“ป้าชิน ใจเย็น” เลิกเล่นหวย 10 ปี หายจน หมดหนี้ ธ.ก.ส. ต้นแบบคน เปลี่ยนเงินหวยเป็นเงินออม

อีกหนึ่งตัวอย่างดีๆ อย่าง ป้าชิน ใจเย็น วัย 56 ปี อีกหนึ่งบุคคลต้นแบบของ บ้านผาตั้ง ต.ขุนควร อ.ปง จ.พะเยา หลังเลิกเล่น “หวย” งด “ดื่มเหล้ๅ” มุ่งมั่นปณิธาน “เปลี่ยนเงินหวยเป็นเงินออม” ปฏิบัติอย่างจริงจังต่อเนื่อง โดยใช้หลัก “พอเพียง” และ “การออม” เป็นกุศโลบายสำคัญ สุดท้าย “หายจน” หมดหนี้ ธ.ก.ส.ภายใน 10 ปี

อยาก “รวย” หันพึ่ง “หวย” 18 ปี สูญเงินเกือบ 2 แสน ย้อนวันวานเมื่อ พ.ศ. 2525 ที่ป้าชินผันตัวเข้าสู่ “วงการหวย” เป้าหมาย คือ “อยากรวย” เพราะลงทุนบาทเดียว ได้ 500 บาท ประจวบกับ พ่อเสียชีวิต ตีเป็นเลข 140 จากข้อสันนิษฐานว่า บ้านเลขที่ คือ 14 ส่วนพ่อเสีย คือ ศูนย์ ปรากฏว่าถูก”หวยใต้ดิน” เลข 140 ได้เงิน 9 พันกว่าบาท ยิ่งทำให้ป้าชินติดใจ จากนั้นก็ “เล่นหวย” มาเรื่อยๆ

และเริ่มมีความโลภมากขึ้นๆ จากซื้อเบอร์ละ 20-30 บาท ขยับเป็นเบอร์ละ 100 บาท แต่ละงวดหมดเงินซื้อ 2-3 ร้อยบาท แต่ก็ไม่เคยถูกหวยอีกเลย จึงคิดได้ว่าน่าจะจดบันทึกไว้ จะได้รู้ว่าคุ้มหรือไม่กับการลงทุน โดยพอซื้อหวยแล้ว จะเก็บกระดาษที่เขียนเลขไว้ทุกงวด เมื่อนำยอดมาสรุปแล้ว จึงมีคำตอบให้ตัวเองว่า ถึงเวลาแล้วล่ะที่ต้อง “เลิกเล่นหวย” เสียที

“ซื้อหวยไม่ถูกก็ผิดหวัง คิดว่างวดหน้าต้องเอาให้ได้ ต้องแก้มือ ก็ซื้อทบไปอีก พอไม่ถูกหวยก็รู้สึกแย่ เสียดายเงิน 300-500 บาท เอามาซื้อกิน จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ใช้จ่ายในครอบครัว หรือออมไว้ใช้หนี้ ธ.ก.ส. 130,000 บาทก็ยังดี

เลยมาคิดๆ ดูว่าถ้าซื้อเบอร์ละ 1 บาท มันมี 1,000 เบอร์ 000 ถึง 999 มันก็หมด 1,000 บาท 1,000 เบอร์จะถูก 1 เบอร์ แต่เราได้มาแค่ 499 บาท ได้ไม่เกินครึ่งด้วยซ้ำ ยังไงก็ขาดทุน

อีกอย่าง ป้าเก็บบิลหวยไว้ พอลองรวมเงินที่ซื้อหวยทั้งหมดมา 18 ปี ตั้งแต่ปี 25 ถึงปี 43 หมดเงินไป 180,000 บาท แต่ป้าเคยถูกครั้งเดียวแค่ 9,500 บาทเอง พอเห็นยอดเงินแล้วรู้สึกตกใจว่า เราหมดเงินไปขนาดนี้เลยหรือ ก็เลยเลิกเล่นหวยมาจนถึงเดี๋ยวนี้”

