#แชร์สนั่น!! "แม่เฒ่า" ผู้ตัดขาดโลกสิ้นเชิง หนีครอบครัว ใช้ชีวิตลำพังกลางป่า นานกว่า 40 ปี พอรู้เหตุผล สะเทือนใจจนพูดไม่ออก!!
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า วรณัน สาระศาลิน ได้เผยแพร่เรื่องราวชีวิตของหญิงชรารายหนึ่ง ที่ใช้ชีวิตอยู่กลางป่าเพียงลำพังนานกว่า 40 ปี โดยแกใช้ชีวิตทุกวันอยู่กับธรรมชาติ สร้างฝายชะลอน้ำ และปลูกต้นไม้ด้วยมือตัวเองเพื่อถวายในหลวง และตอบแทนบุญคุณของธรรมชาติที่อาศัยอยู่ อีกทั้งยังขึ้น-ลงเขาเป็นระยะทางไกลว่า 7 กิโลเมตร ทุกๆวันพระ เพื่อเดินทางไปถือศีล 8 ที่วัด อีกด้วย
โดยเฟซบุ๊ก วรณัน สาระศาลิน ได้โพสต์รูปภาพของหญิงชรา พร้อมเขียนข้อความบอกเล่าเรื่องราวสุดประทับใจที่เกิดขึ้นดังนี้
ย่ายิ้ม หญิงชราวัย 89 ปี ชาวจังหวัดพิษณุโลก ที่หันหลังให้กับความเจริญของโลกภายนอก อาศัยอยู่กลางป่าเพียงลำพังนานกว่า 40 ปี ย่ายิ้มสร้างฝายชะลอน้ำ 16 ฝาย ปลูกต้นไม้กว่า 9,900 ต้น ใช้กำลังสองมือตัดลำไผ่ โกยหินและดิน ปั้นฝายกั้นน้ำ เพื่อหวังให้สัตว์น้อยใหญ่มีน้ำกินในหน้าแล้ง ทำทุกวัน ทุกเดือน ทุกปี ไปเรื่อยโดยไม่มีค่าจ้างค่าแรง ไม่หวังสิ่งตอบแทน มีเพียงแรงจูงใจคือรักษาแหล่งน้ำและผืนป่า เพื่อถวายในหลวง และตอบแทนบุญคุณของธรรมชาติที่อาศัยอยู่
วันสำคัญของย่ายิ้ม ไม่ใช่วันเกิด ไม่ใช่วันหยุดราชการ แต่ คือ วันพระ ที่บรรจบมาทุกอาทิตย์ ย่ายิ้มจะเก็บของใช้จำเป็นพร้อมเสบียงเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่งกายในสภาพทะมัดทะแมง เดินทางออกจากบ้านซึ่งแวดล้อมด้วยป่าไผ่อันรกชัฏไปยังวัดของหมู่บ้านซึ่งเป็นระยะทางไกล กว่า 7 กิโลเมตร เพื่อมาถือศีล 8 ที่วัดทุก ๆ วันพระ
หากใครยังจำกันได้ ย่ายิ้ม จันทร์พร หรือ ย่ายิ้ม เย้ยยาก หญิงชราวัย 89 ปี รายนี้ เคยออกรายการ คนค้นฅน เมื่อปี 2556 โดยย่ายิ้มเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่กลางป่าลึกตัวคนเดียว โดยปราศจากสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ทั้ง ระบบสาธารณูปโภค ไม่มีประปา ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีบ้านหลังใหญ่โต ไม่มีรถคันโก้ อาหารดีๆราคาแพง และไม่ได้แตะต้องเงินทอง มานานกว่า 20 ปี ทั้งที่มีครอบครัว มีลูกชาย 2 คน ที่ยังคอยดูแลแม่ชราคนนี้อยู่ห่าง ๆ แต่ถึงจะรบเร้ายังไง ย่ายิ้มก็ยังยืนกรานที่จะไม่ไปอยู่กับลูก-หลาน โดยให้เหตุว่า บ้านกลางป่าของแก ทำให้ชีวิตไม่วุ่นวาย พร้อมกับทิ้งคำพูดสุดซึ้งให้ลูกหลานรุ่นหลังได้เก็บเป็นข้อคิดเตือนใจ ดังนี้
ความเจริญอยู่ที่ไหน มันก็ทุกข์ยากที่นั่น อยู่บนเขานี้ ไม่มีเงินย่าก็ยังอยู่ได้ แต่ถ้าอยู่ในตัวเมือง ไม่มีเงินอยู่ไม่ได้เลยหนา ต้องซื้อเอาทุกอย่าง ไปอยู่ก็จะเดือดร้อนเขา
