หลักการขอพรจากเทวดาประจำตัวให้ได้ผล และถูกต้อง เป็นผลบุญกับทั้ง 2 ฝ่าย

หลักการขอพรจากเทวดาประจำตัวให้ได้ผล และถูกต้อง เป็นผลบุญกับทั้ง 2 ฝ่าย

เมื่อทำการเชื่อมบุญ ทำให้กระแสบุญผูกพันกันแล้ว เชื่อมกันแล้ว ในเวลาเราจะไปขอพรหรือขอความช่วยเหลือนั้น เราต้องไม่ลืมว่าอย่างไรก็ตามท่านก็เป็นเทวดาท่านมีภพที่อยู่สูงกว่าเราที่เราต้องไปสักการบูชาทำความเคารพ

ขอโมทนาคุณความดีของตัวท่านให้ช่วยคุ้มครองและดลใจให้เราไม่เดินทางผิดและทำดีต่อไป ไม่ใช่การไปขอร้องให้ช่วยด้วยการ “ติดสินบน” โดยการเอาของไปเซ่นไหว้หรือล่อใจท่าน

อย่าลืมว่าเทวดา ท่านก็เป็นภพภูมิที่ยังมีกิเลส (ยังไม่ใช่พระอรหันต์ที่ดับทุกข์แล้วเข้าสู่กระแสนิพานครับ) การไปสร้างกิเลสให้ท่านก็นับว่าเป็นบาปอย่างหนึ่งทำให้กลายเป็นว่าท่านจะไปสร้างกรรมร่วมกับเราแทนซึ่งแน่นอนว่าเหล่าเทวดาผู้ต้องการความดีคงไม่ปรารถนาเช่นนั้น

ที่สำคัญคือ หากเราเป็นคนหนึ่งที่ไปชักชวนให้ท่านเกิดกิเลสให้ท่านร่วมก่อกรรมไม่ดีเพราะเอาสิ่งของไปล่อไปติดสินบน เราก็จะต้องพลอยรับผลกรรมไม่ดีไปด้วย

คิดใหม่ว่า ที่ท่านช่วยให้พรและให้ความเมตตานั้นท่านไม่ได้หวังเครื่องเซ่นไหว้ใดๆ ท่านได้ช่วยเราด้วยความบริสุทธิ์ใจเช่นเดียวกับการที่เราบริสุทธิ์ใจไปขอท่านจะทำให้ท่านได้สร้างบุญเพิ่มการขอพรนั้นเป็นสิ่งที่ดีครับและขอได้ทุกโอกาสขอได้กับเทวดาทุกองค์ (เพราะอย่าลืมว่า ไม่มีเทวดาองค์ไหนมาคอยอยู่ประจำตัวดูแลเราตัวต่อตัวแน่นอน) เมื่อเรายังคงอยู่ในศีลมีบุญติดตัว มีความตั้งใจมั่นและศรัทธาในความดี รับรองว่าความสำเร็จบังเกิดขึ้นกับเราแน่ ๆ

สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ

ในขณะที่กำลังขอพรหรือขอความช่วยเหลือนั้นสิ่งที่ขอก็ต้องเป็นเรื่องที่ดีด้วยหากจุดประสงค์ในการขอไม่บริสุทธิ์ จิตก็จะไม่สะอาดไม่อาจก่อพลังงานที่ดีขออะไรไปก็ไม่ได้ผลไม่เกิดอะไรขึ้นและท่านเทวดาก็คงไม่อำนวยผลให้เกิด เพราะถ้าท่านทำอย่างนั้นก็เท่ากับว่าท่านได้ทำบาป แล้วของที่ไม่ดีอย่างกรรมชั่วและบาปนั้นไม่มีใครเขาอยากได้

เมื่อจุดประสงค์ดี จิตใจสะอาด และสิ่งที่ขอกำลังจะเป็นผลให้ลองสังเกตดูว่า ช่วงเวลาที่จิตใจสะอาด จะมีความกล้าแข็งทางจิตขึ้นด้วยจะมีความรู้สึกโล่งโปร่งสบายอาจมีอาการขนลุก น้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัวหรือมีแสงสว่างวาบขึ้นมาในจิตแสดงว่า เทวดาท่านรับรู้แล้วในสิ่งที่เราต้องการและท่านจะช่วยอำนวยพรให้ส่วนเรื่องจะประสบผลสำเร็จดังที่ตั้งใจหวังหรือไม่ ก็อยู่ที่กรรมลิขิตตามหลักของ “กฎแห่งกรรม” อีกทีหนึ่งครับ

การบูชาด้วยอามิสบูชาหรือด้วยสิ่งของต่างๆ นั้น คงไม่จำเป็นอะไรสำหรับเทวดาประจำตัว เพราะโดยทั่วไปแล้วเทวดาทั้งหลายนั้น ท่านมีกายทิพย์ สิ่งที่ท่านใช้ในประจำวันล้วนเป็นของทิพย์ทั้งสิ้น ท่านปรารถนาบุญกุศล ที่เป็นสุดยอดของทิพย์ทั้งปวง

ดังนั้น การบูชาด้วยสิ่งของนั้นท่านที่อยากจะทำก็ทำได้ ไม่ได้ผิดแต่ประการใด ถือว่าเป็นแสดงความเคารพ ขอให้บูชาด้วยน้ำสะอาด ดอกไม้หรือเครื่องหอมก็พอจะได้ ไม่สิ้นเปลืองอะไรมาก

เทวดาท่านดูที่เจตนานะครับ ไม่ได้ดูด้วยสิ่งของนั้นมีราคาค่างวดหรือต้องแพงอะไร ขอให้บูชาท่านด้วยการปฏิบัติบูชา การทำกรรมดี อุทิศบุญไปให้ท่านทุกครั้งที่เราสร้างบุญเท่านี้ท่านจะรักและเมตตาเรายิ่งขึ้นแน่นอน

เมื่อท่านได้รับความรู้ในเรื่องการบูชาเทวดาแล้วอย่างครบถ้วน แล้วลองนำไปปฏิบัติดู ชีวิตของท่าจะพบกับเรื่องดีๆ ทำมาค้าขาย ทำกิจกรรมอะไรก็จะราบรื้นครับ

ขอบพระคุณแหล่งข้อมูล : torthammarak