หัดยุ่งเรื่องของคนอื่นให้น้อย แล้วชีวิตจะมีความสุข

หัดยุ่งเรื่องของคนอื่นให้น้อย แล้วชีวิตจะมีความสุข

บางคนก็ไม่ชอบเปิดเผยเรื่องส่วนตัวให้ใครรับรู้ ดังนั้น ก็อย่าไปซอ กแซกถามอะไรกับเขานักเลย ทำให้เขาอึดอัดใจเปล่าๆ อย ากรู้เท่าที่เขาสบายใจก็พอ จะได้ไม่เสียมิตร เรื่องบางเรื่องนั้น ถ้ามันไม่ใช่เรื่องของเรา เราก็ไม่ควรเข้าไปยุ่ง โดยเฉพาะเรื่องของครอบครัวคนอื่น ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเรา ยิ่งไม่ควรเข้าไปยุ่งอย่างเด็ดข า ด ต่อให้เราจะรู้ดีกับเรื่องนั้น มากแค่ไหน ก็ไม่ควรเสนอตัวหรือเข้าไปยุ่งอย่างเด็ดข า ด

เพราะคนที่ชอบเข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นนั้น มักจะไม่มีความสุขในการใช้ชีวิตในสังคม เพราะคนส่วนใหญ่มักจะมองว่าคนแบบนี้ มักจะคบหาไม่ได้ หรือพูดอะไรให้ฟังไม่ได้ ยิ่งถ้าเป็นความลับหรือเรื่องสำคัญ ยิ่งไม่มีใครที่จะอย ากบอ กหรือให้รู้เด็ดข า ด

เพราะฉะนั้นจงเป็นคนเงียบๆ อยู่เป็นกลาง ไม่ต้องเข้าไปยุ่งกับชีวิตของคนอื่นจนทำให้ตัวเราเองมีปัญหา ปล่อยให้คนอื่นจัดการเรื่องของเขาไป ไม่ต้องไปหวังดีหรืออย ากช่วยอะไรเขา เพราะคนที่เดือ ดร้อนสุดท้ายอาจจะเป็น ตัวเรา ก็เป็นได้

ภาวนามาก ๆ ดูตัวเองมาก ๆหลวงพ่อชา สุภัทโท พระโพธิญาณเถร บอ กว่าธรรมดาเราดูแต่คนอื่น 90 % ดูตัวเองแค่ 10 %คือคอยดูแต่ความผิดของคนอื่น เพ่งโทษคนอื่น คิดแต่จะแก้ไขคนอื่นกลับเสียใหม่นะดูคนอื่นเหลือไว้ 10 %ดูเพื่อศึกษาว่า เมื่อเขาทำอย่ างนั้นคนอื่นจะรู้สึกอย่ างไรเพื่อเอามาสอนตัวเองนั่นแหละ

ดูตัวเอง พิจารณาตัวเอง 90 %จึงเรียกว่าปฏิบัติธรรมอยู่ธรรมชาติของจิตใจมันเข้าข้างตัวเองโบราณพูดว่า เรามักจะเห็นความผิดของคนอื่นเท่าภูเขาความผิดของตนเองเท่ารูเข็ม

มันเป็นความจริงอย่ างนั้นด้วยเราจึงต้องระวังความรู้สึกนึกคิดของตัวเองให้มาก ๆเห็นความผิดของคนอื่น ให้หารด้วย 10เห็นความผิดตัวเอง ให้คูณด้วย 10จึงจะใกล้เคียงกับความจริงและยุติธรรมเพราะเหตุนี้เราจะต้องพย าย ามมองแง่ดีของคนอื่น มาก ๆ

และตำหนิติเตียนตัวเองมาก ๆแต่ถึงอย่ างไร ๆ เราก็ยังเข้าข้างตัวเองนั่นแหละพย าย ามอย่ าสนใจการกระทำ การปฏิบัติของคนอื่นดูตัวเอง สนใจแก้ไขตัวเองนั่นแหละมาก ๆเช่น เข้าครัวเห็นเด็กทำอะไรไม่ถูกใจ

แล้วก็เกิดอารมณ์ร้อนใจยังไม่ต้องบอ กให้เขาแก้ไขอะไรหรอ กรีบแก้ไข ระงับอารมณ์ร้อนใจของตัวเองเสียก่อนเห็นอะไร คิดอะไร รู้สึกอย่ างไร ก็สักแต่ว่า

ใจเย็น ๆ ไว้ก่อนความเห็น ความคิด ความรู้สึกก็ไม่แน่ ไม่แน่ อาจจะถูกก็ได้ อาจจะผิดก็ได้เราอาจจะเปลี่ยนความเห็นก็ได้สักแต่ว่า สักแต่ว่า ใจเย็น ๆ ไว้ก่อน ยังไม่ต้องพูดดูใจเราก่อน สอนใจเราก่อน หัดปล่อยวางก่อนเมื่อจิตสงบแล้ว เมื่อจิตปกติแล้ว

จึงค่อยพูด จึงค่อยออ กความเห็นพูดด้วยเหตุ ด้วยผล ประกอบด้วยจิตเมตต ากรุณาขณะมีอารมณ์อย่ าเพิ่งพูดทำให้เสียความรู้สึกของผู้อื่นทำให้เสียความรู้สึก

ของตัวเอง ไม่เกิดประโยชน์เท่าที่ควรมักจะเสียประโยชน์ซ้ำไปเพราะฉะนั้น อยู่ที่ไหน อยู่ที่วัด อยู่ที่บ้านก็สงบ ๆ ๆ ไม่ต้องดูคนอื่นว่าเขาทำผิด ๆ ๆดูแต่ตัวเรา ระวังความรู้สึก ระวังอารมณ์ของเราเองให้มาก ๆพย าย ามแก้ไข พัฒนาตัวเรา นั่นแหละ

เห็นอะไรชอบ ไม่ชอบ ปล่อยไว้ก่อนเรื่องของคนอื่น พย าย ามอย่ าให้เข้ามาที่จิตใจเราถ้าไม่ระวัง ก็จะยุ่งกับเรื่องของคนอื่นไปเรื่อย ๆหาเรื่องอยู่อย่ างนั้น เอาเรื่องโน้นเรื่องนี้มาเป็นเรื่องของเราหมดมีแต่ยินดี ยินร้ า ย พอใจ ไม่พอใจ ทั้งวันอารมณ์มาก จิตไม่ปกติ ไม่สบาย ทั้งวัน ๆ ก็หมดแรง

ระวังนะพย าย ามต ามดูจิตของเรา รั ก ษ าจิตของเราให้เป็นปกติให้มากใครจะเป็นอะไร ใครจะทำอะไร ดีหรือไม่ดี เรื่องของเขาแม้เขาจะทำกับเรา ว่าเรา ก็เรื่องของเขาอย่ าเอามาเป็นอารมณ์ อย่ าเอามาเป็นเรื่องของเราดูใจเรานั่นแหละพัฒนาตัวเองนั่นแหละทำใจเราให้ปกติ สบาย ๆ มาก ๆหัด ฝึก ปล่อยวาง นั่นเองไม่มีอะไรหรอ กไม่มีอะไรสำคัญกว่าการต ามรั ก ษ าจิตของเราคิดดี พูดดี ทำดี มีความสุข

ที่มา  verrysmilejung