สรุป 10 ฟีเจอร์ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ใหม่ !!

เมื่อคืนนี้แอปเปิลได้เปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ชื่อว่า “iPhone 7” และ “iPhone 7 Plus” อย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมเผยสเปคสุดเทพ 10 อย่าง มาดูกันเลยว่าปีนี้แอปเปิลได้ยัดฟีเจอร์อะไรใหม่ ๆ มาใน iPhone 7 บ้าง

สรุป 10 ฟีเจอร์ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ใหม่ !!

1) สีใหม่สีดำ Jet Black และ Black

สำหรับสี “Jet Black” เป็นสีที่เป็นตัวชูโรง iPhone 7 ในครั้งนี้เลยก็ว่าได้ โดยตัวเครื่องจะมีความมันวาวดูหรูหรา เหมือนกับผิว Mac Pro ตรงโลโก้แอปเปิลเป็น Stainless Steel อย่างดี

 และอีกสีหนึ่งที่มาพร้อมกันก็คือ สี “Black” เป็นตัวเครื่องอะลูมิเนียมเหมือน iPhone 6s ตัวเครื่องจะมีสีดำสนิท ดูสวยงาม มาพร้อมกับอีก 3 สี อย่างสี Silver, Gold และ Rose Gold

2) ปุ่มโฮมแบบใหม่ !! แยกแยะแรงกดได้

เป็นครั้งแรกที่แอปเปิลที่นำฟีเจอร์ Force Touch มาใส่ให้กับปุ่มโฮมบนไอโฟน ซึ่งจะทำให้ปุ่มโฮมสามารถแยกแยะแรงกดได้เหมือนหน้าจอ ยิ่งไปกว่านั้นยังมี Taptic Engine ไว้สั่นตอบสนองเวลาเราใช้แรงกดลงไปที่ปุ่มโฮม


3) กันน้ำ และกันฝุ่น ตามมาตรฐานได้ IP67

หลังจากที่แอปเปิลเปิดตัว Apple Watch Series 2 ไปที่สามารถกันน้ำ แอปเปิลก็ได้ใส่ฟีเจอร์นี้ลงใน iPhone 7 เช่นกัน โดยสามารถกันฝุ่นได้เต็มรูปแบบ และสามารถจุ่มน้ำได้ที่ความลึกตั้งแต่ 15 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร นั่นหมายความว่าสามารถกันน้ำฝน น้ำหกได้ แต่ไม่สามารถใช้งานใต้น้ำเหมือน Apple Watch Series 2 ได้

4) กล้องขั้นเทพ มีกล้องคู่ มาพร้อม LED Flash 4 ดวง

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เป็นตัวชูโรงของ iPhone 7 นั่นก็คือ แอปเปิลได้พัฒนากล้อง iPhone 7 ให้ดียิ่งขึ้นอย่างมาก ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
  • กล้องหลังมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/1.8 เลนส์ 6 ชิ้น สำหรับ iPhone 7
  • กล้องหลังคู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เลนส์ 6 ชิ้น มีเลนส์ Wide (f/1.8) และ Tele (f/2.8)  สำหรับ iPhone 7 Plus

  • iPhone 7 Plus สามารถ Optical Zoom ได้ 2 เท่า และ Digital Zoom ได้ 5 เท่า รวมเป็น 10 เท่า
  • ส่วน iPhone 7 สามารถซูมแบบ Digital ได้ 5 เท่า

  • หลังหน้ามาพร้อมความละเอียด 7 ล้านพิกเซลเหมือนกัน
  • มีระบบกันสั่นทั้ง iPhone 7 และ 7 Plus
  • มาพร้อมโหมด Portrait ซึ่งสามารถตรวงจับร่างกายและใบหน้าได้
  • Slo-mo รองรับความละเอียด 1080p ที่ 120 fps
  • ถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K ที่ 30 fps

5) หน้าจอ Retina HD แบบใหม่สีสวย สมจริงและสว่างกว่าเดิม

หน้าจอ Retina HD แบบใหม่นี้ แอปเปิลได้อธิบายว่า iPhone 7 นั้นจะมีจอที่ให้สีที่กว้างขึ้น นั่นหมายความว่าแสดงเฉดสีเยอะขึ้นกว่าเดิม หน้าจอสว่างขึ้น 25% และรองรับ 3D Touch เหมือนกันทั้ง 2 รุ่น