วิธีการ “เลิกหวย” ของป้าชิน เริ่มจากค่อยๆ เลิก ด้วยเคล็ด “ซื้อกับตัวเอง” โดยเขียนจดตัวเลขที่ต้องการซื้อในกระดาษเป็นร้อยๆ เบอร์ เบอร์ละเป็นพัน เบอร์ละหมื่น บางงวดก็ซื้อหมดไปเป็นแสน แล้วเก็บไว้เอง พอหวยออก ผ่านไปกี่งวดๆ ก็ไม่เคยถูก จนสุดท้ายก็ตัดสินใจเลิกเล่นหวยอย่างเด็ดขาด แล้วหันมา “ออมเงิน” ภายใน 10 ปี ปลดหนี้ ธกส. 130,000 บาท ได้สำเร็จ

และไม่เพียงแต่จะส่งเสริมให้คนในครอบครัวออมเงินเท่านั้น ป้าชิน ยังรณรงค์ให้คนในหมู่บ้านหันมา “ออมเงิน” จนสามารถตั้งกลุ่มออมทรัพย์ของหมู่บ้านขึ้นในปี 2551 แล้วนำเงินออมที่ได้นำปล่อยกู้ จน 5 ปีต่อมา คืนเงินต้นและ “ดอกเบี้ย” ให้สมาชิก มีหลายคนในหมู่บ้านได้เงินคืนเป็นแสน ส่วนป้าชินมี “เงินฝาก” ทั้งสิ้น 5 หมื่นกว่าบาท

“หลังเลิกเล่นหวยก็ออมเงินมาเรื่อยๆ แรกๆ ก็ออมกับกระปุกที่บ้าน แล้วนำเงินไปเข้าบัญชีออมทรัพย์รายวันของ ธ.ก.ส. สะสมได้ 10 ปี พอปี 53 ก็มีเงินใช้หนี้ ธ.ก.ส. ทั้งหมดแสนกว่า ก็ยิ่งทำให้ป้าเห็นว่าถ้าเราออม ยังไงๆ เราก็มีเงินแน่นอน

แรกๆ ป้าต้องรอเงินเหลือก่อนแล้วค่อยออม เลยออมเงินได้นิดเดียว ปีแรกได้แค่ 5-6 พัน ตอนหลังคิดได้ว่า ได้เงินมาแล้วต้องแบ่งเก็บก่อน แล้วค่อยแบ่งใช้ ตั้งเป็นมาตรฐานตัวเองไว้ อีกอย่างต้องตั้งเป้าในการออม แล้วเราก็จะออมเงินได้สำเร็จ ตอนนี้ครอบครัวมี 5 คน ก็ออมคนละ 300 ตกเดือนละ 1500”

กู่ไม่กลับ ยาย “เล่นหวย” หมดเงิน 4 ล้าน 7 “ขายที่” ซื้อหวยต่อ หวังได้คืน

ปัจจุบันเมื่อได้ยินข่าวว่า “คนถูกหวย” ป้าชินไม่มีความรู้สึกอิจฉา หรืออยากกลับไปเล่นหวยอีกเลย เพราะรู้แล้วว่า กว่าจะถูกหวย ต้องหมดเงินไปเยอะ หลัง “เลิกเล่นหวย” ชีวิตป้าชินพ้นทุกข์ ดีและมีความสุขมากขึ้นๆ ปัญหาทะเลาะกับคนครอบครัวก็ไม่มี จากแต่ก่อนเมื่อไม่มีเงินพอใช้จากการเล่นหวย เครียดก็ดื่มเหล้ๅ แล้วก็จะทะเลาะวิวาทกันเป็นประจำ

ป้าชินจึงอยากให้คนในชุมชนมีความสุข มี “เงินเก็บ” และ “พ้นทุกข์” “หมดหนี้” เหมือนตัวเองบ้าง เพราะในชุมชน ยังมีบางคน มีความหวังกับการ “เล่นหวย” อยู่ เพราะรวมๆ เงินที่ซื้อหวยกันแล้ว เดือนๆ หนึ่งทั้งหมู่บ้านน่าจะหมดประมาณ 4-5 หมื่น

