ไอเดียสุดเจ๋ง!! วิธีปลูกพืชไร้ดินแบบใหม่ด้วย "กระบอกไม้ไผ่" !!

ไฮโดรโปนิกส์ ( Hydroponics) คือ เป็นการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน นับเป็นวิธีการใหม่ในการปลูกพืช โดยเฉพาะการปลูกผักและพืชที่ใช้เป็นอาหาร เนื่องจากประหยัดพื้นที่ และไม่ปนเปื้อนกับสารเคมีต่างๆ ในดิน ทำให้ได้พืชผักที่สะอาดเป็นอาหาร



ปลูกผักโดยไม่ต้องใช้ดิน คือการปลูกผักด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์แต่การปลูกผักด้วยไฮโดรโปนิกส์มีต้นทุนสูง จึงคิดหาวิธีปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ เปลี่ยนจากวัสดุอุปกรณ์พวก pvc ที่มีราคาแพงโดยการคิดค้นวัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่น ทดแทน เช่นกระบอกไม้ไผ่ ทำให้ต้นทุนการผลิตน้อยลง ประชาชนทั่วไปสามารถประดิษฐ์ใช้เองในครัวเรือนได้

“การปลูกผักด้วยระบบนี้มีรอบปลูกสั้นกว่าการปลูกด้วยดินสามารถปลูกผักเมืองหนาวได้ ประหยัดน้ำกว่าการใช้ดินทำให้ลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ อีกทั้งยังได้บริโภคผักปลอดจากสารพิษไร้สารเคมีอีกด้วย”

การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน(ไฮโดรโพนิกส์) หมายถึงวิธีการปลูกพืชเพื่อให้พืชได้รับสารอาหารหรือสารละลายธาตุอาหารพืช ที่มีน้ำผสมกับแร่ธาตุที่ต้องการจากทางรากพืช โดยพืชที่ปลูกนั้นจะเป็นการปลูกลงวัสดุปลูกหรือโดยไม่ต้องมีวีสดุปลูกก็ได้

วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการปลูกพืชแบบไม่ใช้ดินวัสดุที่จำเป็นสำหรับการปลูกพืชแบบไม่ใช้ดินที่ใช้กันทั่้วไป ได้แก่โรงเรือน ภาชนะและวัสดุที่ใช้ในการปลูก ปุ๋ยหรือธาตุอาหารพืชน้ำ ปั๊มน้ำ ระบบไฟฟ้า เมล็ดพันธุ์ พืชหรือกล้าพืชที่จะใช้ปลูก ฟองน้ำ โฟม เครื่องมือวัดค่า EC เครื่องมือวัดค่า pH ของน้ำถาดเพาะเมล็ด ถ้วยปลูก

ในกรณีที่จะใช้ไม้ไผ่แทนวัสดุแนะนำให้ใช้ต้นไผ่ที่อายุแก่จัด เพื่อความยืดอายุการใช้งาน

ขั้นตอนการปลูกพืชแบบไม่ใช้ดิน


1. จัดเตรียมชุดปลูกให้พร้อม โดยถาดปลูกจะเป็นระบบสำเร็จรูป ถอดประกอบได้ง่าย ให้ตั้งอยู่กลางแจ้งมีแสงแดด ประมาณวันละ 6-8 ชั่วโมง เช่น สนามหญ้าหน้าบ้าน หรือ ดาดฟ้า

2. จัดเรียงฟองน้ำในถาดเพาะ รดน้ำให้ชุ่มจากนั้นใส่เมล็ดพันธุ์ที่ต้องการในฟองน้ำ ใช้ผ้าคลุมปิดถาดเพาะหรือเก็บไว้ในที่มืด รดน้ำเช้าและเย็นรอจนเมล็ดพันธุ์งอก และพ้นฟองน้ำ(ประมาณ 2 วัน)


3. เปิดผ้าคลุมออกให้ต้นกล้าได้รับแสงแดด รดน้ำช่วงเช้าและช่วงเย็น ต่อไปอีก 5-7วัน จนต้นกล้ามีใบเลี้ยงคู่และรากงอกจากฟองน้ำ พร้อมสำหรับย้ายไปปลูก

4. ย้ายกล้าลงปลูก

ข้อดีของการใช้ไม้ไผ่แทนวัสดุการปลูก

1. เป็นการใช้วัสดุที่หาง่ายในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์

2.ลดต้นทุนในการจัดหาวัสดุการปลูก

3. ดูสวยงาม สามารถประดับสวนได้

ข้อเสีย

1. เมื่อใช้ไปนานๆจะเกิดรอยแตกถ้าใช้ในที่กลางแจ้ง

2. จะเกิดรา

ขอขอบคุณเนื้อหาจาก : thaiarcheep.com