วิธีปลูกแตงโมหลังเสร็จสิ้นนาข้าวสร้างรายได้อย่างงามให้แก่ชาวนา

วิธีปลูกแตงโมหลังเสร็จสิ้นนาข้าวสร้างรายได้อย่างงามให้แก่ชาวนา

ชาวนา ต.หนองพลับ ปลูกแตงโมหลังเสร็จสิ้นนาข้าวคนแห่ซื้อแตงโมถึงไร่-การันตีด้วยรสชาติ เนื้อแน่น หวาน กรอบ

หากใครที่เคยรับประทานแตงโมหนองพลับ ในพื้นที่ ต.หนองพลับ อ.เมือง จ.เพชรบุรี จะทราบกันดีว่า มีรสชาติหวาน กรอบ เนื้อแน่น ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวทำให้ชื่อเสียงแตงโมหนองพลับในพื้นที่แห่งนี้ติดตลาดมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเกษตรกรที่ปลูกแตงโมก็คือชาวนา พื้นที่ปลูกก็เป็นพื้นที่นาข้าว เกษตรกรจะปลูกแตงโมในช่วงหน้าแล้งหลังเสร็จสิ้นฤดูทำนา ยิ่งปัจจุบันหลังชื่อเสียงของแตงโมหนองพลับแห่งนี้ติดตลาด เวลาไร่แตงโมของเกษตรกรท่านใดกำลังตัดขาย จะมีผู้บริโภคทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ เดินทางกันมาซื้อแตงโมสดๆ กันถึงที่ รวมไปถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านไปผ่านมา ทำให้บรรยากาศคึกคัก มีการจับจองแย่งซื้อแตงโมกันอย่างจ้าละหวั่น และไม่ใช่จะมีแต่ผู้บริโภคอย่างเดียว ยังมีพ่อค้าแม่ค้าที่เดินทางมาซื้อไปขายอีกจำนวนมาก ส่งผลให้ชาวนาที่ปลูกแตงโมในพื้นที่แห่งนี้ไม่ต้องดิ้นรนนำแตงโมไปขายเอง จะขายหมดตั้งแต่อยู่ในไร่ มีกำไรจากการปลูกแตงโมมากกว่าการทำนาข้าวเป็นเท่าตัว และถ้ารวมทั้งการทำนาข้าวสลับกับปลูกแตงโมในหน้าแล้ง เกษตรกรจะมีรายได้อย่างงดงาม ถือเป็นความโชคดีของชาวนาที่นี่ ที่พื้นที่ทำนาข้าวสามารถปลูกแตงโมได้รสชาติอร่อย และสิ่งหนึ่งที่ชาวนาที่นี่ยังคงรักษาไว้ได้ตลอดคือไม่ขายแตงโมยกไร่ แต่จะตัดแตงโมผลที่แก่ขายเท่านั้น



นายฉัตรชัย สายเสียงสด ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.หนองพลับ อ.เมือง จ.เพชรบุรี กล่าวว่า แตงโมหนองพลับ อ.เมืองเพชรบุรี เริ่มทดลองปลูกในปี 2518 ปลูกในพื้นที่นาข้าวที่เสร็จสิ้นจากการเก็บเกี่ยวข้าวนาปี พันธุ์ที่ปลูกก็จะมีทั้งกินรี ทานโต พันธุ์ 188 และอีกหลายพันธุ์ อาทิ แตงเหลืองสายพันธุ์น้ำผึ้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเกษตรกรจะนำมาปลูก ผลผลิตที่ได้ปรากฏว่าแตงโมมีรสหวาน กรอบ เนื้อแน่น เปลือกบาง เกษตรกรที่เดิมจะทำนาข้าวได้หันมาปลูกแตงโมในช่วงหน้าแล้งกัน ทยอยปลูกเพิ่มขึ้นทุกปี ทดลองผิดบ้างถูกบ้าง จนได้แตงโมที่มีรสชาติเป็นที่ต้องการของตลาด คาดว่ามาจากพื้นที่ดินที่ปลูก เพราะเคยมีการนำไปปลูกในพื้นที่ใกล้เคียง แต่รสชาติไม่เหมือนที่ปลูกในพื้นที่ ต.หนองพลับ และสิ่งที่การันตีคุณภาพของแตงโมที่นี่คือเกษตรกรจะตัดแตงโมที่แก่จากต้นจริงๆ ไม่ตัดหรือขายเหมาทั้งแปลง จะทยอยตัดหลายครั้ง ที่เกษตรกรจะเรียกว่า มีดแรก มีดสอง มีดสาม คือตัดครั้งที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 เป็นต้น จึงทำให้ได้แตงโมที่แก่เต็มที่ เนื้อแดง กรอบ หวาน จนมีชื่อเสียงมาจนถึงปัจจุบัน ปัญหาที่เกิดขึ้นคือไม่สามารถปลูกซ้ำที่เกิน 2 ครั้ง หากปลูกครั้งที่ 3 จะประสบปัญหาต้นตาย คุณภาพไม่ดี การดูแลยากขึ้นเนื่องจากทั้งโรคและแมลงรบกวน จึงต้องย้ายพื้นที่ไปปลูกแปลงอื่นในพื้นที่ใกล้กัน ดังนั้นหากเกษตรกรมีพื้นที่ทำนาเพียงแปลงเดียว ก็จะต้องปลูกแตงโมแบบปีเว้นปี ส่วนเกษตรกรที่มีพื้นที่ทำนามากกว่า 1 แปลง ก็จะสลับกันปลูกแตงโม ก็จะสามารถปลูกได้ทุกปี ปีนี้ปลูกกันแทบทั้งตำบล เนื่องจากมีการให้หยุดทำนาปรัง
             
