เป็นเรื่องที่ไม่เคยรู้มาก่อน! ทำไมต้องทำกับคนที่เพิ่งตายใน 20 นาทีแรก ถ้าทราบเหตุผลต้องขนลุกซู่

ทำไมต้องทำกับคนที่เพิ่งตายใน 20 นาทีแรก ถ้าทราบเหตุผลต้องขนลุกซู่


เรื่องบาปบุญ เวรกรรม ตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า เชื่อว่าพุทธศาสนิกชนหลายคนต่างศึกษาเพื่อทำความเข้าใจ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับจิต ทั้งตอนมีชีวิตหรือไม่มีชีวิต นับเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวมนุษย์ให้เกิดการกระทำทั้งสิ้น ทั้งนี้เราเคยสงสัยกันไหมว่า เหตุใดก่อนที่มนุษย์จะตาย จึงต้องมีการให้นั่งสงบจิต แล้วสวดมนต์ ส่วนใหญ่เชื่อกันว่า เป็นการทำจิตก่อนไปให้ดี เพื่อไปสู่ภพภูมิที่ดี  จะเป็นจริงหรือไม่นั่น ทางพระ นภดล สิริวโส ท่านได้ออกมาระบุเรื่องนี้ให้ฟังว่า

“จิตสุดท้ายก่อนตาย”

สำคัญก็จริง แต่ …….

“จิตหลังความตาย 20 นาทีแรก”

ก็มีความสำคัญในการเปลี่ยนภพด้วย

“การศึกษาทางประสาทสรีรวิทยา นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

พบว่าหนูที่ตายใหม่ๆ หัวใจหยุดทำงาน เลือดหยุดไปเลี้ยงสมอง แต่คลื่นสมองยังคงอยู่ในภาวะ “ตื่นตัวขั้นสูง”

บ่งบอกถึงการมีสติสัมปชัญญะของคนเมื่อหัวใจหยุดเต้น”

ดังนั้น ทางการแพทย์บอกว่า “ตาย” แต่สมองยังทำงานอยู่ เป็น “การสร้างภาพจากสังขารจิต 20 นาที” ว่าจะไปภพภูมิใด

ดังนั้น จึงควร “เหนี่ยวนำ ไม่ให้นิมิตมาหลอกหลอน 20 นาที หลังหัวใจหยุดเต้น (กรรม กรรมนิมิต คตินิมิต) การเข้าสู่ความมืด(ภวังคจิต) บังสุกุล คำศักดิ์สิทธิ์ของแต่ละศาสนาจะปลุกจิตให้ตื่นหรือถอนออกมาเอง”

แปลว่า ต่อให้ก่อนตายญาติและคนไข้ได้เตรียมตัวเหนี่ยวนำจิตเป็นอย่างดี จนตายไปแล้ว (ก็คือหัวใจหยุดทำงาน)

สมองก็ยังเหนี่ยวนำสิ่งที่ทำก่อนตายอยู่ เช่น ถ้ากำลังสวดมนตร์ภาวนา ตายไปแล้วจิตและสมองก็ยังหมกมุ่นอยู่กับการสวดมนตร์ภาวนา ดวงจิตก็ย่อมเปลี่ยนภพภูมิไปที่ดี

แต่หากสมมติว่า ก่อนตายเตรียมตัวดีมาก แต่เมื่อตายไปแล้ว

ญาติๆ ร้องไหร้ระงึมเสียงดังลั่น หรือ ลูกหลานทะเลาะแย่งสมบัติด้วยเสียงแซ่งแซ่ บรรยากาศเหล่านนั้นก็จะเหนี่ยวนำให้สมองครุ่นคิดตรงนั้นและก็นำพาดวงจิตไปสู่ภพภูมิไม่ดีได้นั่นเอง

ดังนั้น สิ่งที่ควรทำหลังความตาย 20 นาทีแรก

คือ สวดมนต์ โดยสิ่งที่อาจารย์อาภรณ์ทำประจำคือ เมื่อรู้ว่ามีคนไข้ตาย ก็จะหยิบขวดน้ำมนต์เย็นๆ ในตู้เย็นติดมือไป และหยดน้ำมนต์ที่ตาที่สาม (จักระ 6) ตรงหน้าผากหว่างคิ้ว เพื่อให้ความเย็นของน้ำไปส่งสัญญาณให้สมองที่ตรงกลางข้างในซึ่งยังทำงานอยู่ได้ตื่นตัวฟังเสียงสวดมนตร์หรือบังสุกุล แต่ถ้าใครไม่มีน้ำมนต์ ก็ให้ใช้น้ำเย็นธรรมดาก็ได้

สรุป

บรรยากาศในการเตรียมตัวก่อนตายและหลังความตาย 20 นาที

จะต้องปราศจากเสียงร้องไห้เศร้าโศก

การทะเลาะเบาะแว้ง

หรือการพูดเรื่องไม่สบายใจ

เพื่อให้คนตายได้เปลี่ยนภพภูมิที่ดีขึ้น

แต่ทั้งนี้ ตอนที่มีชีวิตอยู่ก็ต้องทำความดี ละความชั่ว ขัดเกลาจิตใจให้ผ่องใสด้วย

จะได้พร้อมเปลี่ยนภพภูมิได้ทุกที่ ทุกเวลา

จิตใครเศร้าหมอง ก็สั่งจิตให้คลายความเศร้าหมอง ให้อภัยปล่อยวาง

คิดซะว่ากฎหมายเอาผิดไม่ได้ แต่ก็หนีกฏแห่งกรรมไม่พ้น ปล่อยให้เป็นหน้าที่กฏแห่งกรรม

เราไม่ต้องไปเอาคืนแก้แค้น เอาเวลามาทำจิตให้ผ่องใสเข้าสู่ความว่างดีกว่า

ที่มา : พระนพดล สิริวํโส