เชื่อว่าหลายๆคนในสมัยก่อนนั้น คงเคยได้ยินคนเฒ่าคนแก่ท่านห้ามนักหนาว่าอย่าต้มไข่ในหม้อข้าวเด็ดขาด ว่ากันว่าหากลูกสาวหรือลูกสะใภ้บ้านไหนแอบต้มไข่ในหม้อข้าว ก็จะถูกผู้ใหญ่เรียกไปตำหนิติเตียนกันยกใหญ่เลยทีเดียว แต่รู้หรือไม่ว่าสาเหตุที่คนโบราณห้ามต้มไข่ในหม้อข้าว คืออะไรกันแน่?
โดยสมัยก่อนมีความเชื่อว่าหากใครก็ตามที่ต้มไข่ในหม้อข้าว จะทำให้พระแม่โพสพหนีไป จะเกิดความจัญไร ความชั่วร้าย ความไม่ดีทั้งปวง ถือเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ และไม่มีใครอยากประสบพบเจอนั่นเอง
พระแม่โพสพ เทพีแห่งข้าวปลาอาหาร
ในสมัยปัจจุบันข้อห้ามดังกล่าวอาจไม่มีการถือปฏิบัติมากนัก เนื่องจากยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป เชื่อได้ว่าทุกวันนี้มีคนจำนวนมากที่นิยมต้มไข่ไปพร้อมๆ กับการหุงข้าว เพราะเป็นวิธีที่สะดวกและยังได้ไข่ต้มสุกๆ ทานพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ ในทันที และยังช่วยประหยัดเวลาในการทำอาหารอีกด้วย
แต่ถ้าหากมองในมุมกลับ ข้อห้ามดังกล่าวก็มีจุดที่ชวนให้คิดเช่นกัน ว่าสาเหตุที่ห้ามไม่ให้มีการต้มไข่ในหม้อข้าวนั้น ก็คงเนื่องมาจากการกระทำดังกล่าวอาจแสดงได้ถึงความไม่ใส่ใจในการปรุงแต่งอาหาร
ซึ่งหญิงในสมัยโบราณนั้นถือเป็นเสน่ห์คู่ตัวที่ขาดไม่ได้เลยแม้ แต่น้อย หากหญิงใดสามารถทำอาหารได้เลิศรสและมีการจัดแต่งอาหารด้วยความประณีตสวยงาม ย่อมได้รับคำชื่นชมว่ามีความเป็นกุลสตรีไทยที่เพียบพร้อม และอีกเหตุผลหนึ่งทางวิทยาศาสตร์เชื่อว่า เปลือกไข่นั้นอาจมีเชื่อโรคต่างๆ ติดมาด้วยอาจจะแพร่ลงไปในข้าวได้ เพราะมีเชื้อโรคหลายชนิด ที่ทนความร้อนระดับนั้นได้ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอาหารท้องเสีย และโรคต่างๆ ตามมา
นอกจากนี้ การต้มไข่ในหม้อข้าวอาจทำให้ข้าวที่หุงเสียเร็ว จนไม่สามารถเก็บไว้รับประทานได้ทั้งวัน ซึ่งหากทำไข่แตกใส่ข้าวก็ยิ่งแย่กันไปใหญ่เลย