วันนี้ (1 เม.ย.) นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความครูปรีชา เปิดเผยว่า ตนได้รับแต่งตั้งให้เป็นทนายความของครูปรีชา อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า หวย 30 ล้านบาทเป็นของครูปรีชา และหลังจากนี้จะเตรียมดำเนินคดีกับผู้ที่ล่วงละเมิดทุกคนที่เคยใส่ความครูปรีชา รวมทั้งคนที่เผยแพร่ข้อมูลลงในเฟซบุ๊กและในยูทูปอีกด้วย
ทนายวรยุทธ กล่าวถึงเรื่องคลิปเสียงสนทนาระหว่างหญิงสาว 2 คน ที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมนำมาเผยแพร่ โดยยืนยันว่าไม่ส่งผลกระทบต่อรูปคดีของครูปรีชา เพราะถ้าหากเสียงนั้น เป็นเสียงของฟ้าจริงตามที่หลายคนสงสัย ก็ยิ่งไม่เกี่ยวอะไรและไม่ส่งผลต่อคดีนี้ เพราะฟ้าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี
อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าผู้หญิง 2 คนในคลิปเสียง มีความผิดฐานหมิ่นประมาท เนื่องจากมีบุคคลที่ 3 รับรู้ในการพูดคุย และถูกนำมาเผยแพร่ต่อ ส่วนนายอัจฉริยะ ที่นำคลิปซึ่งมีการหมิ่นประมาทมาเผยแพร่ในเพจ ก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ด้วยเช่นกัน
ส่วนเรื่องที่นายอัจฉริยะอ้างว่า "ไม่รับรองว่าเป็นเสียงใคร ต้องรอการพิสูจน์ต่อไป" ตนมองว่านายอัจฉริยะ กลัวโดนฟ้อง แต่ถ้าหากออกมาเปิดคลิปเสียง แล้วจะพาดพิงกลุ่มครูปรีชา ก็อยากให้ระบุมาเลยว่าเป็นใคร ถ้ากล้าออกมาเปิดเผย ก็ต้องกล้าบอกชื่อ
ด้านนายสุกิจ พูลศรีเกษม ทนายความ เปิดเผยว่า ตนได้ฟังคลิปดังกล่าวแล้ว จึงขอปฏิเสธว่าไม่มีมูลความจริงเลย ตนไม่ได้เป็นทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และไม่เคยรู้จัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นการส่วนตัว เพียงแต่ชอบการทำงานของท่าน ดูเป็นคนกล้า พร้อมกับยืนยันว่า ไม่ได้รู้จักครอบครัวของพล.อ.ประยุทธ์ด้วย
ส่วนที่มีการกล่าวถึง พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี ก็ไม่เป็นความจริง ตนเคยโทรศัพท์ไปหาผู้การกองปราบปรามเพื่อขอเบอร์ท่าน เพราะเข้าใจผิดว่าเป็น พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนชื่อ เพราะนามสกุลคล้ายกัน แต่พอมาทราบว่าเป็นคนละคน ตนก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก ซึ่งท่านก็ไม่เคยโทรหาตนด้วย
ทั้งนี้ ในคลิปไม่ใช่การนินทา แต่เป็นการยืนยันข้อเท็จจริง เป็นการประจาน ซึ่งตนกับนายอัจฉริยะเป็นคู่กรณีกัน โอกาสที่เขาจะกลั่นแกล้งหรือบิดเบือนข้อเท็จจริงมีสูง ส่วน น.ส.กนกพรรณ หมวกไสว หรือ ฟ้า จะไปพูดจริงหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่ยืนยันว่า ตนไม่เคยพูดกับฟ้าแบบนั้น ซึ่งคนพูดก็ต้องมีความผิดอยู่แล้ว เพราะต้องพิจารณากลั่นกรองก่อนถึงจะนำมาเปิดเผย