ด้านนายจรัญ ทองใบ ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวเสริมว่า การปลูกแตงโมจะมีรายได้มากกว่าการทำนาเป็นเท่าตัว หรือไม่ 2-3 เท่าของการทำนา ยิ่งช่วงที่ข้าวราคาถูกปลูกแตงโมดีกว่า ปลูกแตงโมลงทุนไม่ถึง 1 หมื่นบาท ต่อไร่ แต่ขายผลผลิตถ้าน้ำดีต้นสมบูรณ์ทั้งแปลง จะได้ไร่ละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท และอาจจะลดลงหรือสูงขึ้นอยู่ว่าแตงโมสมบูรณ์มากน้อยเพียงใด สภาพดินฟ้าอากาศก็มีผลกระทบเช่นกัน แต่อย่างน้อยก็ยังมีรายได้หักต้นทุนแล้วต่อไร่ 2-3 หมื่นบาท อย่างไรก็ตามเกษตรกรจะประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้ง ยิ่งช่วงหลังมีการทำนาปรังกันตลอด เมื่อชลประทานเปิดน้ำมาเกษตรกรที่ทำนาปรังในพื้นที่ใกล้เคียงก็จะสูบน้ำเข้านา เหลือน้ำมาถึงพื้นที่ปลูกแตงน้อย ส่งผลให้พื้นที่ปลูกลดลง ปีไหนน้ำมากก็มีพื้นที่ปลูกมากขึ้น สำหรับผลผลิตของแตงโมหนองพลับแห่งนี้แต่ละปีจะออกสู่ตลาดไม่มาก ส่วนมากเมื่อเกษตรกรตัดขาย ก็จะมีผู้บริโภครวมทั้งพ่อค้าแม่ค้ามาซื้อถึงไร่ โดยเฉพาะผู้บริโภคจะแห่กันมาซื้อ จนแตงโมไม่เพียงพอกับความต้องการ ซึ่งผลผลิตแตงโมหนองพลับจะออกสู่ตลาดช่วงแรกระหว่างเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม ช่วงที่ 2 ระหว่างเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม หลังจากนั้นถ้ามีแตงโมมาขายแล้วบอกว่าเป็นแตงโมหนองพลับ อ.เมืองเพชรบุรี คงไม่ใช่แล้ว ซึ่งผู้บริโภคจะรู้เมื่อได้รับประทาน เพราะรสชาติผิดกัน
           
