จริงหรือไม่? จูบที่คอ อันตรายถึงชีวิต!

เรื่องนี้ต้องขออนุญาตหยิบยกเรื่องที่เกิดขึ้นจริงมาเล่าให้ฟังว่า เคยเห็นรุ่นพี่ในชั้นเรียนเดียวกันคนหนึ่ง มาเรียนในสภาพที่มีผ้าก๊อตผิดแผลทั่วคอ และปิดแบบไม่ค่อยเรียบร้อยนัก ด้วยความรู้จักกันจึงถามไปว่า “โดนอะไรมา” เขาตอบว่า “นอนตกหมอน แล้วคอช้ำ” ขณะที่กำลังงงๆ กับคำตอบของพี่เขา เพื่อนที่นั่งข้างๆ สะกิดแล้วกระซิบบอกว่า “ดูดีๆ สิ นั่นไม่ใช่รอยช้ำ แต่เป็นรอยดูดที่คอต่างหาก” จากนั้นเลยถึงบางอ้อทันที แล้วไม่ได้ถามอะไรเขาต่ออีกเลย (เขินแทน)

รอยจูบที่คอ ที่เป็นรอยแดงๆ จ้ำๆ วัยรุ่นฝรั่งเรียกว่า Love Bites ศัพท์อย่างเป็นทางการหน่อยจะเรียกว่า Hickeys วัยรุ่นบ้านเราน่าจะเรียกแบบบ้านๆ ว่า รอยจูบ รอยดูดที่คอกันไป วิธีทำให้เกิดรอยแดงๆ ช้ำๆ แบบนี้ ก็แค่จูบที่คอ แล้วออกแรงดูดจนกว่าจะเกิดเป็นรอยจ้ำเลือดขึ้นมานี่แหละ คู่รักบางคู่ทำรอยเอาไว้ที่ต้นคอของอีกฝ่าย เหมือนเป็นสัญลักษณ์ว่า “คนนี้เป็นของฉันคนเดียว” หรือเป็นร่องรอยที่ทำให้ต่างคนต่างคิดถึงค่ำคืนที่หวานหอมนั่นเอง

เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล ใครจะมี หรือไม่มี ใครจะทำ หรือไม่ทำ ไม่มีใครห้าม แต่สาเหตุที่ยกมาพูดถึงในวันนี้ เป็นเพราะมีข่าวออกมาว่า คนที่โดนดูดต้นคอ เป็นอันตรายจนถึงชีวิตเนี่ยสิ

รอยจูบที่คอ เป็นอันตรายถึงชีวิต

การทำรอยจูบ รอยช้ำที่คอ อาจทำให้เลือดคั่งเฉพาะจุด จนอาจอุดตันการไหลเวียนของโลหิต ทำให้เส้นเลือดในสมองตีบ หรือตัน เมื่อเลือดไม่ไปเลี้ยงสมอง หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย จึงเกิดอันตรายต่ออวัยวะนั้นๆ ซึ่งต้นคอเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดที่ไหลเวียนโลหิตไปสู่อวัยวะสำคัญมากมาย เช่น สมอง หัวใจ แขน

จากข่าวที่มีวัยรุ่นเพศชาย เกิดอาการเส้นเลือดในสมองตีบตันเฉียบพลัน จนทำให้เสียชีวิต และหญิงวัยกลางคนที่แขนชา เป็นอัมพาต ทั้งคู่มีสาเหตุจากการทำรอยจูบที่ต้นคอทั้งสิ้น

นอกจากนี้รอยช้ำเลือดที่ว่า ไม่สามารถทำให้หายไปได้ในเร็ววัน ต้องใช้เวลา 2-3 อาทิตย์จนกว่าจะหายไปจนหมด ขึ้นอยู่กับความแรงในการดูด สียิ่งเข้ม ยิ่งหายช้า แถมบางครั้งยังอาจเป็นรอยช้ำเหมือนแผลไปนานกว่านั้น จนเหมือนเป็นแผลเป็นได้ แต่หากอยากลดรอยแดงให้จางลงไปให้ได้มากที่สุด ลองใช้น้ำแข็งหมุนวนบนรอยแดงนั้นเรื่อยๆ อาจช่วยลดความเข้มของรอยแดงลงได้บ้าง

แต่ถึงแม้ว่าการทำรอยจูบที่ต้นคอแบบนี้จะมีอัตราเสี่ยงในการเกิดความผิด ปกติของอวัยวะในร่างกายค่อนข้างน้อย แต่คุณคงไม่อยากเป็นส่วนน้อยที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น เพราะฉะนั้นหากหลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยงค่ะ เรายังมีวิธีแสดงความรักที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และสุขภาพอีกมากมาย จริงไหม?

ภาพประกอบจาก istockphoto, howrid.com