คลินิกแก้หนี้ by SAM โครงการดี ๆ ที่จะช่วยแก้ปัญหาหนี้เสียบัตรให้ประชาชนผ่อนชำระได้ง่ายขึ้น ผ่อนจบ ยกดอกเบี้ยค้างเดิมให้หมด
ในรอบปีที่ผ่านมา
อัตราหนี้ครัวเรือนของประเทศไทยสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
วัดจากตัวเลขหนี้ครัวเรือน ไตรมาส 2/2563 แตะระดับ 83.8% ต่อจีดีพี
นับเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 18 ปี
สาเหตุสำคัญมาจากสภาพเศรษฐกิจในประเทศตกต่ำ
ประกอบกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19)
ยิ่งซ้ำเติมให้คนจำนวนมากสูญเสียรายได้ ขาดสภาพคล่องในการจับจ่าย
จึงต้องกู้หนี้ยืมสินเพิ่มขึ้น ในขณะที่คนมีหนี้สินเดิมคงค้างอยู่แล้ว
กลับยิ่งได้รับผลกระทบหนัก
เพราะไม่สามารถผ่อนชำระคืนแก่สถาบันการเงินได้ดังเดิม
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังเผชิญกับปัญหาดังกล่าว
สิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรกก็คือ ต้องรู้จักบริหารหนี้สิน
ด้วยการตรวจสอบรายรับ-รายจ่าย-จำนวนหนี้ที่มีทั้งหมดให้ชัดเจน
เพื่อวางแผนในการชำระหนี้ ถ้าสามารถเจรจากับสถาบันการเงินได้
ควรรีบเข้าไปติดต่อหาทางออกที่ดีที่สุดร่วมกัน และข้อสำคัญก็คือ อย่าเพิ่งก่อหนี้ใหม่เด็ดขาดจนกว่าจะชำระหนี้เก่าให้หมด ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นหนี้ต่อไปไม่รู้จบ
ส่วนใครที่จำเป็นต้องใช้บัตรกดเงินสด และบัตรเครดิต ในการสำรองค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไปก่อน แต่ไม่สามารถหมุนเงินมาชำระคืนได้ทัน จนกลายเป็นหนี้เสีย (NPL) ไปแล้ว ก็อย่าเพิ่งหมดหวัง อย่างน้อยก็ยังมีอีกหนึ่งหนทางที่ช่วยเหลือเราได้ นั่นคือ "โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM" โดยความร่วมมือของธนาคารแห่งประเทศไทย บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) และสถาบันการเงิน ทั้งธนาคารพาณิชย์ และ Non-Bank รวม 35 แห่ง ที่จะจัดการปัญหาหนี้เสียสารพัดบัตรให้จบในที่เดียว
และเมื่อต้นปี 2563 ธนาคารออมสิน สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐได้เข้าร่วม "โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM" ด้วย เนื่องจากเล็งเห็นถึงความสำคัญในการช่วยเหลือลูกหนี้แก้ปัญหาหนี้เสียบัตร ดังนั้น ถ้าคุณเป็นลูกค้าสินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อบัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน และค้างชำระเป็นหนี้เสียมาก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ก็สามารถเข้าร่วม "โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM" กับธนาคารออมสิน ได้เลย ไม่ว่าอาชีพไหนก็สมัครได้
ส่วนใครที่จำเป็นต้องใช้บัตรกดเงินสด และบัตรเครดิต ในการสำรองค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไปก่อน แต่ไม่สามารถหมุนเงินมาชำระคืนได้ทัน จนกลายเป็นหนี้เสีย (NPL) ไปแล้ว ก็อย่าเพิ่งหมดหวัง อย่างน้อยก็ยังมีอีกหนึ่งหนทางที่ช่วยเหลือเราได้ นั่นคือ "โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM" โดยความร่วมมือของธนาคารแห่งประเทศไทย บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) และสถาบันการเงิน ทั้งธนาคารพาณิชย์ และ Non-Bank รวม 35 แห่ง ที่จะจัดการปัญหาหนี้เสียสารพัดบัตรให้จบในที่เดียว
และเมื่อต้นปี 2563 ธนาคารออมสิน สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐได้เข้าร่วม "โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM" ด้วย เนื่องจากเล็งเห็นถึงความสำคัญในการช่วยเหลือลูกหนี้แก้ปัญหาหนี้เสียบัตร ดังนั้น ถ้าคุณเป็นลูกค้าสินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อบัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน และค้างชำระเป็นหนี้เสียมาก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ก็สามารถเข้าร่วม "โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM" กับธนาคารออมสิน ได้เลย ไม่ว่าอาชีพไหนก็สมัครได้
ทั้งนี้
ผู้สมัครเข้าโครงการจะได้รับการรวมหนี้จากทุกบัตรที่เป็นหนี้เสีย
แล้วมาผ่อนจ่ายที่เดียว ในอัตราดอกเบี้ยเพียง 4-7% ต่อปี
พร้อมปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่ผ่อนปรนเป็นพิเศษ คือ
ให้คุณผ่อนชำระคืนเฉพาะเงินต้นเท่านั้น โดยมีระยะเวลาผ่อนนานสูงสุดถึง 10
ปี เท่ากับว่ายอดผ่อนต่อเดือนจะไม่สูงมาก
เช่น หากมีหนี้ 50,000 บาท ยอดผ่อนต่อเดือนจะอยู่ที่ประมาณ 600 บาท และเมื่อผ่อนชำระเสร็จสิ้นตามสัญญาจะยกดอกเบี้ยค้างชำระให้ทั้งหมดด้วย ถือเป็นโครงการดี ๆ ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยแก้ปัญหาหนี้บัตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลจริง
เช่น หากมีหนี้ 50,000 บาท ยอดผ่อนต่อเดือนจะอยู่ที่ประมาณ 600 บาท และเมื่อผ่อนชำระเสร็จสิ้นตามสัญญาจะยกดอกเบี้ยค้างชำระให้ทั้งหมดด้วย ถือเป็นโครงการดี ๆ ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยแก้ปัญหาหนี้บัตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลจริง
เรียกได้ว่า ธนาคารออมสิน
พร้อมช่วยปลดล็อกหนี้บัตรอย่างครบวงจร
ทั้งแบ่งเบาภาระดอกเบี้ยให้ลูกค้าบัตรที่มีสถานะเป็นหนี้ดี
แต่ก็ไม่ทิ้งลูกค้าที่เป็นหนี้เสีย ใครอยากหมดหนี้ไว ๆ
สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ by
SAM ได้ที่ www.debtclinicbysam.com
นอกจากนี้สามารถติดตามข่าวสารโครงการดี ๆ และมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ จากธนาคารออมสินได้ที่ www.gsb.or.th หรือ เฟซบุ๊ก GSB Society