ใครจะว่าผมบ้าก็เชิญ?!! “หนุ่มลำปาง” ก้มกราบรถบรรทุกเทรลเลอร์ 704 ล้อ
โดยไม่แคร์สายตาคนอื่น! เมื่อได้รู้เหตุผลของเขาเท่านั้น บอกเลยโคตรพีค !!?
เป็นกระแสสังคมที่ร้อนแรงในสังคมออนไลน์ในขณะนี้ เกี่ยวกับกรณีขบวนรถเทรลเลอร์ จำนวน 704 ล้อ ของบริษัทเอกชนผู้ดำเนินการเคลื่อนย้ายเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) ที่จะนำไปติดตั้งในโครงการพัฒนาโรงไฟฟ้าทดแทนโรงไฟฟ้าแม่เมาะเครื่องที่ 4 – 7 ( MMRP1) ที่กำลังสร้างขึ้น ภายในโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ถูกเจ้าหน้าที่ด่านตรวจชั่งน้ำหนักเกาะคา อ.เกาะคา จ.ลำปาง กักหัวลากของขบวนดังกล่าว จำนวน 2 หัว เมื่อคืนของวันที่ 21 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา บริเวณด่านตรวจชั่งน้ำหนักเกาะคา ที่อยู่บนถนนทางหลวงหมายเลข 1 พหลโยธินสายลำปาง – ตาก ขาเข้า จ.ลำปาง เนื่องจากพบว่ามีน้ำหนักที่เกินกว่าที่ขออนุญาตไว้กับทางกรมทางหลวง ทำให้ขบวนเคลื่อนย้ายต้องจอดอยู่ที่ลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหานครนครลำปาง อ.เกาะคา จ.ลำปาง มาตั้งแต่วันดังกล่าว ทำให้เกิดความล่าช้ากว่ากำหนดที่จะถึง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง 2 วัน
ซึ่งในกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นได้เกิดปรากฏการณ์ที่ร้อนระอุหลายเรื่อง ทั้งกรณีการตำหนิและด่าท้อเจ้าหน้าที่ด่านตรวจชั่งน้ำหนักเกาะคาและกระแสในการตั้งคำถามในประเด็นที่ชาวลำปางเกิดข้อสงสัย ทำให้ทางกรมทางหลวง และทางหัวหน้าด่านตรวจชั่งน้ำหนักเกาะคา อ.เกาะคา จ.ลำปาง ต้องออกมาให้เหตุผลถึงความจำเป็นที่ต้องกักหัวลากดังกล่าวไว้ตามกฎหมาย ซึ่งจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น มีทั้งฝ่ายสนับสนุนและให้กำลังใจ เกิดความเห็นใจต่อเจ้าหน้าที่ด่าน ตลอดจนฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยต่อการทำหน้าที่ในครั้งนี้จนเกิดกระแสรุมตำหนิ และด่าทอกันอย่างรุนแรงในสังคมออนไลน์เฟสบุ๊คมาตั้งแต่วันที่มีข่าวการกักรถหัวลาก
รวมถึงไปถึงชาวบ้านที่ให้ความสนใจแห่ไปเยี่ยมชมรถล้อเยอะคันดังกล่าวที่จอดอยู่บริเวณลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหานครนครลำปาง อ.เกาะคา จ.ลำปาง กันอย่างมาก คล้ายกับมีงานใหญ่ใน อ.เกาะคา ก็ว่าได้
หลายคนเมื่อไปถึงก็ไม่พลาดที่จะถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกในโอกาสที่พบเจอตัวจริงของรถเทรลเลอร์ 704 ล้อ ที่หาดูได้ยากมาก ดังนั้น เมื่อถ่ายรูปเสร็จก็ต้องแชร์ภาพอวดให้หลายๆ คนได้เห็นว่า ตนเองได้มีโอกาสมาเห็นตัวจริงของรถยักษ์ ล้อเยอะคันนี้ ที่มีเครื่องกำเนิดพลังงานไฟฟ้าบรรทุกอยู่ด้านบน
