7 วิธีโกนหนวดแบบผิด ๆ ที่อาจทำให้ผิวหน้าของคุณพังได้โดยไม่รู้ตัว มาดูกันว่าวิธีโกนหนวดแบบไหนที่ควรหลีกเลี่ยงและควรทำบ้าง
ขึ้นชื่อว่าผู้ชาย ก็ย่อมมีหนวดเคราขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา หนุ่ม ๆ บางคนก็ชอบที่จะไว้หนวดไว้เคราเพิ่มความขรึม แต่สำหรับใครที่อยากให้ใบหน้าดูเกลี้ยงเกลา สะอาดสะอ้าน ก็ต้องหมั่นโกนหนวดอยู่เป็นประจำ แต่การโกนหนวดก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุโดนใบมีดบาดโดยไม่รู้ตัว แถมดีไม่ดีวิธีโกนหนวด ที่คุณใช้อยู่ทุกวันนี้ อาจเป็นวิธีผิด ๆ ที่ยิ่งทำร้ายผิวหน้าให้พังมากกว่าเดิมก็เป็นได้
วันนี้กระปุกดอทคอมเลยได้นำวิธีโกนหนวดแบบผิด ๆ ทั้ง 7
วิธีที่คุณเองอาจทำอยู่ พร้อมวิธีโกนหนวดอย่างถูกต้องมาฝากเพื่อน ๆ
ทุกคนแล้ว จะได้เลิกทำแบบผิด ๆ เสียที มาดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีวิธีใดบ้าง
1. ไม่เตรียมผิวหน้าก่อนโกนหนวด
หนุ่ม ๆ บางคนก็รีบโกนหนวด จนแทบไม่มีเวลาล้างหน้ากันเลย โกนทั้งแห้ง ๆ ไปแบบนั้น ซึ่งขอบอกเลยว่าเป็นวิธีที่ผิดมหันต์ เพราะนอกจากจะโกนหนวดยากแล้ว ยังระคายเคืองผิวง่ายอีกด้วย ทางที่ดีควรล้างหน้าก่อน แล้วใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น มาวางบนหนวดเครา เพื่อทำให้รูขุมขนเปิด จะได้โกนหนวดได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องโกนซ้ำที่เดิมหลาย ๆ รอบนั่นเองครับ
2. โกนหนวดย้อนแนวขน
คุณผู้ชายหลายคนนิยมโกนหนวดย้อนแนวขน เพราะรู้สึกว่าโกนหนวดได้เกลี้ยงเกลามากกว่า แต่ความจริงแล้ว การโกนหนวดด้วยวิธีนี้ จะยิ่งทำให้ผิวหน้าระคายเคือง และอาจทำให้รูขุมขนอักเสบ เกิดขนคุด และทำให้เกิดสิวได้ง่ายอีกด้วย อย่างไรแล้วให้เปลี่ยนมาโกนหนวดตามแนวเส้นขนจะเป็นวิธีที่ถูกต้องและดีที่สุดครับ
3. ใช้มีดโกนที่ไม่คม
การใช้มีดโกนหนวดที่ไม่คม ทำให้ต้องออกแรงโกนมากขึ้น และต้องโกนซ้ำที่เดิมอีกหลายครั้ง เสี่ยงต่อการโดนมีดบาด แถมยังทำให้ผิวหน้าระคายเคืองอีกต่างหาก ดังนั้นจึงควรใช้มีดโกนหนวดที่มีสภาพดี โดยควรเปลี่ยนหลังจากใช้ไปแล้วอย่างน้อย 5-7 ครั้ง หรือแล้วแต่สภาพใบมีด ขึ้นอยู่กับความถี่ที่โกน ซึ่งมีดโกนหนึ่งชิ้น ไม่ควรใช้นานกว่า 2 สัปดาห์ครับ
4. ไม่ใช้ครีมโกนหนวด
หลายคนอาจคิดว่าครีมโกนหนวดเป็นของที่สิ้นเปลืองและไม่มีความจำเป็นต้องใช้ก็ได้ ซึ่งจริง ๆ แล้วขอบอกเลยว่า ครีมโกนหนวดก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้มีดโกนหนวดเลยล่ะ เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยป้องกันการเกิดบาดแผลและการระคายเคืองจากการโกนได้เป็นอย่างดี ยังไงแล้วก็ลองหาครีมโกนหนวดดี ๆ สักอันมาใช้ นอกจากจะช่วยให้โกนหนวดได้เกลี้ยงเกลาแล้ว ยังบำรุงผิวหน้าให้เนียนนุ่มชุ่มชื่นอีกด้วย
