แบบนี้คือท้อง! 9 สัญญาณจากร่างกายบ่งบอกว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ คุณมีอาการแบบนี้มั้ย
บางครั้งร่างกายของสาว ๆ ก็อาจจะแยกได้ไม่ชัดเจนมากนักกับอาการตั้งท้อง อย่างที่หลายคนอาจจะเคยเห็นคนที่ท้องไม่รู้ตัวมาแล้ว เพราะบางครั้งบางทีอาการเหล่านั้นก็ไม่ได้รุนแรงหรือชัดเจนจนเราสามารถสังเกตได้ว่าตั้งท้องอยู่หรือเปล่า แต่หากคุณมี 9 สัญญาณจากร่างกายนี้ อาจจะหมายความว่าคุณตั้งท้องอยู่ก็ได้
1. ประจำเดือนขาดหาย
หากคุณพบว่าประจำเดือนมาไม่ปกติ ไม่ตรงกับรอบเดือนทีเคยมาเป็นประจำ หรือไม่ก็อาจจะขาดหายไปเป็นเดือน ๆ นั่นแสดงว่าคุณอาจกำลังตั้งครรภ์อ่อน ๆ อยู่ เพราะหลังจากที่มีการปฏิสนธิแล้ว ประจำเดือนของผู้หญิงจะขาดหายไป
2. คลื่นไส้ อาเจียน
เป็นอาการที่พบบ่อยมาสำหรับคนที่กำลังตั้งครรภ์ การคลื่นไส้อาเจียนมักเกิดขึ้นหลังจากที่ตัวอ่อนปฏิสนธิได้ 1 เดือน คุณแม่บางคนอาจแพ้ท้องเร็วกว่านั้น หรือบางคนก็อาจโชคดีไม่แพ้ท้องเลย
3. รู้สึกเหม็นแบบผิดปกติ
ผลเกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจนที่เพิ่มขึ้น ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์จะกลายเป็นคนที่จมูกไวต่อกลิ่นต่าง ๆ ทำให้รู้สึกเหม็นโน้น เหม็นนี่ง่ายกว่าคนปกติ บางครั้งก็เป็นกลิ่นที่คุ้นเคยแต่ก็ยังเหม็นได้
4. หน้าอดบวมและเจ็บ
หน้าอกของผู้หญิงที่เริ่มตั้งครรภ์อาจจะบวมในระยะแรก เพราะมีเลือดไปเลี้ยงบริเวณนั้นมากขึ้น จะรู้สึกเจ็บแปลบ ๆ ร่วมด้วย และไวต่อความรู้สึกสัมผัส
5. เหนื่อยล้าง่าย
บางครั้งอาจรู้สึกเหนื่อยล้าง่าย ๆ ทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย รู้สึกง่วงเหงาหาวนอนตลอดเวลา เพราะเป็นผลจากฮอร์โมนโปรเจสเตอร์โรนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
6. มีเลือดออกทางช่องคลอด
ผู้หญิงบางคนที่ตั้งครรภ์นระยะแรก ๆ อาจจะมีเลือดไหลออกมาทางช่องคลอด อาการนี้มักเกิดขึ้นหลังการปฏิสนธิของตัวอ่อนได้ 11-12 วัน ลักษณะเลือดที่ไหลออกมาจะมีสีแดงหรือชมพูจาง ๆ แต่หากพบว่ามีอาการปสดท้องหน่วง ๆ และมีเลือดไหลออกมามาก ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
7. ท้องป่อง
แรก ๆ อาจจะยังสังเกตได้ไม่ชัดเจนนักในบริเวณหน้าท้อง แต่จะรู้สึกตัวบวม เอวกางเกงคับแน่
8. ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ
เป็นเรื่องปกติสำหรับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะร่างกายจะผลิตเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ มากขึ้น ทำให้ไตขับของเสียในรูปของเหลวมากตามไปด้วยนั่นเอง
9. มีอาการท้องผูก
สาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย เมื่อมีการตั้งครรภ์จะทำให้การบีบตัวของลำไส้เล็กลง มดลูกอาจไปทับลำไส้ใหญ่ จนเกิดอาการท้องผูก การแก้ไขคือพยายามทานอาหารที่มีกากใยสูงดื่มน้ำมาก ๆ และออกกำลังกายเบา ๆ จะช่วยแก้อาการท้องผูกได้
เมื่อเริ่มรู้สึกว่าตัวเองอาจจะกำลังตั้งครรภ์ สิ่งที่ต้องคำนึงเป็นอันดับแรกคือเรื่องสุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกินที่ต้องเลือกให้มากเป็นพิเศษ เพราะมีส่วนส่งผลโดยตรงกับลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์ แนะนำให้ทานพวกโปรตีน ธาตุเหล็ก และแคลเซียม
