ลองอ่านสักนิด สำหรับเป็น พ่อ แม่ แม้แต่หลวงพ่อยังน้ำตาซึม
เรื่องราวนี้มาจากบทสนทนาของพ่อกับลูกชายของครอบครัวหนึ่งที่ทำให้คุณต้องน้ำตาซึม เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น ตามมาดูกัน
ลูกชาย: พ่อครับ ผมขอถามอะไรหน่อยได้มั้ยครับ
พ่อ: แน่นอน ได้สิลูก , ลูกอยากจะถามอะไรละ
ลูกชาย: พ่อครับใน 1 ชั่วโมงพ่อหาเงินได้เท่าไหร่เหรอครับ
พ่อ: มันไม่ใช่ธุระอะไรของลูก ทำไมลูกถึงมาถามอะไรแบบนี้
ลูกชาย: ผมก็แค่อยากรู้ครับ ได้โปรดบอกผมเถอะครับพ่อ สรุปแล้วใน 1 ชั่วโมงพ่อหาเงินได้เท่าไหร่เหรอครับ
พ่อ: ถ้าหากลูกต้องการจะรู้ให้ได้ พ่อก็จะบอกให้ฟังว่า ใน 1 ชั่วโมง พ่อหาเงินได้ 100 บาท
ลูกชาย: ลูกทำหน้าเศร้าพร้อมกับก้มหน้าลง แล้วอุทานว่า โห และกล่าวต่อว่า พ่อครับผมขอยืมเงินพ่อ 50 บาทได้มั้ยครับ
พ่อ: พ่อของเขาโมโหอย่างมาก และพูดว่า ถ้าเพราะอยากจะขอยืมเงินพ่อ เพื่อไปซื้อของเล่นห่วยๆ หรือ สิ่งของไร้สาระพวกนั้น ลูกควรกลับไปที่ห้องและเข้านอน ทำไมลูกถึงเป็นคนเห็นแก่ตัวแบบนี้ พ่อทำงานหนักทุกวัน เพื่อเลี้ยงลูกที่มีนิสัยอย่างนี้เหรอ
ลูกชายตัวน้อยเงียบลง และค่อยๆเดินขึ้นไปที่ห้องของเขาและปิดประตูลง ส่วนฝั่งพ่อก็นั่งลงด้วยความโมโห นึกย้อนคิดถึงคำถามของลูกชายว่า เขากล้าถามกับเราอย่างนั้นได้อย่างไร เมื่อเวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง อารมณ์ของพ่อเริ่มสงบลง และจึงเริ่มคิดได้ว่า บางทีอาจจะมีบางสิ่งที่มีราคา 50 บาท ซึ่งลูกอยากได้จริงๆและความจริงแล้ว เขาก็ไม่เคยถาม หรือ ขอเงินเรามาก่อนเลย ทันใดนั่นเองพ่อจึงตัดสินใจเดินขึ้นไปหาลูกน้อยที่ห้องนอน
พ่อ: ยังไม่นอนอีกเหรอลูก
ลูกชาย: ไม่ครับพ่อ ผมยังไม่อยากนอน
พ่อ: พ่อมาคิดดูแล้ว บางทีพ่อคงทำงานจนเหนื่อยเกินไปถึงได้พูดจารุนแรงกับลูกขนาดนั้น แล้วพ่อก็ยื่นเงิน 50 บาทที่ลูกขอยืมพ่อ และกล่าวว่า เอาไปสิ
หนุ่มน้อยฉีกยิ้มด้วยความดีใจ พร้อมกับลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว และเขาก็รีบดึงแบงค์ยับๆจำนวนหนึ่ง และเศษเหรียญเล็กๆน้อยๆ ออกมาจากใต้หมอนของเขา เขานั่งบรรจงนับมันอย่างช้าๆ แล้วค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองพ่อ แต่ในขณะเดียวกันกับที่พ่อเริ่มจะโมโหขึ้นอีกรอบ เนื่องจากเห็นลูกชายซ่อนเงินจำนวนหนึ่งไว้ใต้หมอน