รวมไปถึง หนุ่มชาวลำปาง ผู้ใช้เฟสบุ๊คในชื่อว่า “หนุ่มชิง รถม้าลำปาง” ได้โพสต์ภาพตัวเองที่ได้มีโอกาสไปดูรถ 704 ล้อคันนี้ และได้ก้มกราบลงกับพื้น และอีกภาพก็ขึ้นไปกราบอยู่บนเทรลเลอร์ พร้อมเขียนข้อความประกอบว่า “รู้สึกอาย อย่าว่าผมบ้านะครับ กว่าจะได้เห็น” ซึ่งในโพสต์ดังกล่าวยังมีการนำภาพเก่าเมื่อ 34 ปี ก่อน ของขบวนรถเทรลเลอร์เคลื่อนย้ายเครื่องกำเนิดพลังงานไฟฟ้าในอดีตของโรงไฟฟ้าแม่เมาะมาลงด้วย
ทั้งนี้ เมื่อภาพถูกนำมาลงในห้องกลุ่ม Lampang city สังคมออนไลน์เฟสบุ๊ค ที่มีสมาชิกกลุ่มอยู่กว่า 130,000 คน จึงเกิดความฮือฮาขึ้น แต่ท่าทางจะยังไม่จบลงง่ายๆ และประชาชนยังมีการตั้งคำถามในอีกหลายเรื่อง หลังจากทางด่านตรวจชั่งน้ำหนักเกาะคาได้เดินหน้าดำเนินคดีกับคนขับรถหัวลากของขบวนดังกล่าวที่น้ำหนักเกินในข้อหาใช้ยานพาหนะบนทางหลวง โดยยานพาหนะนั้นบรรทุก หรือน้ำหนักลงเพลาเกินกว่ากฎหมายกำหนด ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางหลวง ตาม พรบ.ทางหลวง พ.ศ.2535 (ฉบับแก้ไขปรับปรุงครั้งที่ 2 ปี พ.ศ.2549 ม.61 (73/2) มีโทษปรับ 10,000 บาท โทษจำคุก 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
เป็นกระแสสังคมที่ร้อนแรงในสังคมออนไลน์ในขณะนี้ เกี่ยวกับกรณีขบวนรถเทรลเลอร์ จำนวน 704 ล้อ ของบริษัทเอกชนผู้ดำเนินการเคลื่อนย้ายเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) ที่จะนำไปติดตั้งในโครงการพัฒนาโรงไฟฟ้าทดแทนโรงไฟฟ้าแม่เมาะเครื่องที่ 4 – 7 ( MMRP1) ที่กำลังสร้างขึ้น ภายในโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ถูกเจ้าหน้าที่ด่านตรวจชั่งน้ำหนักเกาะคา อ.เกาะคา จ.ลำปาง กักหัวลากของขบวนดังกล่าว จำนวน 2 หัว เมื่อคืนของวันที่ 21 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา บริเวณด่านตรวจชั่งน้ำหนักเกาะคา ที่อยู่บนถนนทางหลวงหมายเลข 1 พหลโยธินสายลำปาง – ตาก ขาเข้า จ.ลำปาง เนื่องจากพบว่ามีน้ำหนักที่เกินกว่าที่ขออนุญาตไว้กับทางกรมทางหลวง ทำให้ขบวนเคลื่อนย้ายต้องจอดอยู่ที่ลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหานครนครลำปาง อ.เกาะคา จ.ลำปาง มาตั้งแต่วันดังกล่าว ทำให้เกิดความล่าช้ากว่ากำหนดที่จะถึง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง 2 วัน