ข้อมูลจาก http://www.domrie.com/2017/04/p207.html
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า วรณัน สาระศาลิน ได้เผยแพร่เรื่องราวชีวิตของหญิงชรารายหนึ่ง ที่ใช้ชีวิตอยู่กลางป่าเพียงลำพังนานกว่า 40 ปี โดยแกใช้ชีวิตทุกวันอยู่กับธรรมชาติ สร้างฝายชะลอน้ำ และปลูกต้นไม้ด้วยมือตัวเองเพื่อถวายในหลวง และตอบแทนบุญคุณของธรรมชาติที่อาศัยอยู่ อีกทั้งยังขึ้น-ลงเขาเป็นระยะทางไกลว่า 7 กิโลเมตร ทุกๆวันพระ เพื่อเดินทางไปถือศีล 8 ที่วัด อีกด้วย
โดยเฟซบุ๊ก วรณัน สาระศาลิน ได้โพสต์รูปภาพของหญิงชรา พร้อมเขียนข้อความบอกเล่าเรื่องราวสุดประทับใจที่เกิดขึ้นดังนี้
ย่ายิ้ม หญิงชราวัย 89 ปี ชาวจังหวัดพิษณุโลก ที่หันหลังให้กับความเจริญของโลกภายนอก อาศัยอยู่กลางป่าเพียงลำพังนานกว่า 40 ปี ย่ายิ้มสร้างฝายชะลอน้ำ 16 ฝาย ปลูกต้นไม้กว่า 9,900 ต้น ใช้กำลังสองมือตัดลำไผ่ โกยหินและดิน ปั้นฝายกั้นน้ำ เพื่อหวังให้สัตว์น้อยใหญ่มีน้ำกินในหน้าแล้ง ทำทุกวัน ทุกเดือน ทุกปี ไปเรื่อยโดยไม่มีค่าจ้างค่าแรง ไม่หวังสิ่งตอบแทน มีเพียงแรงจูงใจคือรักษาแหล่งน้ำและผืนป่า เพื่อถวายในหลวง และตอบแทนบุญคุณของธรรมชาติที่อาศัยอยู่
วันสำคัญของย่ายิ้ม ไม่ใช่วันเกิด ไม่ใช่วันหยุดราชการ แต่ คือ วันพระ ที่บรรจบมาทุกอาทิตย์ ย่ายิ้มจะเก็บของใช้จำเป็นพร้อมเสบียงเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่งกายในสภาพทะมัดทะแมง เดินทางออกจากบ้านซึ่งแวดล้อมด้วยป่าไผ่อันรกชัฏไปยังวัดของหมู่บ้านซึ่งเป็นระยะทางไกล กว่า 7 กิโลเมตร เพื่อมาถือศีล 8 ที่วัดทุก ๆ วันพระ
หากใครยังจำกันได้ ย่ายิ้ม จันทร์พร หรือ ย่ายิ้ม เย้ยยาก หญิงชราวัย 89 ปี รายนี้ เคยออกรายการ คนค้นฅน เมื่อปี 2556 โดยย่ายิ้มเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่กลางป่าลึกตัวคนเดียว โดยปราศจากสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ทั้ง ระบบสาธารณูปโภค ไม่มีประปา ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีบ้านหลังใหญ่โต ไม่มีรถคันโก้ อาหารดีๆราคาแพง และไม่ได้แตะต้องเงินทอง มานานกว่า 20 ปี ทั้งที่มีครอบครัว มีลูกชาย 2 คน ที่ยังคอยดูแลแม่ชราคนนี้อยู่ห่าง ๆ แต่ถึงจะรบเร้ายังไง ย่ายิ้มก็ยังยืนกรานที่จะไม่ไปอยู่กับลูก-หลาน โดยให้เหตุว่า บ้านกลางป่าของแก ทำให้ชีวิตไม่วุ่นวาย พร้อมกับทิ้งคำพูดสุดซึ้งให้ลูกหลานรุ่นหลังได้เก็บเป็นข้อคิดเตือนใจ ดังนี้
ความเจริญอยู่ที่ไหน มันก็ทุกข์ยากที่นั่น อยู่บนเขานี้ ไม่มีเงินย่าก็ยังอยู่ได้ แต่ถ้าอยู่ในตัวเมือง ไม่มีเงินอยู่ไม่ได้เลยหนา ต้องซื้อเอาทุกอย่าง ไปอยู่ก็จะเดือดร้อนเขา
ข้อมูลจาก http://www.domrie.com/2017/04/p207.html