ข้อมูลจาก http://www.gangbeauty.com/topic/108552
บางครั้งร่างกายของสาว ๆ ก็อาจจะแยกได้ไม่ชัดเจนมากนักกับอาการตั้งท้อง อย่างที่หลายคนอาจจะเคยเห็นคนที่ท้องไม่รู้ตัวมาแล้ว เพราะบางครั้งบางทีอาการเหล่านั้นก็ไม่ได้รุนแรงหรือชัดเจนจนเราสามารถสังเกตได้ว่าตั้งท้องอยู่หรือเปล่า แต่หากคุณมี 9 สัญญาณจากร่างกายนี้ อาจจะหมายความว่าคุณตั้งท้องอยู่ก็ได้
1. ประจำเดือนขาดหาย
หากคุณพบว่าประจำเดือนมาไม่ปกติ ไม่ตรงกับรอบเดือนทีเคยมาเป็นประจำ หรือไม่ก็อาจจะขาดหายไปเป็นเดือน ๆ นั่นแสดงว่าคุณอาจกำลังตั้งครรภ์อ่อน ๆ อยู่ เพราะหลังจากที่มีการปฏิสนธิแล้ว ประจำเดือนของผู้หญิงจะขาดหายไป
2. คลื่นไส้ อาเจียน
เป็นอาการที่พบบ่อยมาสำหรับคนที่กำลังตั้งครรภ์ การคลื่นไส้อาเจียนมักเกิดขึ้นหลังจากที่ตัวอ่อนปฏิสนธิได้ 1 เดือน คุณแม่บางคนอาจแพ้ท้องเร็วกว่านั้น หรือบางคนก็อาจโชคดีไม่แพ้ท้องเลย
3. รู้สึกเหม็นแบบผิดปกติ
ผลเกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจนที่เพิ่มขึ้น ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์จะกลายเป็นคนที่จมูกไวต่อกลิ่นต่าง ๆ ทำให้รู้สึกเหม็นโน้น เหม็นนี่ง่ายกว่าคนปกติ บางครั้งก็เป็นกลิ่นที่คุ้นเคยแต่ก็ยังเหม็นได้
4. หน้าอดบวมและเจ็บ
หน้าอกของผู้หญิงที่เริ่มตั้งครรภ์อาจจะบวมในระยะแรก เพราะมีเลือดไปเลี้ยงบริเวณนั้นมากขึ้น จะรู้สึกเจ็บแปลบ ๆ ร่วมด้วย และไวต่อความรู้สึกสัมผัส
5. เหนื่อยล้าง่าย
บางครั้งอาจรู้สึกเหนื่อยล้าง่าย ๆ ทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย รู้สึกง่วงเหงาหาวนอนตลอดเวลา เพราะเป็นผลจากฮอร์โมนโปรเจสเตอร์โรนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
6. มีเลือดออกทางช่องคลอด
ผู้หญิงบางคนที่ตั้งครรภ์นระยะแรก ๆ อาจจะมีเลือดไหลออกมาทางช่องคลอด อาการนี้มักเกิดขึ้นหลังการปฏิสนธิของตัวอ่อนได้ 11-12 วัน ลักษณะเลือดที่ไหลออกมาจะมีสีแดงหรือชมพูจาง ๆ แต่หากพบว่ามีอาการปสดท้องหน่วง ๆ และมีเลือดไหลออกมามาก ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
7. ท้องป่อง
แรก ๆ อาจจะยังสังเกตได้ไม่ชัดเจนนักในบริเวณหน้าท้อง แต่จะรู้สึกตัวบวม เอวกางเกงคับแน่
8. ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ
เป็นเรื่องปกติสำหรับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะร่างกายจะผลิตเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ มากขึ้น ทำให้ไตขับของเสียในรูปของเหลวมากตามไปด้วยนั่นเอง
9. มีอาการท้องผูก
สาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย เมื่อมีการตั้งครรภ์จะทำให้การบีบตัวของลำไส้เล็กลง มดลูกอาจไปทับลำไส้ใหญ่ จนเกิดอาการท้องผูก การแก้ไขคือพยายามทานอาหารที่มีกากใยสูงดื่มน้ำมาก ๆ และออกกำลังกายเบา ๆ จะช่วยแก้อาการท้องผูกได้
เมื่อเริ่มรู้สึกว่าตัวเองอาจจะกำลังตั้งครรภ์ สิ่งที่ต้องคำนึงเป็นอันดับแรกคือเรื่องสุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกินที่ต้องเลือกให้มากเป็นพิเศษ เพราะมีส่วนส่งผลโดยตรงกับลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์ แนะนำให้ทานพวกโปรตีน ธาตุเหล็ก และแคลเซียม
ข้อมูลจาก http://www.gangbeauty.com/topic/108552