และถ้าเป็นทั้งตำบลจะหมดเงินไปอีกมากโข เท่ากับส่งเงินให้ “เจ้ามือหวย” รวยเห็นๆ ป้าชินจึงมักใช้ประสบการณ์ตัวเองเป็น กระบอกเสียงให้คนอื่นทำตาม ซึ่งมีอยู่หนึ่งเคสที่เคยแนะนำ พบยอดเงินซื้อหวยมากว่า 40 ปี หมดไปเกือบ 5 ล้าน

“มีตัวอย่างของป้าคนหนึ่ง ตอนนี้อายุ 80 กว่า เขาเดินตั้ง 11 กิโลเพื่อไปซื้อหวย พกเงินไป 7,000 บาท พอหวยออก ไม่ถูก ก็ร้องไห้เดินกลับบ้าน แต่แกก็ไม่หยุดเล่นหวยนะ ป้าชินก็ไปหา ไปคุย และเขียนให้แกดูว่า เล่นมาตั้งแต่สมัยไหน ตั้งแต่อายุเท่าไร ปรากฏว่าแกเล่นหวยภายใน 40 กว่าปี หมดเงินไปตั้ง 4,700,000 บาท

แล้วป้าชินถามว่าเคยถูกไหม ก็เคยถูก 6 หมื่น แต่ก็ถูกโกง จึงเขียนติดไว้ที่บ้านเขาว่า ตอนนี้หมดเงินไปเท่านี้แล้วนะ แล้วจะให้หมดต่ออีกเท่าไหร่ ก็พูดให้เขาได้คิดด้วยว่า ถ้าเขาเก็บเงิน เขาก็จะมีเงิน 4,700,000 แต่นี่เขาไม่มีเงินเลย จนตอนนี้เขาก็ยังเล่นหวยอยู่เหมือนเดิม จนต้องขายที่เมื่อปี 59 เพื่อเอาเงินมาซื้อหวย บอกจะตามหาเงิน 4,700,000 คืน ”

“เพียงพอ” อีกหนึ่งทางรอดของชีวิต คือ “พอเพียง”

นอกจากการ “เลิกหวย” ช่วยให้ป้าชิน “หายจน” “หมดหนี้” ภายใน 10 ปี แล้ว ป้าชินเผยว่า อีกสิ่งสำคัญที่ทำให้ชีวิตมีความสุขยิ่งๆ ขึ้น คือ การหันมาใช้ชีวิตแบบพึ่งตนเอง

ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของ ร. 9 หลังจากที่ได้เข้าร่วมโครงการ “๙ สู่ชีวิตพอเพียง” ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ได้ร่วมกันจัดทำขึ้น โดยปลูกผักกินเอง และยึดหลักความประหยัด อะไรไม่จำเป็นก็ไม่ซื้อ

“เมื่อก่อนไม่เข้าใจ มันไม่เพียงพอแล้วจะให้พอเพียงได้ยังไง แค่จะกินยังไม่มี หนี้ก็ยังเยอะ จะให้พอเพียงได้ยังไง แต่พอเข้าร่วมโครงการฯ ได้เรียนรู้ ศึกษาดูงานในหลายๆ จังหวัด เห็นภาพของพระองค์ท่านทรงงาน ได้เรียนรู้วิธีคิดของพระองค์ ท่านเคยบอกไว้ว่าทำยังไงถึงจะรอด จะใช้ชีวิตทางเลือกหรือทางรอด คนเราก็ต้องใช้ทางรอดไว้ก่อน

ยากจนแร้นแค้นไม่มีปัญหา ถ้ามีปัญญาพาชีวิตรอดได้ ถ้าใครอยากหายจน “เลิกกู้เงิน” “เลิกพนัน” “เลิกเล่นหวย”

ขอขอบคุณข้อมูลบทความดีๆจาก : fastviweuk