5. กดมีดโกนหนวดแรง ๆ
หนุ่ม ๆ หลายคนก็มีความเชื่อว่า ยิ่งกดมีดโกนหนวดให้ชิดกับผิวหน้าแรงเท่าไร จะทำให้โกนหนวดได้เกลี้ยงขึ้น ซึ่งความจริงแล้ว ไม่ได้ช่วยให้โกนหนวดเกลี้ยงขึ้นกว่าเดิมเท่าไรนัก หนำซ้ำยังทำให้หน้าของคุณระคายเคือง เกิดแผลได้ง่าย แถมยังเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้อีกด้วย ทางที่ดี ค่อย ๆ โกนหนวดอย่างเบามือจะดีกว่าครับ
6. โกนหนวดแค่บริเวณใบหน้า
บางคนคิดว่าโกนหนวดแค่บริเวณหน้าก็เพียงพอแล้ว ทั้งที่ความจริงยังมีหนวดขึ้นอยู่บริเวณใต้คางและลำคอ ซึ่งเป็นอีกจุดที่ควรดูแลด้วยเช่นกัน โดยเริ่มโกนจากบริเวณด้านล่างสุดแล้วไล่ขึ้นไปจนถึงปลายคาง เพื่อป้องกันการเกิดมีดบาดและเกิดขนคุดนั่นเอง
7. ไม่ได้ทาอาฟเตอร์เชฟ
หลังโกนหนวดแล้วอย่าปล่อยให้หน้าแห้งเฉย ๆ แต่ควรทาอาฟเตอร์เชฟ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้บำรุงผิวหน้าหลังโกนหนวด ทั้งนี้เพราะผิวหน้าหลังโกนหนวดอาจเกิดแผลเล็ก ๆ ที่มองไม่เห็น ซึ่งง่ายต่อการติดเชื้อหรืออักเสบ ซึ่งการทาอาฟเตอร์เซฟจะช่วยฆ่าเชื้อ ช่วยลดรอยแดง และอาการระคายเคืองบนผิวหน้า ทั้งช่วยกระชับรูขุมขน และบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื้นอีกด้วย
หากคุณรู้ตัวว่ายังโกนหนวดแบบผิด ๆ เหมือนข้อไหนอยู่ละก็ ให้ยกเลิกและเปลี่ยนมาใช้วิธีที่ถูกต้องที่เราได้แนะนำไปนะครับ เพื่อผิวหน้าที่มีสุขภาพดี ดูหล่อเหลา และเกลี้ยงเกลาได้โดยไม่ต้องกังวลว่าหน้าจะพังเลยล่ะ...
ข้อมูลจาก : bodyandsoul.com.au, mensjournal.com
ขึ้นชื่อว่าผู้ชาย ก็ย่อมมีหนวดเคราขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา หนุ่ม ๆ บางคนก็ชอบที่จะไว้หนวดไว้เคราเพิ่มความขรึม แต่สำหรับใครที่อยากให้ใบหน้าดูเกลี้ยงเกลา สะอาดสะอ้าน ก็ต้องหมั่นโกนหนวดอยู่เป็นประจำ แต่การโกนหนวดก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุโดนใบมีดบาดโดยไม่รู้ตัว แถมดีไม่ดีวิธีโกนหนวด ที่คุณใช้อยู่ทุกวันนี้ อาจเป็นวิธีผิด ๆ ที่ยิ่งทำร้ายผิวหน้าให้พังมากกว่าเดิมก็เป็นได้
1. ไม่เตรียมผิวหน้าก่อนโกนหนวด
หนุ่ม ๆ บางคนก็รีบโกนหนวด จนแทบไม่มีเวลาล้างหน้ากันเลย โกนทั้งแห้ง ๆ ไปแบบนั้น ซึ่งขอบอกเลยว่าเป็นวิธีที่ผิดมหันต์ เพราะนอกจากจะโกนหนวดยากแล้ว ยังระคายเคืองผิวง่ายอีกด้วย ทางที่ดีควรล้างหน้าก่อน แล้วใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น มาวางบนหนวดเครา เพื่อทำให้รูขุมขนเปิด จะได้โกนหนวดได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องโกนซ้ำที่เดิมหลาย ๆ รอบนั่นเองครับ
2. โกนหนวดย้อนแนวขน
