จากกรณีรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อชนรถยนต์ บริเวณจุดกลับรถรามอินทรา กม.9
แขวงและเขตคันนายาว โดยรถบรรทุก18 ล้อ หมายเลขทะเบียน 81-8970 นนทบุรี
ด้านหลังบรรทุกคานสะพานรถไฟฟ้า โดยคานสะพานชนเข้ากับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล
ยี่ห้อต่อโยต้า รุ่นเวลไฟร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 4กศ-9222 กรุงเทพมหานคร
ได้รับความเสียหายเหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 20 พ.ค.60 ซึ่งมีนายชัชชัย
จำเนียรกุล อายุ 38 ปี หรือ “บอล เชิญยิ้ม”
เป็นเจ้าของรถยนต์ที่ได้รับความเสียหาย
ล่าสุด 21พ.ค. 60 “บอล เชิญยิ้ม” เปิดใจกับทีมข่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันเป็นอะไรที่ตกใจนะครับ รถก็เหมือนบ้านเรา หันไปรถเราลอยไปแล้ว เขาลากไปแล้ว เหล็กประมาณ 10 ตัน แทงเข้ารถและลาก ตั้งแต่ท้ายรถเข้ามา เรารู้สึกเสียดาย แต่ทำอะไรไม่ได้
“ถ้าเราอยู่บนรถ ตรงนั้นบอกเลยว่าไม่รอดแน่” ส่วนตัวได้คุยกับคุณลุงที่ขับรถหลังจากเกิดเหตุ ลุงเขาขับวันแรกและเขาหลงมา เพิ่งเข้ามาทำงานในกรุงเทพด้วย และกลับรถในที่ห้ามกลับ แต่คันหน้าบอกกลับได้คุณลุงเลยกลับ คือ ผมไม่รู้จะเอาผิดไรลุง ค่าปรับผมยังจ่าย ให้ลุงเลย 1,000 บาท ผมสงสารลุงเขา เขาได้วันละ 450 เอง และลุงพึ่งมาทำงานวันแรกด้วย แต่ถ้าพูดตามตรงลุงก็ผิด ที่กลับรถในที่ห้ามกลับ ส่วนตัวไม่ได้ติดใจอะไรลุง เพราะลุงไม่ได้มีเจตนา
ทางด้านบริษัทเจ้าของรถก็ติดต่อมาแล้ว และชี้แจงว่า จะรับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด จนกว่าจะพอใจ ส่วนตัวผมก็แค่อยากได้รถ เพราะมันคือชีวิตผม ผมก็จะขอได้รถให้กลับมาแบบที่ผมพอใจ ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากให้เขาเปลี่ยนรถให้ใหม่ ราคาประมาณ 3,500,000 บาท ถ้าซ่อมแล้วมันไม่เหมือนเดิมผมจะรู้ได้ไง ก็ต้องรอเจรจา ต้องรอคุยเยอะเลย ก็ต้องแฟร์ๆต่อกัน ผมก็ไม่ได้เรียกค่าทำขวัญอะไรเลย แค่ต้องการรถกลับมาสู่สภาพเดิมแค่นั้นเองส่วน รถขณะนี้จอดอยู่ที่ศูนย์พระราม 9 ต้องรอบริษัทประกันภัยดำเนินการในวันพรุ่งนี้ 22 พ.ค.60
ล่าสุด 21พ.ค. 60 “บอล เชิญยิ้ม” เปิดใจกับทีมข่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันเป็นอะไรที่ตกใจนะครับ รถก็เหมือนบ้านเรา หันไปรถเราลอยไปแล้ว เขาลากไปแล้ว เหล็กประมาณ 10 ตัน แทงเข้ารถและลาก ตั้งแต่ท้ายรถเข้ามา เรารู้สึกเสียดาย แต่ทำอะไรไม่ได้
“ถ้าเราอยู่บนรถ ตรงนั้นบอกเลยว่าไม่รอดแน่” ส่วนตัวได้คุยกับคุณลุงที่ขับรถหลังจากเกิดเหตุ ลุงเขาขับวันแรกและเขาหลงมา เพิ่งเข้ามาทำงานในกรุงเทพด้วย และกลับรถในที่ห้ามกลับ แต่คันหน้าบอกกลับได้คุณลุงเลยกลับ คือ ผมไม่รู้จะเอาผิดไรลุง ค่าปรับผมยังจ่าย ให้ลุงเลย 1,000 บาท ผมสงสารลุงเขา เขาได้วันละ 450 เอง และลุงพึ่งมาทำงานวันแรกด้วย แต่ถ้าพูดตามตรงลุงก็ผิด ที่กลับรถในที่ห้ามกลับ ส่วนตัวไม่ได้ติดใจอะไรลุง เพราะลุงไม่ได้มีเจตนา
ทางด้านบริษัทเจ้าของรถก็ติดต่อมาแล้ว และชี้แจงว่า จะรับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด จนกว่าจะพอใจ ส่วนตัวผมก็แค่อยากได้รถ เพราะมันคือชีวิตผม ผมก็จะขอได้รถให้กลับมาแบบที่ผมพอใจ ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากให้เขาเปลี่ยนรถให้ใหม่ ราคาประมาณ 3,500,000 บาท ถ้าซ่อมแล้วมันไม่เหมือนเดิมผมจะรู้ได้ไง ก็ต้องรอเจรจา ต้องรอคุยเยอะเลย ก็ต้องแฟร์ๆต่อกัน ผมก็ไม่ได้เรียกค่าทำขวัญอะไรเลย แค่ต้องการรถกลับมาสู่สภาพเดิมแค่นั้นเองส่วน รถขณะนี้จอดอยู่ที่ศูนย์พระราม 9 ต้องรอบริษัทประกันภัยดำเนินการในวันพรุ่งนี้ 22 พ.ค.60