  นางรำพึง เอี่ยมสะอาด อายุ 40 ปี เกษตรกร เผยว่า พื้นที่ปลูกแตงโมก็คือพื้นที่นาข้าว จะปลูกช่วงหลังเก็บเกี่ยวข้าวนาปีเสร็จ ใช้ระยะเวลาการปลูกตั้งแต่หยอดเมล็ดลงหลุมจะอยู่ที่ 2 เดือนเศษ ก็สามารถทยอยเก็บผลิตขายได้ แตงโมที่นี่จะไม่มีการขายยกไร่ จะเก็บขายเฉพาะแตงที่แก่เต็มที่เท่านั้น เพื่อรักษาคุณภาพแตงโม ส่วนราคาเกษตรกรจะเป็นผู้ตั้งราคาเอง โดยรวมแล้วจะขายจากไร่ในราคา แตงโมลูกใหญ่กิโลกรัมละ 15 บาท ขนาดกลางกิโลกรัมละ 13 บาท และขนาดเล็กกิโลกรัมละ 10 บาท ซึ่งทุกขนาดราคาอาจจะสูงขึ้นหรือต่ำกว่าราคาดังกล่าวบ้าง ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับปริมาณแตงโมในขณะนั้นว่ามีปริมาณมากหรือน้อย แต่โดยสรุปคนปลูกจะตั้งราคาขายเอง ในส่วนของพ่อค้าแม่ค้าที่มาซื้อไปจำหน่ายก็จะปรับราคาขายให้สูงขึ้นเพื่อให้ได้กำไร ผู้บริโภคในพื้นที่ส่วนมากจะรอซื้อในวันที่เกษตรกรตัดแตงโมจากไร่ เพราะราคาจะถูกกว่ามาก ที่สำคัญจะได้แตงโมหนองพลับที่แท้และสดจากไร่ ส่งผลให้บรรยากาศในวันที่เกษตรกรตัดแตงโมคึกคัก ในพื้นที่เต็มไปด้วยผู้ซื้อทั้งประชาชนทั่วไปและพ่อค้าแม่ค้า ส่งผลให้เกษตรกรขายได้หมดในเวลาอันรวดเร็ว แม้จะปลูกกันมากแต่เกษตรกรไม่ได้ตัดแตงโมพร้อมกันจะทยอยตัด ส่งผลดีทำให้ปริมาณแตงโมไม่มากจนล้นตลาด ทำให้ราคาไม่ลดต่ำลง
             ในแต่ละปีที่ผ่านมา จะมีพื้นที่การปลูกไม่มากนัก เนื่องจากแตงโมไม่สามารถปลูกซ้ำพื้นที่เดิมเกิน 2 ครั้ง เกษตรกรจะหมุนเวียนปลูกสลับกันไปมา และมีหลายพื้นที่ยังคงทำนาปรังกันปกติ แต่มาปีนี้หลังทางภาครัฐให้งดทำนาปรัง ทำให้เกษตรกรหันมาปลูกแตงโมกับมากเป็นพิเศษ กล่าวได้ว่ามากที่สุดตั้งแต่เริ่มปลูกแตงโมในพื้นที่ ต.หนองพลับ มีพื้นที่ปลูกไม่ต่ำกว่า 300 ไร่ คลอบคลุมทั้งตำบล จะมีเพียงบางหมู่บ้านที่น้ำไปไม่ถึงก็จะไม่ได้ปลูก แต่ราคาขายยังคงที่ คาดว่าราคาคงไม่ลดต่ำลงเนื่องจากเป็นที่ต้องการของตลาด แม้ว่าจะมีการขยายพื้นที่ปลูกมากกว่าทุกปี เพราะผลผลิตไม่ได้มีตลอดปี อย่างไรก็ตามก็ต้องรอดูอีกสักระยะเนื่องจากปีนี้มีพื้นที่ปลูกเพิ่มมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา
             ถ้าเปรียบเทียบระหว่างการทำนาข้าว การทำไร่แตงโมได้กำไรมากกว่า ยิ่งถ้าแตงโมไม่ประสบปัญหาเรื่องโรคหรือตาย ยิ่งได้กำไรมากกว่า 2-3 เท่าตัว เนื่องจากลงทุนน้อยกว่าแต่ขายได้ราคาขายดี ใน 1 ไร่ สามารถปลูกแตงโมได้ประมาณ 300 หลุม ใช้ระยะเวลา 2 เดือนก็เก็บผลผลิตขาย ส่วนข้าวอย่างต่ำต้องใช้ระยะเวลา3 เดือน ปีนี้ประสบปัญหาเหมือนกันทั้งขาดแคลนน้ำและเจริญเติบโตไม่ดีเนื่องจากสภาพอากาศเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว และอยากจะฝากไปยังผู้บริโภคว่า แตงโมที่ ต.หนองพลับ อ.เมืองเพชรบุรี แห่งนี้ ปลอดสารพิษแน่นอน เกษตรกรใช้สารชีวภาพกันทั้งหมด ที่สำคัญเกษตรกรปลูกเองกินเองด้วย ไม่ใช่จะปลูกขายอย่างเดียว ดังนั้นกับความคิดที่ว่าการปลูกแตงโมใช้สารเคมีมากนั้น ในพื้นที่อื่นไม่รู้ แต่ถ้าใน ต.หนองพลับ จังหวัดเพชรบุรีแห่งนี้ การันตีได้ว่าปลอดสารพิษแน่นอน และถ้าผู้บริโภคท่านใด ผ่านมาช่วงที่มีการตัดแตงโมจากไร่ ก็สามารถแวะลงไปซื้อสดๆ ในไร่ได้ทันที แถมได้ราคาถูกกว่าท้องตลาดอีกด้วย
ภัทรพงษ์ ปานปิ่นทอง/เพชรบุรี
ที่มา  http://www.banmuang.co.th/news/region/10252