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (2 เม.ย.) ตนจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะ และสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ใน 3 ข้อหา คือ ร่วมกันดูหมิ่นศาล, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา ซึ่งหากตำรวจพิสูจน์ได้ว่า เสียงผู้หญิงในคลิปเป็นเสียงของฟ้าจริง ตนก็จะแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มในภายหลัง โดยระบุว่า ช่วยก็ส่วนช่วย แต่เมื่อทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียงก็ต้องดำเนินตามคดีขณะเดียวกัน ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ น.ส.กนกพรรณ หมวกไสว หรือ ฟ้า เดินทางเข้าแจ้งความนายอัจฉริยะ และทุกคนที่นำคลิปดังกล่าวมาเผยแพร่ โดยยืนยันว่าเป็นคลิปเสียงของตนจริง ที่มีการคุยแบบโทรประชุมในกลุ่มไลน์ ซึ่งคลิปดังกล่าวเป็นเพียงบางช่วงบางตอน เชื่อว่ามีคนไม่หวังดีนำไปตัดต่อ
ส่วนปลายสายที่มีการคุยด้วย เป็นรุ่นน้องที่รู้จักกัน และเคยมีปัญหากันมาก่อน โดยหญิงที่อยู่ในสายกับตนมีการเริ่มต้นติดต่อมาเพื่อคุยงานถ่ายเอ็มวีก่อน ตนจึงยอมคุยด้วยก่อนจะโยนคำถามมาให้ตนตอบ ยอมรับว่ามีการพูดพาดพิงถึงบุคคลอื่น แต่ตนสงสัยว่าใครเป็นผู้ตัดต่อคลิป เป็นผู้เก็บเสียง รวมทั้งเผยแพร่คลิปและนำมาโจมตีใส่ร้ายตน ส่วนตัวไม่ห่วงว่าตนจะผิด ถ้าหากคนที่ตนกล่าวถึงจะเอาผิดตน แต่เชื่อว่าผู้ใหญ่ที่พูดถึงคงไม่มาเอาผิดตนเพียงเพราะเรื่องนี้
น.ส.กนกพรรณกล่าวทั้งน้ำตาว่า หลายครั้งที่ตนถูกโจมตี ถูกค้นทะเบียนราษฎร์ ขุดคุ้ยประวัติ ตนกลับไม่ได้รับความยุติธรรมในการดำเนินคดี ทำไมเจ้าหน้าที่ไม่จัดการกับคนเหล่านี้ ซึ่งเพจเฟซบุ๊กที่นำคลิปมาเผยแพร่ก็ผิดกฎหมาย คนที่แชร์ก็ผิด แล้วทำไมเจ้าหน้าที่ถึงไม่จัดการให้ ครั้งนี้ตนยืนยันจะดำเนินคดีอย่างจริงจัง เพราะตนโดนรังแกมาโดยตลอด สื่อมวลชนบางสำนักนำคลิปไปนำเสนอโดยยังไม่ตรวจสอบเพราะเห็นว่าเล่นข่าวฟ้าสนุก เอาไปเขียนเอาไปลงข่าว แล้วหากไม่ใช่ความจริงใครจะรับผิดชอบ หากวันหนึ่งตนถูกยิงตายมาจะทำอย่างไร
ซึ่งคนที่ทำมีเจตนาอะไร ทำไมนำเรื่องไม่ดีออกมา เสียงทั้งหมดของคลิปก็มีการพูดในหลายๆ เรื่อง ตอนนี้ตนไม่ไหวแล้ว เวลาตนไม่พูด เงียบ ไม่ตอบโต้ กลับกลายเป็นว่าตนเป็นฝ่ายถูกกระทำ อยากถามหน่วยงานราชการทำอะไรอยู่ ตนเดือดร้อนมาเป็นปี ไม่มีความคืบหน้า แต่ทำไมคนทำผิดกฎหมาย กลับยังทำผิดได้ ทุกอย่างที่ทำ คุณไม่ใช่ลูกผู้ชาย อยากถามเจ้าหน้าที่จะปล่อยไว้หรือ
ทั้งนี้ ฟ้ายังขอโทษบุคคลที่กล่าวถึง ผู้ใหญ่ที่พาดพิงไปในคลิปว่า ที่พูดไปไม่ได้มีเจตนา เพราะการสนทนาดังกล่าว เป็นการสนทนาในกลุ่ม ส่วนหลังจากนี้ ตนไม่กลัวว่าจะถูกนำคลิปอะไรมาเผยแพร่อีก เพราะตนไม่ได้ทำอะไรผิด ตนพูดความจริง ส่วนผู้ใหญ่คนอื่นๆ ทั้ง ดร.สุกิจ ที่ตนพูดถึงในคลิป ก็ไม่รู้เห็นด้วย เพราะตนอยากพูดให้คนที่ตนนับถือเหมือนพ่อดูเก่งเท่านั้น
ส่วนกรณีที่ตนจะออกมาแฉครูปรีชา ระบุว่า ตนไม่เคยพาดพิงใครก่อน หากตนถูกพาดพิง ตนก็จะไม่เมตตา ตอนนี้ตนยังไม่มีอะที่จะออกมาแฉ ยืนยันว่า ที่ผ่านมาไม่เคยรับผลประโยชน์จากคดีหวย 30 ล้าน หากใครจะกล่าวหาตน ก็ต้องนำหลักฐานมาแสดงด้วย และพรุ่งนี้ (2 เม.ย.) ตนจะเดินทางไปถอนฟ้องนายตำรวจบางท่าน ที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ส่วนรายละเอียดตนขอไปเปิดเผยที่ศาล
ชมคลิป
VVVVVVVVV
VVVVVV
VVVVVVVVV
ขอบคุณ AMARIN TVHD