พ่อ: ลูกจะเอาเงินเยอะแยะขนาดนี้ไปทำอะไร ไหนบอกพ่อมาซิ ในเมื่อลูกก็มีมันอยู่มากแล้ว (พ่อถามด้วยอารมณ์เริ่มโกรธ)
ลูกชาย: เนื่องจากผมมีไม่พอครับพ่อ แต่ตอนนี้ผมมีครบแล้ว จากนั้นลูก็บอกว่า พ่อครับ นี่เงิน 100 บาท ผมขอซื้อเวลาทำงานของพ่อ 1 ชั่วโมง พ่อครับ พรุ่งนี้ตอนเย็น พ่อช่วยกลับบ้านมาหาผมเร็วๆนะครับ ผมเพียงแค่อยากจะทานข้าวเย็นกับพ่อครับ
ในขณะนั้นเองพ่อหยุดนิ่งไปชั่วขณะ เนื่องจากความเจ็บปวดที่หน้าอก มันรู้สึกเหมือนดวงใจของเขาจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ทันใดนั้นพ่อรีบคุกเข่าลง โผเข้ากอดลูกชายทั้งน้ำตาพร้อมกับขอให้ลูกชายสุดที่รักยกโทษให้ตัวเขา
เราอยากจะบอกคุณว่า นี่เป็นเพียงเรื่องสั้นๆ ที่เราอยากจะเตือนสติให้คุณคิดว่า คุณไม่ควรปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไร้ความหมาย พรุ่งนี้ถ้าหากคุณตายลงในที่ทำงานของคุณ บริษัทก็สามารถที่จะหาคนมาทำงานแทนที่ช่วงเวลาของคุณได้อย่างง่ายดาย แต่สำหรับครอบครัวและคนที่คุณรัก พวกเขาไม่สามารถที่จะหาใครมาแทนที่คุณในช่วงเวลาที่สูญเสียไปคุณได้ ฉะนั้นคุณอย่าลืมให้เวลากับครอบครัวและคนที่เรารัก พวกเขาอาจกำลังรอคุณอยู่ในตอนนี้
ที่มา: แดง จิตต์วารินทร์
เรื่องราวนี้มาจากบทสนทนาของพ่อกับลูกชายของครอบครัวหนึ่งที่ทำให้คุณต้องน้ำตาซึม เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น ตามมาดูกัน
ลูกชาย: พ่อครับ ผมขอถามอะไรหน่อยได้มั้ยครับ
พ่อ: แน่นอน ได้สิลูก , ลูกอยากจะถามอะไรละ
ลูกชาย: พ่อครับใน 1 ชั่วโมงพ่อหาเงินได้เท่าไหร่เหรอครับ
พ่อ: มันไม่ใช่ธุระอะไรของลูก ทำไมลูกถึงมาถามอะไรแบบนี้
ลูกชาย: ผมก็แค่อยากรู้ครับ ได้โปรดบอกผมเถอะครับพ่อ สรุปแล้วใน 1 ชั่วโมงพ่อหาเงินได้เท่าไหร่เหรอครับ
พ่อ: ถ้าหากลูกต้องการจะรู้ให้ได้ พ่อก็จะบอกให้ฟังว่า ใน 1 ชั่วโมง พ่อหาเงินได้ 100 บาท
ลูกชาย: ลูกทำหน้าเศร้าพร้อมกับก้มหน้าลง แล้วอุทานว่า โห และกล่าวต่อว่า พ่อครับผมขอยืมเงินพ่อ 50 บาทได้มั้ยครับ
พ่อ: พ่อของเขาโมโหอย่างมาก และพูดว่า ถ้าเพราะอยากจะขอยืมเงินพ่อ เพื่อไปซื้อของเล่นห่วยๆ หรือ สิ่งของไร้สาระพวกนั้น ลูกควรกลับไปที่ห้องและเข้านอน ทำไมลูกถึงเป็นคนเห็นแก่ตัวแบบนี้ พ่อทำงานหนักทุกวัน เพื่อเลี้ยงลูกที่มีนิสัยอย่างนี้เหรอ
