สืบเนื่องกรณีการพบโครงกระดูกไร้กระโหลกศีรษะบริเวณแหล่งโบราณคดีตรงข้ามวัดสันเปาโล อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี เมื่อ พศ.2557 โดยมีข้อสันนิษฐานว่าอาจเป็นโครงกระดูกของพระปีย์หรือฟอลคอน ซึ่งถูกประหารในคราวช่วงชิงอำนาจยุคปลายรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราชนั้น
เมื่อวันที่ 1 เมษายน นายเจตน์กมล วงศ์ท้าว นักโบราณคดีชำนาญการ ประจำสำนักศิลปากรที่ 4 ลพบุรี เปิดเผยกับ ‘มติชนออนไลน์' ว่า
จากการพิจารณาหลักฐานต่างๆที่ได้จากการขุดค้นอย่างละเอียด เชื่อว่าโครงกระดูกที่พบ ไม่ใช่พระปีย์ หรือฟอลคอนแต่อย่างใด แต่เป็นมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ โดยพบเศษภาชนะดินเผาแบบมีสันอยู่บริเวณใกล้กับจุดที่พบโครงกระดูก ซึ่งบ่งชี้ถึงการเป็นแหล่งฝังศพยุคก่อนประวัติศาสตร์นั่นเอง ส่วนการที่โครงกระดูกมีสภาพไม่สมบูรณ์ โดยกระโหลกศีรษะหายไปนั้น คาดว่ามีสาเหตุจากการถูกรบกวนชั้นดินเมื่อครั้งสร้างวัดสันเปาโล ซึ่งต้องขุดตัดลงไปใต้ดินเพื่อวางรากฐานอาคาร
"เดิมพื้นที่บริเวณนั้นเป็นเป็นแหล่งฝังศพยุคก่อนประวัติศาสตร์ ต่อมา เมื่อมีการพระราชทานที่ดินให้สร้างวัดสันเปาโล ตอนทำการก่อสร้าง ต้องขุดดินเพื่อวางฐานราก จึงตัดลงไปในชั้นดิน ทำให้โครงกระดูกเหลือไม่เต็มตัว รอบๆ เจอโบราณวัตถุยุคก่อนประวัติศาสตร์จำนวนมาก ที่ว่าคอขาด จึงเป็นความบังเอิญจากการถูกรบกวน ตอนนี้โครงกระดูกถูกฝังกลบไว้ที่เดิม เนื่องจากที่ดินเป็นของเอกชน ตอนที่กรมศิลป์เข้าไปขุดค้น เนื่องจากเอกชนต้องการสร้างอาคารพาณิชย์ เจ้าหน้าที่จึงต้องขุดเพื่อตรวจสอบว่ามีหลักฐานทางโบราณคดีหรือไม่ ปรากฏว่าพบหลักฐานจำนวนมาก โดยเฉพาะฐานอาคารที่คาดว่าเป็นโบสถ์เก่า ล่าสุด อยู่ระหว่างดำเนินการติดต่อขอซื้อที่ดินจากเอกชน" นายเจตน์กมลกล่าว