ซึ่งในกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นได้เกิดปรากฏการณ์ที่ร้อนระอุหลายเรื่อง ทั้งกรณีการตำหนิและด่าท้อเจ้าหน้าที่ด่านตรวจชั่งน้ำหนักเกาะคาและกระแสในการตั้งคำถามในประเด็นที่ชาวลำปางเกิดข้อสงสัย ทำให้ทางกรมทางหลวง และทางหัวหน้าด่านตรวจชั่งน้ำหนักเกาะคา อ.เกาะคา จ.ลำปาง ต้องออกมาให้เหตุผลถึงความจำเป็นที่ต้องกักหัวลากดังกล่าวไว้ตามกฎหมาย ซึ่งจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น มีทั้งฝ่ายสนับสนุนและให้กำลังใจ เกิดความเห็นใจต่อเจ้าหน้าที่ด่าน ตลอดจนฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยต่อการทำหน้าที่ในครั้งนี้จนเกิดกระแสรุมตำหนิ และด่าทอกันอย่างรุนแรงในสังคมออนไลน์เฟสบุ๊คมาตั้งแต่วันที่มีข่าวการกักรถหัวลาก
รวมถึงไปถึงชาวบ้านที่ให้ความสนใจแห่ไปเยี่ยมชมรถล้อเยอะคันดังกล่าวที่จอดอยู่บริเวณลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหานครนครลำปาง อ.เกาะคา จ.ลำปาง กันอย่างมาก คล้ายกับมีงานใหญ่ใน อ.เกาะคา ก็ว่าได้
หลายคนเมื่อไปถึงก็ไม่พลาดที่จะถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกในโอกาสที่พบเจอตัวจริงของรถเทรลเลอร์ 704 ล้อ ที่หาดูได้ยากมาก ดังนั้น เมื่อถ่ายรูปเสร็จก็ต้องแชร์ภาพอวดให้หลายๆ คนได้เห็นว่า ตนเองได้มีโอกาสมาเห็นตัวจริงของรถยักษ์ ล้อเยอะคันนี้ ที่มีเครื่องกำเนิดพลังงานไฟฟ้าบรรทุกอยู่ด้านบน
รวมไปถึง หนุ่มชาวลำปาง ผู้ใช้เฟสบุ๊คในชื่อว่า “หนุ่มชิง รถม้าลำปาง” ได้โพสต์ภาพตัวเองที่ได้มีโอกาสไปดูรถ 704 ล้อคันนี้ และได้ก้มกราบลงกับพื้น และอีกภาพก็ขึ้นไปกราบอยู่บนเทรลเลอร์ พร้อมเขียนข้อความประกอบว่า “รู้สึกอาย อย่าว่าผมบ้านะครับ กว่าจะได้เห็น” ซึ่งในโพสต์ดังกล่าวยังมีการนำภาพเก่าเมื่อ 34 ปี ก่อน ของขบวนรถเทรลเลอร์เคลื่อนย้ายเครื่องกำเนิดพลังงานไฟฟ้าในอดีตของโรงไฟฟ้าแม่เมาะมาลงด้วย
ทั้งนี้ เมื่อภาพถูกนำมาลงในห้องกลุ่ม Lampang city สังคมออนไลน์เฟสบุ๊ค ที่มีสมาชิกกลุ่มอยู่กว่า 130,000 คน จึงเกิดความฮือฮาขึ้น แต่ท่าทางจะยังไม่จบลงง่ายๆ และประชาชนยังมีการตั้งคำถามในอีกหลายเรื่อง หลังจากทางด่านตรวจชั่งน้ำหนักเกาะคาได้เดินหน้าดำเนินคดีกับคนขับรถหัวลากของขบวนดังกล่าวที่น้ำหนักเกินในข้อหาใช้ยานพาหนะบนทางหลวง โดยยานพาหนะนั้นบรรทุก หรือน้ำหนักลงเพลาเกินกว่ากฎหมายกำหนด ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางหลวง ตาม พรบ.ทางหลวง พ.ศ.2535 (ฉบับแก้ไขปรับปรุงครั้งที่ 2 ปี พ.ศ.2549 ม.61 (73/2) มีโทษปรับ 10,000 บาท โทษจำคุก 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