนั้นแช่เท้าทิ้งไว้สักพัก จะช่วยให้คืนความชุ่มชื้นให้เท้าได้
2. เปลือกกล้วย
นำเปลือกกล้วยมาถูบริเวณส้นเท้าที่แตก จากนั้นทิ้งไว้เป็นเวลา 10 – 15 นาที จะช่วยสมานส้นเท้าแตกได้
3. น้ำอุ่น
เพียงแช่เท้าในน้ำอุ่นที่ผสมน้ำส้มสายชูและน้ำยาบ้วนปากเล็กน้อย โยแช่ทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาที อาการส้นเท้าแตกก็บรรเทาลงได้
4. วาสลีน
นำวาสลีนมาทาให้ทั่วบริเวณส้นเท้าที่แตกอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยคืนความชุ่มชื่นให้กับผิว และอาการส้นเท้าแตกก็จะค่อยๆจางลง
5. น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันงา
สามารถช่วยรักษาส้นเท้าแตกได้อย่างรวดเร็ว เพียงนำน้ำมันมานวดบริเวณเท้าประมาณ 15-20 นาที โดยไม่ต้องล้างออก
6. ยางมะละกอ
โดยนำเอายางมะละกอสดมาทาบริเวณส้นเท้าแตกก่อนนอนทุกคืน ส้นเท้าที่แตกจะค่อยๆ จางหายไป
7.ยางของต้นรัก
นำยางของต้นรักมาทาส้นเท้าที่แตกทุกวัน เค้าว่าประมาณ 1-2 อาทิตย์ จะเห็นผลค่ะ
8. สารส้ม
ต้องเป็นสารส้มอย่างดี นำมาผสมน้ำแล้วเอาสำลีชุบถูตามที่แตก ทิ้งไว้นานๆ ส้นเท้าที่แตกก็ดีขึ้น
9.ขัดส้นเท้าตอนอาบน้ำ
ในขณะที่เราอาบน้ำ ให้เอาสบู่มาขัดส้นเท้า ถ้าเป็นไปได้ให้ใช้สบู่ลายค่ะ เมื่อถูสบู่เสร็จแล้ว ก็ให้เอาแปรงมาขัดได้เลย ทำแบบนี้ทุกครั้งที่อาบน้ำ แล้วหลัจากอาบน้ำเสร็จ ให้ทาด้วยโลชั่นที่ใช้ทาผิวนั่นแหล่ะค่ะ รับรองว่าได้ผลแน่นอน
10. ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย
ร่างกายของเรานั้น มีความต้องการน้ำในปริมาณที่เหมาะสมอยู่ทุกวัน เพื่อที่จะให้อวัยวะและระบบต่างๆ ของร่างกายนั้น เป็นไปอย่างปกติ ดังนั้นการที่เราดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ก็จะช่วยให้เท้าของเราไม่แห้ง มีความชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา
วิธีป้องกันส้นเท้าแตก
1.ควรใส่รองเท้าหรือถุงเท้าเป็นประจำ นอกจากช่วยปกปิดส้นเท้าไม่ให้คราบสกปรกสะสมแล้ว ยังช่วยลดการสูญเสียน้ำจากผิวหนังได้
2. ทำความสะอาดเท้าพอสมควร อย่าใช้สบู่แช่น้ำนานๆ ผิวเท้าที่แตกแห้งจะยิ่งอาการหนักมากขึ้น
3. หลังทำความสะอาดโดยการขัดหรือแปรง ควรทาครีมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นทุกครั้ง ทางที่ดี ควรใส่รองเท้าปิดส้นจนกว่าผิวจะปกติ
4. ถ้าเป็นร่องลึกเจ็บ อาจปิดร่องด้วยกาวตราช้างเพื่อทุเลาอาการเจ็บ กาวจะหลุดออกเองภายหลัง
5. ควรลดน้ำหนัก (หากอ้วนมีน้ำหนักเยอะ หรือน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ส้นเท้าต้องรับน้ำหนักมาก จึงทำให้ส้นเท้าแตกได้
6. เมื่ออยู่ในบ้าน ก็ควรใส่ถุงเท้าหรือรองเท้าหุ้มส้น เพื่อช่วยทุเลาอาการส้นเท้าแตก
เราจะเห็นว่าไม่ยากเลยใช่มั๊ยคะ..สำหรับวิธีรักษาส้นเท้าแตกที่สุดแสนจะง่ายและได้ผล เราสามารถทำเองได้ที่บ้าน ไข่เจียว.com อยากให้ทุกคนลองทำกันนะคะ เพื่อขจัดปัญหารอยแตกที่กวนใจ พิชิตเท้านุ่มชุ่มชื้น สวยสุขภาพดี
ปล.เมื่อรอยแตกหายดีแล้ว ก็ควรป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นอีกด้วยนะจ๊ะ เพราะหากส้นเท้าแตกก็อาจส่งผลให้คุณเสียบุคคลิกภาพอย่างมาก ดังนั้น การป้องกันส้นเท้าแตกก็ควรเป็นเรื่องที่ทุกคนควรใส่ใจนะคะ