บรรเทาอาการปวดหูได้อย่างง่ายด้วยธรรมชาติ

คุณผู้อ่านหลายๆ คนคงเคยประสบปัญหาอาการปวดหู หรือเจ็บหูกันมาบ้าง ก็คงจะเข้าใจความรู้สึกกันเป็นอย่างดี ทั้งปวด แสบ และเสียงแหลมๆ ที่บาดเข้าไปถึงช่องหู ผู้ที่มีความอดทนก็อาจจะกลั้นใจอดทนให้มันหายไปเอง

      อาการเจ็บปวดบริเวณภายในหูนั้น เรียกได้ว่าเป็นสิ่งเจ็บปวดและไม่น่าพิสมัยเป็นอันดับต้นๆ เลยทีเดียว เนื่องจากภายในหู หรือช่องหูนั้นเป็นบริเวณที่เข้าถึงได้ยาก และไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เมื่อคุณไม่สามารถระบุได้ถึงต้นตอของอาการเจ็บปวดเหล่านั้น การหยิบยาทุกชนิดทุกแขนงที่มีอยู่ในตู้ยามาใช้ก็อาจเป็นทางเลือกเดียวที่เหลืออยู่

     ก่อนที่คุณจะถอดใจและยินยอมไปพบแพทย์เพื่อรักษา ลองมาดูวิธีที่เราจะนำเสนอในวันนี้ก่อนค่ะ เพราะคุณไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อบรรเทาอาการปวดหูอีกต่อไปแล้ว เรามีวิธีและยารักษาจากวัตถุดิบธรรมชาติมาแนะนำให้คุณผู้อ่านทราบกันนั่นเอง

     จากคำแนะนำของ The AAP (The American Academy of Pediatrics) ได้อธิบายไว้ว่าอาการปวดหูนั้นสามารถรักษาให้หายได้หากเราโฟกัสตรงจุดแทนที่จะใช้ยาปฏิชีวนะ ในกรณีที่คุณใช้ยาปฏิชีวนะบ่อยจนเกินไปก็จะนำไปสู่อาการดื้อยาในที่สุด

     พูดถึงสาเหตุของอาการปวดหูนั้นมีมากมายรวมไปถึง รูหรือโพรงในหู ภาวะต่อมทอนซิลอักเสบ การติดเชื้อในโพรงจมูก การเสียดสีกันของฟัน และอาการติดเชื้อที่พบได้บ่อยที่สุดก็คือ หูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน ( Acute otitis media หรือ AOM ) ซึ่งอาการดังกล่าวนี้จะมีลักษณะของการอักเสบ ติดเชื้อ และหูชั้นกลางของคุณจะมีอาการบวมนั่นเอง

     นอกจากนี้ ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นบริเวณหูก็มีสาเหตุมาจากของเหลวที่ถูกกักไว้ด้านหลังเยื่อแก้วหู ซึ่งจะทำให้คุณมีไข้ สูญเสียความสามารถในการได้ยินทีละน้อย ปวดหู หรือรู้สึกป่วยอยู่ตลอดเวลา ในกรณีของเด็กเล็กและทารกนั้น คุณอาจจับสังเกตได้โดยอาการกระสับกระส่ายของเด็กๆ และความพยายามที่จะดึงหูของตัวเองอย่างผิดปกติ เราไปดูกันดีกว่าว่าสมุนไพรที่หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดจะช่วยคุณบรรเทาอาการปวดอักเสบได้อย่างไร

    หัวหอมใหญ่
      หั่นหัวหอมใหญ่เป็น 2 ซีกและนำหัวหอมที่หั่นแล้ว 1 ซีกนั้นมาวางทาบใบหูข้างที่เจ็บปวด คุณอาจจะนำหัวหอมไปอุ่นให้เกิดความร้อนเล็กน้อยแล้วจึงค่อยนำไปอังที่บริเวณใบหู หากคุณยังไม่คุ้นชินกับการนำหัวหอมสดๆ มาทาบที่หูก็สามารถนำผ้ามาห่อหัวหอมก่อนได้นะคะ

    ยาฆ่าเชื้อ (Hydrogen Peroxide)
     นำสำลีก้อนชุบยาฆ่าเชื้อในปริมาณเล็กน้อย และค่อยๆ หยดยาฆ่าเชื้อเข้าไปในหูข้างที่อักเสบปริมาณ 2-3 หยด ตัวยาฆ่าเชื้อจะไปชะล้างทำความสะอาดและขจัดสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่ภายในหูของคุณ หลังจากนั้นให้ล้างทำความสะอาดหูด้วยน้ำสะอาดอีกรอบหนึ่ง