คุณผู้ชายหลายคนนิยมโกนหนวดย้อนแนวขน เพราะรู้สึกว่าโกนหนวดได้เกลี้ยงเกลามากกว่า แต่ความจริงแล้ว การโกนหนวดด้วยวิธีนี้ จะยิ่งทำให้ผิวหน้าระคายเคือง และอาจทำให้รูขุมขนอักเสบ เกิดขนคุด และทำให้เกิดสิวได้ง่ายอีกด้วย อย่างไรแล้วให้เปลี่ยนมาโกนหนวดตามแนวเส้นขนจะเป็นวิธีที่ถูกต้องและดีที่สุดครับ
3. ใช้มีดโกนที่ไม่คม
การใช้มีดโกนหนวดที่ไม่คม ทำให้ต้องออกแรงโกนมากขึ้น และต้องโกนซ้ำที่เดิมอีกหลายครั้ง เสี่ยงต่อการโดนมีดบาด แถมยังทำให้ผิวหน้าระคายเคืองอีกต่างหาก ดังนั้นจึงควรใช้มีดโกนหนวดที่มีสภาพดี โดยควรเปลี่ยนหลังจากใช้ไปแล้วอย่างน้อย 5-7 ครั้ง หรือแล้วแต่สภาพใบมีด ขึ้นอยู่กับความถี่ที่โกน ซึ่งมีดโกนหนึ่งชิ้น ไม่ควรใช้นานกว่า 2 สัปดาห์ครับ
4. ไม่ใช้ครีมโกนหนวด
หลายคนอาจคิดว่าครีมโกนหนวดเป็นของที่สิ้นเปลืองและไม่มีความจำเป็นต้องใช้ก็ได้ ซึ่งจริง ๆ แล้วขอบอกเลยว่า ครีมโกนหนวดก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้มีดโกนหนวดเลยล่ะ เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยป้องกันการเกิดบาดแผลและการระคายเคืองจากการโกนได้เป็นอย่างดี ยังไงแล้วก็ลองหาครีมโกนหนวดดี ๆ สักอันมาใช้ นอกจากจะช่วยให้โกนหนวดได้เกลี้ยงเกลาแล้ว ยังบำรุงผิวหน้าให้เนียนนุ่มชุ่มชื่นอีกด้วย
5. กดมีดโกนหนวดแรง ๆ
หนุ่ม ๆ หลายคนก็มีความเชื่อว่า ยิ่งกดมีดโกนหนวดให้ชิดกับผิวหน้าแรงเท่าไร จะทำให้โกนหนวดได้เกลี้ยงขึ้น ซึ่งความจริงแล้ว ไม่ได้ช่วยให้โกนหนวดเกลี้ยงขึ้นกว่าเดิมเท่าไรนัก หนำซ้ำยังทำให้หน้าของคุณระคายเคือง เกิดแผลได้ง่าย แถมยังเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้อีกด้วย ทางที่ดี ค่อย ๆ โกนหนวดอย่างเบามือจะดีกว่าครับ
6. โกนหนวดแค่บริเวณใบหน้า
บางคนคิดว่าโกนหนวดแค่บริเวณหน้าก็เพียงพอแล้ว ทั้งที่ความจริงยังมีหนวดขึ้นอยู่บริเวณใต้คางและลำคอ ซึ่งเป็นอีกจุดที่ควรดูแลด้วยเช่นกัน โดยเริ่มโกนจากบริเวณด้านล่างสุดแล้วไล่ขึ้นไปจนถึงปลายคาง เพื่อป้องกันการเกิดมีดบาดและเกิดขนคุดนั่นเอง
7. ไม่ได้ทาอาฟเตอร์เชฟ
หลังโกนหนวดแล้วอย่าปล่อยให้หน้าแห้งเฉย ๆ แต่ควรทาอาฟเตอร์เชฟ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้บำรุงผิวหน้าหลังโกนหนวด ทั้งนี้เพราะผิวหน้าหลังโกนหนวดอาจเกิดแผลเล็ก ๆ ที่มองไม่เห็น ซึ่งง่ายต่อการติดเชื้อหรืออักเสบ ซึ่งการทาอาฟเตอร์เซฟจะช่วยฆ่าเชื้อ ช่วยลดรอยแดง และอาการระคายเคืองบนผิวหน้า ทั้งช่วยกระชับรูขุมขน และบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื้นอีกด้วย
หากคุณรู้ตัวว่ายังโกนหนวดแบบผิด ๆ เหมือนข้อไหนอยู่ละก็ ให้ยกเลิกและเปลี่ยนมาใช้วิธีที่ถูกต้องที่เราได้แนะนำไปนะครับ เพื่อผิวหน้าที่มีสุขภาพดี ดูหล่อเหลา และเกลี้ยงเกลาได้โดยไม่ต้องกังวลว่าหน้าจะพังเลยล่ะ...
ข้อมูลจาก : bodyandsoul.com.au, mensjournal.com