6) ครั้งแรกที่มีลำโพงเตอริโอ

เป็นครั้งแรกที่แอปเปิลได้ใส่ลำโพงคู่มาให้ใน iPhone 7 เลย โดย ลำโพงตัวแรกจะยังคู่อยู่ด้านล่างข้าง ๆ พอร์ต Lightning เหมือนเดิม และลำโพงอีกตัวนั่นก็คือ ลำโพงที่เอาไว้คุยโทรศัพท์นั่นเอง


7) EarPods มาพร้อมพอร์ต Lightning

 เป็นไปตามข่าวลือที่หูฟังไอโฟนที่แถมมาให้ในกล่องนั่นก็คือ หูฟัง EarPods ซึ่งแน่นอนว่า iPhone 7 ได้ตัดช่องเสียบหูฟังออกไป ทำให้ EarPods รุ่นใหม่นี้เป็นพอร์ต Lightning แทน ซึ่งในกล่องแอปเปิลได้แถม Apdater ที่แปลงจากหัว 3.5 มม. ให้กลายเป็นพอร์ต Lightning ได้

8) AirPods หูฟังไร้สายสุดล้ำ ราคา 6,900 บาท

หูฟัง AirPods ใหม่ล่าสุดของแอปเปิล เปิดตัวพร้อมกับ iPhone 7 โดยหูฟังใหม่นี้มีพร้อมชิป W1, ไมโครโฟนข้างละ 2 ตัว, เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว ทำให้สามารถพูดคุย ฟังเพลงได้อย่างชัดเจน และเราสามารถเรียก Siri ด้วยการเคาะที่หูฟังข้างใดก็ได้ 2 ครั้ง

นอกจากนี้ AirPods สามารถฟังเพลงได้สูงสุด 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และตัวกล่องก็มีหน้าที่เป็น PowerBank ชาร์จหูฟัง ทำให้รวมแล้วสามารถใช้ฟังเพลงได้สูงสุด 24 ชั่วโมง ต่อการชาร์จกล่อง 1 ครั้ง และตัว AirPods สามารถฟังเพลงได้ถึง 3 ชั่วโมง เพียงการชาร์จแค่ 15 นาที
ยิ่งไปกว่านั้น AirPods สามารถเชื่อมต่อกับ Mac, iPhone, iPad, Apple Watch แบบอัตโนมัติ เราจะเลือกฟังเพลงจากเครื่องไหนก็ทำได้ ไม่ต้องมานั่ง Pair แต่ละเครื่องให้เสียเวลา โดยเริ่มวางจำหน่ายปลายเดือนตุลาคมนี้

9)​ เปิด Apple Pay และ Transit ให้ใช้ในญี่ปุ่น

ฟีเจอร์นี้เป็นการเพิ่ม Apple Pay และฟีเจอร์ใน Apple Maps ใหม่ อย่าง Transit ที่จะคอยหาสายรถไฟ รถประจำทาง ซึ่งแอปเปิลจะเปิดให้ใช้ในประเทศญี่ปุ่นในเดือนตุลาคมนี้ ส่วนประเทศไทยก็รอต่อไป

10 ฮาร์ดแวร์ทรงพลัง แรงซะใจ

iPhone 7 เรียกว่าแอปเปิลจัดเต็มสำหรับการให้สเปคมา ซึ่งแอปเปิลพัฒนาตั้งแต่ชิปซีพียู กราฟฟิก
  • ชิป Apple A10 Fusion เป็นชิป Quad Core
  • ประมวลผลเร็วกว่า iPhone 6 สองเท่า และประมวลผลกราฟิกเร็วกว่า iPhone 6 ถึง 3 เท่า

  • มาพร้อมกับชิป M10 เพื่อช่วยการประมวลผลและตรวจจับการเคลื่อนไหว
  • เป็นชิปประหยัดพลังงานที่สุดตั้งแต่เคยมีมา
  • แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานขึ้น

  • มีความจุ 32, 128 และ 256 GB ให้เลือก
  • สี Jet Black จะมีเฉพาะรุ่นความจุ 128 และ 256 GB เท่านั้น
  • ส่วนราคา iPhone 7 เริ่มต้น $649 และ iPhone 7 Plus เริ่มต้น $769 (ยังไม่เปิดเผยราคาในไทย)
  • เริ่ม Pre-order วันที่ 9 กันยายน และวางจำหน่ายวันแรก 16 กันยายนนี้ โดยเริ่มวางจำหน่ายในประเทศกลุ่มแรก 28 ประเทศ

ที่มา – Apple