ลูกชายตัวน้อยเงียบลง และค่อยๆเดินขึ้นไปที่ห้องของเขาและปิดประตูลง ส่วนฝั่งพ่อก็นั่งลงด้วยความโมโห นึกย้อนคิดถึงคำถามของลูกชายว่า เขากล้าถามกับเราอย่างนั้นได้อย่างไร เมื่อเวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง อารมณ์ของพ่อเริ่มสงบลง และจึงเริ่มคิดได้ว่า บางทีอาจจะมีบางสิ่งที่มีราคา 50 บาท ซึ่งลูกอยากได้จริงๆและความจริงแล้ว เขาก็ไม่เคยถาม หรือ ขอเงินเรามาก่อนเลย ทันใดนั่นเองพ่อจึงตัดสินใจเดินขึ้นไปหาลูกน้อยที่ห้องนอน
พ่อ: ยังไม่นอนอีกเหรอลูก
ลูกชาย: ไม่ครับพ่อ ผมยังไม่อยากนอน
พ่อ: พ่อมาคิดดูแล้ว บางทีพ่อคงทำงานจนเหนื่อยเกินไปถึงได้พูดจารุนแรงกับลูกขนาดนั้น แล้วพ่อก็ยื่นเงิน 50 บาทที่ลูกขอยืมพ่อ และกล่าวว่า เอาไปสิ
หนุ่มน้อยฉีกยิ้มด้วยความดีใจ พร้อมกับลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว และเขาก็รีบดึงแบงค์ยับๆจำนวนหนึ่ง และเศษเหรียญเล็กๆน้อยๆ ออกมาจากใต้หมอนของเขา เขานั่งบรรจงนับมันอย่างช้าๆ แล้วค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองพ่อ แต่ในขณะเดียวกันกับที่พ่อเริ่มจะโมโหขึ้นอีกรอบ เนื่องจากเห็นลูกชายซ่อนเงินจำนวนหนึ่งไว้ใต้หมอน
พ่อ: ลูกจะเอาเงินเยอะแยะขนาดนี้ไปทำอะไร ไหนบอกพ่อมาซิ ในเมื่อลูกก็มีมันอยู่มากแล้ว (พ่อถามด้วยอารมณ์เริ่มโกรธ)
ลูกชาย: เนื่องจากผมมีไม่พอครับพ่อ แต่ตอนนี้ผมมีครบแล้ว จากนั้นลูก็บอกว่า พ่อครับ นี่เงิน 100 บาท ผมขอซื้อเวลาทำงานของพ่อ 1 ชั่วโมง พ่อครับ พรุ่งนี้ตอนเย็น พ่อช่วยกลับบ้านมาหาผมเร็วๆนะครับ ผมเพียงแค่อยากจะทานข้าวเย็นกับพ่อครับ
ในขณะนั้นเองพ่อหยุดนิ่งไปชั่วขณะ เนื่องจากความเจ็บปวดที่หน้าอก มันรู้สึกเหมือนดวงใจของเขาจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ทันใดนั้นพ่อรีบคุกเข่าลง โผเข้ากอดลูกชายทั้งน้ำตาพร้อมกับขอให้ลูกชายสุดที่รักยกโทษให้ตัวเขา
เราอยากจะบอกคุณว่า นี่เป็นเพียงเรื่องสั้นๆ ที่เราอยากจะเตือนสติให้คุณคิดว่า คุณไม่ควรปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไร้ความหมาย พรุ่งนี้ถ้าหากคุณตายลงในที่ทำงานของคุณ บริษัทก็สามารถที่จะหาคนมาทำงานแทนที่ช่วงเวลาของคุณได้อย่างง่ายดาย แต่สำหรับครอบครัวและคนที่คุณรัก พวกเขาไม่สามารถที่จะหาใครมาแทนที่คุณในช่วงเวลาที่สูญเสียไปคุณได้ ฉะนั้นคุณอย่าลืมให้เวลากับครอบครัวและคนที่เรารัก พวกเขาอาจกำลังรอคุณอยู่ในตอนนี้
ที่มา: แดง จิตต์วารินทร์