    น้ำมันต้นชา (Tea Tree Oil)
     เพียงนำน้ำมัน Tea Tree Oil จำนวน 2-3 หยด มาถูบริเวณใบหู แต่ควรระวังเล็กน้อยเนื่องจากน้ำมันชนิดนี้ควรใช้ที่บริเวณชั้นหูด้านนอกเท่านั้นนะคะ

    กระเทียม
     ด้วยคุณสมบัติในการเป็นยาปฏิชีวนะ และยาระงับความเจ็บปวดทำให้กระเทียมสามารถช่วยบรรเทาอาการติดเชื้อที่หูได้ เพียงนำกระเทียมไปสับพอละเอียด และนำไปผสมในน้ำมันหอมระเหยชนิดใดก็ได้ปริมาณ 2 ช้อนชา นำส่วนผสมทั้งสองไปอุ่นซักครู่หนึ่ง จากนั้นจึงนำน้ำมันที่เตรียมพร้อมแล้วมาทาบริเวณหูที่รู้สึกเจ็บหรืออักเสบ

    แอปเปิ้ลไซเดอร์
     นำน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์เพียง 1-2 หยดมาทาบริเวณหูเช่นเดียวกันและปล่อยทิ้งไว้ให้แสดงอาการ จากนั้นค่อยๆ ทำซ้ำทุก 6-12 ชั่วโมง

    ขิง
     ขิงเป็นสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่มีสรรพคุณในการต้านอาการอักเสบซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการปวดหูได้เช่นกัน สับขิงพอหยาบแล้วนำไปต้มให้เดือด คุณก็จะได้น้ำขิงแอย่างง่ายเพื่อใช้บรรเทาความเจ็บปวด เพียงใช้น้ำขิงปริมาณ 1-2 หยดทาบริเวณด้านในหูก็จะทำให้ความเจ็บปวดทุเลาลงได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถนำน้ำมันงา 1 ถ้วยไปอุ่นให้ร้อนสักเล็กน้อย ใส่รากขิงสด 1 หัวลงไป จากนั้นรอให้อุณหภูมิของน้ำมันเย็นลงแล้วจึงนำน้ำมันไปทารอบๆ บริเวณที่หูของคุณรู้สึกเจ็บปวด

    โหระพา
     เชื่อหรือไม่ว่าผักพื้นบ้านอย่างโหระพาหรือกะเพราก็มีสรรพคุณในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียและการอักเสบเช่นเดียวกัน เพียงนำใบโหระพาจำนวนหนึ่งมาบดให้ละเอียด จากนั้นนำมาคั้นให้ได้น้ำ คุณสามารถนำน้ำที่คั้นได้จากใบโหระพานี้ทาบริเวณหูข้างที่มีอาการเจ็บปวดหรืออักเสบ

    น้ำมันมะกอก
     น้ำมันมะกอกสามารถนำมาใช้แทนเป็นน้ำมันหล่อลื่นได้ และยังมีสรรพคุณเร่งบรรเทาอาการเจ็บปวด นอกจากนี้น้ำมันมะกอกยังช่วยยับยั้งและกำจัดเสียงที่ดังรบกวนอยู่ในหูของคุณได้ ก่อนอื่นคุณจะต้องนำน้ำมันมะกอกไปอุ่นให้ร้อนสักเล็กน้อย จากนั้นจึงนำน้ำมันมะกอกมาหยอดบริเวณช่องหูจำนวน 2-3 หยด

     เห็นมั้ยละคะว่าทั้งผักพื้นบ้านและสมุนไพรไทยนั้นก็มีประโยชน์มากมาย สามารถนำมาใช้งานได้หลากหลายรวมไปถึงการบรรเทาอาการเจ็บปวดหรืออักเสบบริเวณใบหู แต่ทางที่ดีที่สุดนั้นคุณก็ควรที่จะดูแลรักษาร่างกายให้ครบทุกส่วนเพื่อสุขภาพที่ดีทั้งภายในและภายนอก แต่อย่าลืมนะคะว่าในกรณีที่คุณมีอาการเจ็บปวดจนทนไม่ไหวก็ควรไปพบแพทย์เพื่อได้รับการรักษาที่ถูกวิธีนั่นเอง


Source: www.healthyfoodhouse.com
www.foodnetworksolution.com