สารที่ทำให้พริกกลายเป็นพืชที่มีรสชาติเผ็ดร้อนนั้นมีชื่อว่า "แคปไซซิน"
ซึ่งมีลักษณะเป็นกรด ถูกเข้าใจผิดกันเยอะว่ามันอยู่ในเม็ดของพริก
แต่ที่จริงนั้นแคปไซซินถูกพบอยู่ในผิวด้านในและไส้ของพริกต่างหาก
พวกมันจะละลายออกมากับน้ำเวลาที่ถูกนำไปทำอาหาร
ในทางวิทยาศาสตร์นั้นจัดให้รสเผ็ดจากแคปไซซินเป็นสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายประเภทหนึ่ง
ซึ่งแคปไซซินจะทำให้เกิดความระคายเคืองที่ทางเดินอาหาร
ร่างกายของมนุษย์จึงต้องบังคับให้ Mucous Membranes
ที่อยู่ในช่องจมูกทำการพองตัวและหลั่งสารที่เราเรียกกันว่า "น้ำมูก"
ออกมาเพื่ออุดจมูกไม่ให้สิ่งแปลกปลอมอย่างแคปไซซินเข้าสู่ปอดได้
(แบบนี้ก็พอจะคิดได้ว่าคนที่ชอบกินเผ็ดนี่เป็นคนเสพติดความเจ็บปวดเหมือนกันนะเนี่ย)
เหตุที่พริกต้องสร้างแคปไซซินขึ้นมา นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่าเป็นการป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกินพริกเป็นอาหาร เพราะต้นพริกนี่ก็คงจะคิดว่าพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเอาพริกไปกินก็ไม่มีประโยชน์ สู้ให้พวกสัตว์ปีกอย่างนกที่แคปไซซินทำอะไรพวกมันไม่ได้กินเข้าไปแล้วขยายพันธุ์ให้ไกลๆ ด้วยการบินไปทิ้งระเบิดไปยังดีกว่า แต่ต้นพริกคงจะประมาทมนุษย์เกินไป นี่แหละของแซ่บเลย
เหตุที่พริกต้องสร้างแคปไซซินขึ้นมา นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่าเป็นการป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกินพริกเป็นอาหาร เพราะต้นพริกนี่ก็คงจะคิดว่าพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเอาพริกไปกินก็ไม่มีประโยชน์ สู้ให้พวกสัตว์ปีกอย่างนกที่แคปไซซินทำอะไรพวกมันไม่ได้กินเข้าไปแล้วขยายพันธุ์ให้ไกลๆ ด้วยการบินไปทิ้งระเบิดไปยังดีกว่า แต่ต้นพริกคงจะประมาทมนุษย์เกินไป นี่แหละของแซ่บเลย