เปิดใจสาวถูกเครนรถไฟฟ้าทับรถ กับวินาทีเฉียดตาย รับคิดถึงแต่หน้าลูก
ถ้าตอนนั้นไม่ตัดสินใจเหยียบเบรก ตอนนี้อาจจะไม่มีชีวิตรอดมาถึงตรงนี้ได้
กลายเป็นประเด็นที่หลายคนพากันหวั่นวิตกและเป็นกังวลใจอย่างมาก โดยเฉพาะบรรดาผู้ใช้รถใช้ถนนที่จำเป็นต้องผ่านบริเวณ ถ.พหลโยธิน ที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้า ที่นอกจากจะต้องทนกับปัญหารถติดแล้ว ชีวิตยังตกอยู่ในความเสี่ยงอันตราย หลังจากกรณีเกิดอุบัติติเหตุชวนช็อก โครงเหล็กก่อสร้างรถไฟฟ้า สายสีเขียว (เหนือ) ขนาดใหญ่ น้ำหนักร่วม 1 ตันหล่นลงมาทับที่กระโปรงหน้ารถเก๋งสีเขียว ที่ บริเวณ ถ.พหลโยธินขาเข้า ก่อนถึงเมเจอร์ รัชโยธิน แต่เคราะห์ดีหญิงสาวผู้ขับรถเอาชีวิตรอดมาได้อย่างหวุดหวิด
ล่าสุด (18 มีนาคม 2560) ผู้สื่อข่าวรายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง AMARIN TVHD
ได้เปิดเผยรายงานบทสัมภาษณ์จากจากคุณสุพรรณี ลาสุดี อายุ 33 ปี
หญิงผู้เสียหายที่ขับรถคันดังกล่าว โดยหลังเกิดเหตุได้เปิดเผยว่า
เธอขับรถเส้น ถ.พหลโยธิน เพื่อไปทำงานมาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว
พอเริ่มมีการก่อสร้างรถไฟฟ้า ก็พยายามหลีกเลี่ยง
ตนเคยหวาดเสียวเหมือนกันว่าเหล็กจะร่วงมา แต่ไม่คิดว่าจะเจอกับตัว
เพราะมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลน่าจะดูแลความปลอดภัยทางท้องถนนให้กับประชาชน
นอกจากนี้ คุณสุพรรณี ยังเล่าว่า ตอนเกิดเหตุตกใจและเสียขวัญมาก ตนรีบโทรหาที่บ้าน ตอนแรกที่บอกว่าแท่งเหล็กหล่นทับรถก็คิดว่าเป็นเหล็กธรรมดา แต่พอส่งรูปให้ดูทุกคนต่างตกอกตกใจเป็นอย่างมาก ในวินาทีนั้น ตนนึกถึงลูกวัย 3 ขวบและสามี คิดว่าถ้าไม่อยู่พวกเขาจะอยู่อย่างไร เพราะตนยังไม่ได้ร่ำลาใคร เป็นเหมือนวินาทีสุดท้ายของชีวิต ถ้าตอนนั้นไม่ตัดสินใจเหยียบเบรก ตอนนี้อาจจะไม่มีชีวิตรอดมาถึงตรงนี้ได้
ด้านรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ได้ออกมาชี้แจงว่า ชิ้นส่วนที่ร่วงลงมาเป็นเครื่องยกคานเหล็กสำหรับติดตั้งทางวิ่งรถไฟฟ้า โดยอุปกรณ์เกิดการชำรุดขึ้น 1 ด้าน เลยทำให้เครนที่จะยกเสียสมดุลและร่วงลงมา และเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ได้มีคำสั่งให้ บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เปลี่ยนอุปกรณ์ดังกล่าวใหม่ทั้งหมด
ทั้งนี้ได้มีบทลงโทษกับผู้ควบคุมงานก่อสร้างดังกล่าวด้วย ส่วนผู้เสียหาย ทางบริษัทได้รับผิดชอบนำรถใหม่มาให้ใช้ก่อนชั่วคราว และเตรียมเจรจาเรื่องการชดใช้ให้ในวันที่ 22 มีนาคมนี้
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว, จส.100, Twitter @oosora
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม รายการทุบโต๊ะข่าว
กลายเป็นประเด็นที่หลายคนพากันหวั่นวิตกและเป็นกังวลใจอย่างมาก โดยเฉพาะบรรดาผู้ใช้รถใช้ถนนที่จำเป็นต้องผ่านบริเวณ ถ.พหลโยธิน ที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้า ที่นอกจากจะต้องทนกับปัญหารถติดแล้ว ชีวิตยังตกอยู่ในความเสี่ยงอันตราย หลังจากกรณีเกิดอุบัติติเหตุชวนช็อก โครงเหล็กก่อสร้างรถไฟฟ้า สายสีเขียว (เหนือ) ขนาดใหญ่ น้ำหนักร่วม 1 ตันหล่นลงมาทับที่กระโปรงหน้ารถเก๋งสีเขียว ที่ บริเวณ ถ.พหลโยธินขาเข้า ก่อนถึงเมเจอร์ รัชโยธิน แต่เคราะห์ดีหญิงสาวผู้ขับรถเอาชีวิตรอดมาได้อย่างหวุดหวิด
นอกจากนี้ คุณสุพรรณี ยังเล่าว่า ตอนเกิดเหตุตกใจและเสียขวัญมาก ตนรีบโทรหาที่บ้าน ตอนแรกที่บอกว่าแท่งเหล็กหล่นทับรถก็คิดว่าเป็นเหล็กธรรมดา แต่พอส่งรูปให้ดูทุกคนต่างตกอกตกใจเป็นอย่างมาก ในวินาทีนั้น ตนนึกถึงลูกวัย 3 ขวบและสามี คิดว่าถ้าไม่อยู่พวกเขาจะอยู่อย่างไร เพราะตนยังไม่ได้ร่ำลาใคร เป็นเหมือนวินาทีสุดท้ายของชีวิต ถ้าตอนนั้นไม่ตัดสินใจเหยียบเบรก ตอนนี้อาจจะไม่มีชีวิตรอดมาถึงตรงนี้ได้
ด้านรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ได้ออกมาชี้แจงว่า ชิ้นส่วนที่ร่วงลงมาเป็นเครื่องยกคานเหล็กสำหรับติดตั้งทางวิ่งรถไฟฟ้า โดยอุปกรณ์เกิดการชำรุดขึ้น 1 ด้าน เลยทำให้เครนที่จะยกเสียสมดุลและร่วงลงมา และเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ได้มีคำสั่งให้ บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เปลี่ยนอุปกรณ์ดังกล่าวใหม่ทั้งหมด
ทั้งนี้ได้มีบทลงโทษกับผู้ควบคุมงานก่อสร้างดังกล่าวด้วย ส่วนผู้เสียหาย ทางบริษัทได้รับผิดชอบนำรถใหม่มาให้ใช้ก่อนชั่วคราว และเตรียมเจรจาเรื่องการชดใช้ให้ในวันที่ 22 มีนาคมนี้
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว, จส.100, Twitter @oosora
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม รายการทุบโต๊ะข่าว