มะยมแดง ผลไม้มีฤทธิ์ทางยา สามารถรักษาได้สารพัดโรค พร้อมประโยชน์และสรรพคุณอีกเพียบ

หามาปลูก ‘มะยมแดง’ ผลไม้มีฤทธิ์ทางยา สามารถรักษาได้สารพัดโรค พร้อมประโยชน์และสรรพคุณอีกเพียบ

เมื่อคนเราใช้ชีวิตอยู่ทุกวันต้องกินต้องเดินต้องวิ่ง พออายุเริ่มมากเซลล์ต่างๆ ในร่างกายก็เริ่มเสื่อมสภาพลงไปตามกาลเวลา แต่ก็อาจจะมีบางคนที่มีร่างกายแข็งแรงแม้ว่าอายุจะมากก็ตาม

อาจเป็นเพราะว่าพวกเขาเหล่านั้นกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย วันนี้เราเลยมีอีกหนึ่งพืชผลไม้ที่ดีมีประโยชน์นำเอามาฝากเพื่อนๆ มะยมแดง ไม้มงคลแถมยังมีประโยชน์ทางยา สามารถรักษาโรคต่างๆ ได้มากมาย

"มะยมแดง" หรือ "มะยมฝรั่ง" ชื่อวิทยาศาสตร์: Eugenia uniflora เป็นพืชในวงศ์ Myrtaceae เป็นไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้น ใบเกลี้ยงเป็นมัน มีตุ่มใสบนผิวใบ ใบจะเป็นสีแดง ดอกหอม สีขาวครีม กลีบเลี้ยงเป็นหลอด กลีบดอกสีขาว ผลสดแบบมีเนื้อหลายเมล็ด ห้อยลง ทรงกลมแบน ผลอ่อนสีเขียว

แก่แล้วเป็นสีส้ม แก่สีแดงสดหรือค่อนข้างดำ ฉ่ำน้ำ รสเปรี้ยวอมหวาน เป็นไม้พื้นเมืองในบริเวณสุรินัมในอเมริกาใต้ ไปจนถึงกายอานาและปารากวัย ปัจจุบันมีปลูกทั่วไป ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีปลูกที่เกาะชวา ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย แต่ไม่มากนัก

รับประทานผลสดหรือแปรรูปเป็นแยม เยลลี่ หรือดอง ในบราซิลใช้ผลิตน้ำส้มสายชูหรือไวน์ ใช้เป็นไม้ประดับ ใบมีน้ำมันเมื่อขยี้จะมีกลิ่นฉุน ใช้ไล่แมลง เปลือกลำต้นมีแทนนินใช้ฟอกหนัง ในสุรินัมและบราซิลใช้ใบบดละเอียดเป็นยาเจริญอาหาร ในชวาใช้ผลเป็นยาลดความดันโลหิต

"มะยมแดง" หรือ "มะยมฝรั่ง" (เชอร์รี่สเปน) “surinam cherry” ผลมีสีแดงและรสชาติหวาน ดูผ่านๆเหมือนลูกเชอร์รี่ เป็นไม้ต้นขนาดเล็ก ไม่มีหนาม ชอบแดดที่สำคัญคือปลูกง่าย ผลทานได้ รสเปรี้ยวจี๊ดจ๊าด เวลาผลออกเต็มต้น

มะยมแดงเป็นไม้ยืนต้น สูง 3-8 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับรูปไข่ หรือรูปใบหอก ปลายแหลม โคนมน สีเขียวสด ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบ แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยหลายดอก กลีบดอกเป็นสีขาวอมชมพู มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เวลามีดอกจะดูสวยงามและส่งกลิ่นหอมโชยเข้าจมูกตอนยืนใกล้ๆ เป็นที่ชื่นใจยิ่ง

ผล รูปทรงกลมแป้นคล้ายผลมะยม รอบผลแบ่งเป็นพูย่นๆ 7-8 พู ภายในมี 1 เมล็ด ผลดิบเป็นสีเขียว เมื่อแก่หรือสุกเป็นสีเหลืองและแดงตามลำดับ ผลสุกรับประทานได้ รสชาติเปรี้ยวปนหวานชุ่มคออร่อยดี ส่วนใหญ่นิยมนำเอา ผลสุกไปแปรรูปเป็นเครื่องดื่ม หรือ ปั่นใส่นํ้าเชื่อมนํ้าแข็งอร่อยมาก ติดผลอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เวลาติดผลจะดกเต็มต้นดูสวยงามยิ่งนัก ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด และตอนกิ่ง

ประโยชน์ สรรพคุณทางยา

ราก : รสจืด สรรพคุณแก้โรคผิวหนัง แก้ผดผื่นคัน ช่วยซับน้ำเหลืองให้แห้ง แก้ประดง ดับพิษเสมหะ

เปลือกต้น : รสจืด สรรพคุณแก้ไข้ทับระดู ระดูทับไข้ และแก้เม็ดผดผื่นคัน

ใบ : รสจืดมัน ปรุงเป็นส่วนประของยาเขียว สรรพคุณแก้ไข้ ดับพิษไข้ บำรุงประสาท ต้มร่วมกับใบหมากผู้หมากเมียและใบมะเฟืองอาบแก้คัน ไข้หัด เหือด และสุกใส

ดอก : ดอกสดใช้ต้มกรองเอาน้ำแก้โรคในตา ชำระล้างในตา

ผล : รสเปรี้ยวสุขุม กัดเสมหะ แก้ไอ บำรุงโลหิต และระบายท้อง

ประโยชน์ ด้านอาหาร

ชาวไทยภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสาน รู้จักรับประทานมะยมเป็นผัก ชาวภาคกลางใช้ยอดอ่อนเป็นผักจิ้มกับน้ำพริก ส้มตำ และนำมาชุบแป้งทอด รับประทานร่วมกับขนมจีนน้ำยา นอกจากนี้ยอดอ่อนยังนำมาแกงเลียง และผลแก่นำมาแกงคั่วได้ ชาวเหนือใช้ยอดมะยมเป็นผักแกล้มรับประทานกับลาบ

ส่วนชาวอีสาน นำยอดอ่อน ใบอ่อน รับประทานกับส้มตำ ลาบ ก้อย ป่น และหมูสับ (แหนมสด) และนำผลแก่ไปปรุงเป็นส้มตำ สำหรับผลมะยมแก่ นอกจากทำแกงได้แล้ว ผลมะยมแก่ยังเป็นผลไม้ โดยรับประทานสดเป็นผลไม้ จิ้มกับเกลือ น้ำปลาหวาน และสามารถปรุงเป็นน้ำมะยม แยมมะยม มะยมดอง มะยมกวน มะยมเชื่อมได้อีกด้วย

คติความเชื่อ : ตามตำราพรหมชาติฉบับหลวง กล่าวว่ามะยมเป็นต้นไม้ที่ควรปลูกไว้ทางทิศตะวันตก (ประจิม) เพื่อป้องกันความถ่อย ถ้อยความ และผีร้ายมิให้มากล้ำกราย ในบางตำราก็ว่า เป็นต้นไม้ที่มีชื่อเป็นมงคลนาม ปลูกแล้วผู้คนจะได้นิยมเหมือนมี นะเมตตามหานิยม

ข้อมูลอื่น : คนไทยเชื่อกันมาตั้งแต่สมัยโบราณว่ามะยมแดงเป็นไม้มงคล นิยมปลูกกันไว้ในบริเวณบ้าน ขยายพันธุ์โดยวิธีเพาะเมล็ด

ขอขอบคุณที่มาจาก : monmai.com